หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

10 เหตุการณ์เด่น 'กีฬาไทย' ปี 2553

หลังเราได้ย้อนความจำเกี่ยวกับ เหตุการณ์เด่นที่ปะทุตลอดขึ้นทั้งปี 2010 ในโลกกีฬาต่างประเทศ กับ "10 เหตุการณ์เด่นกีฬาเทศปี 2010" ไปแล้ว ก็ถึงคราวที่เราจะกลับมาย้อนมองดูกีฬาภายในประเทศของเราเองว่า พุทธศักราช 2553 นั้นมีเรื่องไหนที่น่าสนใจ ควรค่าแก่การจดจำกันบ้าง



01.วิกฤติฟุตบอลทีมชาติไทย
แม้จะเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายปี แต่ความร้อนแรงน่าจะกลบเรื่องอื่นๆ ไปได้ไม่ยาก สำหรับวิกฤตศรัทธาฟุตบอลทีมชาติไทย จากผลงานตกต่ำร่วงรอบแรกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ จนนำมาสู่กระแสขับไล่ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ที่หนักหน่วงที่สุดเท่าที่นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คนใดเคยเผชิญมา



โดยกลุ่มแฟนบอลผู้ต่อต้านนายกลูกหนังไทย เกิดจากการก่อตัวรวมกันผ่านทางโลกอินเตอร์เน็ต ด้วยประเด็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานอันล้มเหลว โดยเฉพาะการที่ทีมชุดซูซูกิคัพ มีเวลาเตรียมตัวเพียงหนึ่งวัน นอกจากนี้เรื่องยังถูกเติมเชื้อเพลิงด้วยความคิดเห็นผ่านทางปลายปากกาของ คอลัมน์นิสต์กีฬาชื่อดัง ส่งผลให้กระแสบอลไทยสุดร้อนแรงนี้ อาจจะไม่หยุดอยู่เพียงปี 2553 เท่านั้น


02.สำเร็จ-ล้มเหลวเอเชียนเกมส์
ถือยังเป็นข้อสงสัยสำหรับผลงานของทัพนักกีฬาในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 "กวางโจวเกมส์" ว่าประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวกันแน่ เมื่อหลายสมาคมกีฬาทำผลงานได้เหนือความคาดหมาย ขณะบางสมาคมกีฬาก็ตกต่ำอย่างน่าใจหายเช่นกัน


แต่ที่ไม่ต้องสงสัยคือ เหล่าฮีโร่เหรียญทองที่ได้สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้ง ชาติ ไม่ว่าจะเป็นทีมนักเทควันโด, ทีมเรือใบ, ทีมตะกร้อ, ทีมวิ่งผลัดสาว รวมถึงพวกที่ไม่ได้เหรียญทอง แต่ผลงานน่าประทับใจอย่างทีมแบดมินตันสาว เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ผลงาน 13 เหรียญทอง ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า "ต่ำ" กว่าเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ในทีแรก และนั่นอาจหมายถึงคำถามที่ว่า วงการกีฬาบ้านเรากำลังหยุดนิ่ง หรือก้าวถอยหลังหรือไม่



03."ซูเปอร์บอล"ภราดร ศรีชาพันธ์ แขวนแร็คเกต
แม้จะไม่ได้ลงสนามโชว์ลีลาหวดแร็คเกตให้คนไทยได้ตามเชียร์เลยในระยะหลัง แต่เชื่อว่าทุกคนคงอดใจหายไปด้วยไม่ได้ เมื่อ "ซูเปอร์บอล"ภราดร ศรีชาพันธ์ นักเทนนิสระดับตำนานที่ดีที่สุดเท่าที่ไทยและเอเชียเคยมีมา ได้ประกาศรีไทร์อย่างเป็นทางการ ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศไทยแลนด์ โอเพ่น

เรียกว่าทุกสิ่งที่ ภราดร ได้ประทับตราลงบนหน้าวงการเทนนิสไทย ล้วนแต่เป็น "ปรากฏการณ์" ทั้งสิ้น และแน่นอนว่าการจากไปของอดีตนักหวดท็อปเทนของโลกคนนี้ ย่อมทิ้งรูโหว่มหาศาลให้กับวงการลูกสักหลาดไทย จนยากที่จะหาใครมาอุดรอยนี้ได้



