หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2549

บรั่นดี(Brandy)

จากงานเลี้ยงรับรองใน พระราชวัง ไปจนถึงงานออกเดตของคู่หนุ่มสาว คงไม่มีเหล้า ใด ๆ อีกแล้วที่จะเหมาะสมกับบรรยากาศยิ่งไปกว่าบรั่นดี คอนญักสีชา อาร์มาญักสีเข้ม หรือแม้แต่ออส์ เดอ วี สีใส ซึ่งล้วนแต่เป็นเหล้าในตระกูลบรั่นดีที่สามารถให้ความพอใจกับผู้ดื่ม ทุกระดับชั้น และงานเลี้ยงในทุกโอกาสด้วย คำว่าบรั่นดี นั้นมีรากศัพท์ที่เก่าแก่พอ ๆ กับประวัติศาสตร์ของการกลั่นเหล้าเลยทีเดียว

โดยที่ภาษาของประเทศด้านเหนือของยุโรปจะเรียกคำว่า เหล้า ด้วยสำเนียงที่คล้าย ๆ คำว่าบรั่นดี ภาษาอังกฤษึงจับมากระเดียดเรียกน้ำเมาโดยทั่วไปว่า บรั่นดี โดยจะมีความหมายเฉพาะเจาะจงถึงเหล้าที่ทำจากผลไม้ แต่อย่างเรา ๆ คำว่าบรั่นดีจะหมายถึงเหล้าที่กลั่นจากองุ่นเท่านั้น และถ้าพูดถึงบรั่นดีเมื่อใด ทุกคนย่อมจะนึกถึงคอนญักของฝรั่งเศสขึ้นมาทันที เนื่องจากคอนญักเป็นบรั่นดีที่ดีที่สุด เพียงแค่ดมความหอมหวนละเมียดละไมก็ชวนให้เพื้อฝันจนหลงไหลไปได้เหมือนกัน
แต่บรั่นดีที่จะใช้ชื่อคอนญักได้นั้น ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ได้กันมาง่าย ๆ เพราะจะต้องเป็นบรั่นดีที่ผลิตจากองุ่น ซึ่งปลูกในเมืองคอนญัค ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส และเขตรอบ ๆ เมืองเท่านั้น ว่ากันว่าดินที่นั่นเหมาะสำหรับการปลูกองุ่นอย่างมาก เนื่องจากจะมีส่วนที่เป็นหินปูนร่วมทำให้องุ่นที่ปลูกมีความเป็นกรดมากกว่าปกติ และมีคุณสมบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทำบรั่นดี

นอกจากที่เมืองคอนญักจะเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญแล้ว ก็ยังจะพอมีที่อื่น อีกบ้าง โดยห่างจากเมืองคอนญักลงไปทางใต้ประมาณ 150 ไมล์จะเป็นที่ตั้งของเมืองอาร์มาญัก ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นเนินเขา อากาศค่อนข้างร้อน และเป็นดินทราย เหมาะสำหรับการปลูกองุ่นพันธ์ FOLLE BLANCHE ซึ่งจะทำให้ได้บรั่นดีสีเข้มที่เรียกเฉพาะเจาะจงว่า อาร์มาญัก ซึ่งจะเป็นบรั่นดีที่ผ่านการกลั่นเพียงครั้งเดียว แต่ในขณะเดียวกันคอนญักนั้นจะผ่านการกลั่นถึงสองครั้ง และเมื่อกลั่นเสร็จแล้วจะต้องนำเข้าหมักในถังไม้โอ๊คมองเลซุงทันที ซึ่งถังไม้โอ๊ค ชนิดนี้จะมีลักษณะสีเข้ม และมียางค่อนข้างมาก จึงทำให้อาร์มาญัก ที่ผ่านการหมักแล้วมีเอกลักษณ์ในสีและรสชาติที่ไม่เหมือนใคร

ปัจจุบันมีคอนญักและอาร์มาญักให้เลือกซื้อหาไปดื่มกันมากมาย และถ้าเป็นพวกคอที่ชอบบรั่นดีประเภทนี้จริง ๆ จะสังเกตเห็นว่ามีสัญญลักษณ์ต่าง ๆ ที่นอกเหนือไปจากชื่อ ญี่ห้อ เช่นจะใช้สัญญลักษณ์ 3 ดาว สำหรับเหล้าที่มีราคาถูกที่สุด ที่บริษัทแต่ละแห่งผลิตมา ส่วนประเภทที่มีคุณภาพดีขึ้นไป จะใช้ตัวอักษรแทนความหมายดังนี้ F=FINE ,V=VERY ,O=OLD, S= SPECIAL ,P=PALE,X=EXTRA ดังนั้นถ้าเป็นคอนญัก XO ก็จะหมายถึง EXTRA OLD และการจะตั้งเป็น XO หรือ VSOP ได้นั้นเช่น VSOP จะต้องเป็นบรั่นดีที่ผ่านการบ่มไม่ต่ำกว่า 4 ปีครึ่ง และนโปเลียนจะต้องบ่มมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี เป็นต้น

นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องบรั่นดียังได้ให้ความเห็นว่าบรั่นดีจะเยี่ยมที่สุดเมื่อบ่มได้ประมาณ 20 ปี แต่ก็จะบ่มได้นานที่สุดไม่เกิน 70 ปี เพราะจะทำให้เหล้าเกิดการเน่าและเสียไปในที่สุด สำหรับบรั่นดีที่บรรจุขวดแล้วจะหยุดปฏิกิริยาการบ่ม(AGE) เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่คิดว่าเอาขวด VSOP มาเก็บไว้สัก 15 ปี จะทำให้รสชาติยอดเยี่ยมคงไม่ถูกต้องนัก เพราะนั่นเป็นการเข้าใจผิดที่มหันต์

แม้ว่าบรั่นดีจะเป็นเหล้าที่ทำมาจากองุ่นตามที่เรามักจะเข้าใจกัน แต่จริง ๆ แล้วบรั่นดียังสามารถทำมาจากผลไม้อื่น ๆ ได้อีก ซึ่งจะมีรสชาติที่ใกล้เคียงพอ ๆ กัน เช่น "คาลวาโดส ซึ่งทำมาจากแอปเปิ้ลแถวนอร์มังดี ในฝรั่งเศส ส่วนบรั่นดีอื่น ๆ ที่พอใช้ได้เช่น เชอร์รี่ บรั่นดีของสเปน และบรั่นดีจากโปรตุเกสที่น่ากล่าวถึงอีกประเภทหนึ่งคือ บรั่นดีที่ทำจากผลไม้อื่นซึ่งจะหมักในถังดิน หรือถังแก้วหรือถังไม้ที่เคลือบไว้ด้วยขี้ผึ้ง ซึ่งทำให้บรั่นดีที่ได้ออกมามีสีขาวใสบริสุทธิ์โดยบรั่นดีผลไม้เหล่านี้จะมีชื่อเรียกกันรวม ๆ ว่า ออส์เดอวี จะเป็นบรั่นดีที่ไม่มีรสหวาน เพราะเวลาหมักจะต้องรอจนน้ำตาลเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์จนหมด และที่แตกต่างไปจาคอนญักทั่ว ๆ ไปคือสามารถบ่มต่อในขวดแก้วได้ ถ้าายิ่งเก็บไว้รสจะยิ่งกลมกล่อม