04.ฟีม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ประสบอุบัติเหตุ
ขณะที่วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น เมื่อเรามี "เจ้าฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ โลดแล่นลงแข่งในเวทีระดับโลกอย่างโมโตทู แต่ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นปีที่น่าเศร้ากับการสูญเสีย คริสมาส วิไลโรจน์ นักบิดระดับตำนานไปด้วยโรคมะเร็ง ทิ้งไว้เพียงผลงานความสำเร็จมากมายเป็นอนุสรณ์ให้นักแข่งรุ่นหลังได้ระลึก ถึง

เท่านั้นไม่พอ หลังการสูญเสียของครอบครัว วิไลโรจน์ เพียงไม่กี่วัน "เจ้าฟีม" ก็มาประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ถึงขั้นสาหัสเล่นเอาแฟนๆ หายใจไม่ทั่วท้อง ได้แต่ภาวนาให้ศึกโมโตทูฤดูกาลหน้า จะยังคงมีนักบิดไทยหนึ่งเดียวคนนี้อยู่ในสนามระดับโลกต่อไป


05.เมืองทองฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก
ท่ามกลางกระแสตื่นตัวของฟุตบอลไทยที่ช่วยส่งให้ศึกไทยพรีเมียร์ลีก ขับเคี่ยวกันดุเดือดตามไปด้วย และทีมที่พิสูจน์แล้วว่าแข็งแกร่งทั้งผลงานในสนาม รวมถึงแรงสนับสนุนจากนอกสนามอย่าง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ก็สามารถเถลิงบัลลังก์แชมป์เป็นสมัยที่สองติดต่อกันไปได้ตามความคาดหมาย

ถึง แม้ปีนี้โฉมหน้าทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจาก ปีก่อน แต่ด้วยระบบการจัดการภายในสโมสรฟุตบอลที่ก้าวหน้าไปในทางความเป็นมืออาชีพ มากขึ้น อย่างที่เราสามารถเห็นได้ในทีม บุรีรัมย์-พีอีเอ, บางกอกกล๊าส เอฟซี หรือ อินทรี เพื่อนตำรวจ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าปีหน้า ขุนพล "กิเลนผยอง" จะไม่มีทางป้องกันแชมป์เป็นสมัยที่สามของตัวเองได้โดยง่ายอย่างแน่นอน


06.ฮูลิแกนการท่าเรือไทย เอฟซี ในฟุตบอลถ้วย ก.
ขณะที่ลีกฟุตบอลไทยกำลังโตวันโตขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องมามีรอยด่างพร้อยครั้งสำคัญในเหตุความวุ่นวายระหว่างเกม ฟุตบอลนัดชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. เมื่อสาวกทีม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี เปิดฉากไล่ทำร้ายกองเชียร์ของ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ซึ่งส่งผลให้มีทั้งแฟนบอลได้รับบาดเจ็บ และข้าวของเสียหายไปมากมาย

เหตุการณ์วุ่นวายดังกล่่าว ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างสมาคมฟุตบอล ถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัย ที่สุดท้ายแล้วยังถูกตอกย้ำถึงความผิดพลาดอีกครั้ง เมื่อแฟนบอลการท่าเรือเจ้าเดิม ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับแฟนบอลบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่สนามลีโอ สเตเดียม คำถามคือ จะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้อีกสักกี่ครั้งกันถึงจะเพียงพอ?



07.อำลาอาลัย "มนุษย์ขาเหล็ก" ปรีดา จุลละมณฑล
เป็นข่าวเศร้าอีกครั้งของวงการกีฬาไทยในรอบปี กับการสูญเสีย ปรีดา จุลละมณฑล อดีตยอดนักปั่นน่องเหล็กที่เคยฝากผลงานสุดยอดคว้าได้ถึง 4 เหรียญทองจากเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพในปี 2509

คอกีฬารุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้นหูชื่อของ ปรีดา จุลละมณฑล หรือ "มนุษย์ขาเหล็ก" มากนัก แต่แน่นอนว่าผลงานความยิ่งใหญ่ที่ท่านเคยทำไว้จะอยู่คู่กับวงการกีฬาไทยตลอด ไป เพื่อรอวันถูกเล่าขาน และให้นักจักรยานรุ่นหลังๆ ได้ดำเนินรอยตามต่อไป



08.นักกีฬาแบดมินตันประท้วงสมาคม
แม้อนาคตของทีมนักตบลูกขน ไก่ไทยจะดูสดใส จากที่มีดาวรุ่งถูกดันขึ้นมาแจ้งเกิดกันหลายคน แต่ก็กลับเป็นอีกหนึ่งสมาคมที่ไม่สามารถปัญหาหลุดพ้นความขัดแย้งระหว่าง นักกีฬากับผู้บริหารได้ โดยประเด็นที่เกิดขึ้นจากเรื่องสิทธิประโยชน์กลางของสมาคมฯ หรือ"ทีมคอนแทร็ค" ที่นักกีฬาซึ่งนำโดย "ซูเปอร์แมน" พลศักดิ์ บุญสนะ เห็นต่างว่าควรจะแยกกันเซ็นโดยอิสระมากกว่า ก่อนที่เรื่องดังกล่าวจะบานปลาย เมื่อมีการประท้วงถึงขั้นขู่เลิกเล่นทีมชาติเลยทีเดียว

แต่สุดท้าย เรื่องราวก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เมื่อทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาความกันได้ ก่อนที่แบดมินตัน จะกลายเป็นหนึ่งในกีฬาที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของไทยอีกหนึ่งกีฬาในปีนี้


09.เลือกตั้งนายกสมาคมบาสฯไม่โปร่งใส
ข่าวต่อมายังเป็นปัญหาการบริหารภายในสมาคมกีฬาเช่นเคย โดยเที่ยวนี้เป็นคราวของสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยที่มี นายสุเทพ เบญจโภคี นั่งครองเก้าอี้นายกสมาคมมาหลายสมัย แต่ภายหลังการเข้าตรวจสอบการเลือกตั้งโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ก็พบว่ามีการทุจริต หลายสโมสรที่ลงคะแนนเป็นเพียง"สโมสรผี" ส่งผลให้บอร์ดสมาคมดังกล่าวถูกโละยกชุดทันที


โดยปัญหาสโมสรผีของสมาคมบาสฯ ยังทำให้เกิดกระแสการตื่นตัวไปยังสมาคมอื่นๆ เมื่อมีการกำชับจาก กกท. ว่า จะโยงไปตรวจสอบในสมาคมอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการเปิดเผยของ "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่ากกท. ได้ยอมรับว่ามีหลายสมาคมที่ยังมีปัญหาในเรื่องนี้อยู่ และจะต้องดำเนินการจัดการขั้นเด็ดขาดโดยทันที


10.ตั้ง สมบัติ คุรุพันธ์ นั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงกีฬา
ข่าวสุดท้าย แม้อาจจะไม่ใช่ข่าวที่เรียกเสียงฮือฮา หรือเรียกความสนใจได้มากนัก แต่ถือเป็นหนึ่งในข่าวที่มีความสำคัญ และมีผลกระทบกับวงการกีฬาไทยอย่างมาก สำหรับการโยก นายสมบัติ คุรุพันธ์ มานั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา


โดย นายสมบัติ เคยสร้างผลงานในฐานะเจ้าโปรเจ็กต์ต่างๆ สมัยยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ หรือกรมพลศึกษา ไว้มากมาย ก็ต้องรอดูว่า วงการกีฬาไทยภายใต้ยุคของ "ปลัดสมบัติ" คนนี้จะเดินหน้าไปในทิศทางใดต่อไป.


ที่มา : ไทยรัฐ

10 เหตุการณ์เด่น 'กีฬาเทศ' ปี 2010

แล้วก็ถึงเวลาเปลี่ยนหน้าศักราชใหม่ จากปี 2010 สู่ 2011 ซึ่งไม่น่าเชื่อเวลาจะผ่านเลยรวดเร็ว ตั้งแต่เดือนม.ค. มาจนถึงเดือนธ.ค. เป็นเวลา 12 เดือนเข้าไปแล้ว หลายสิ่งมากมายไหลผ่านไปตามเวลาของโลกที่ไม่เคยหยุดหมุนรอบตัวเอง เช่นเดียวกับวงการกีฬาโลกที่ก็ไม่เคยหยุดเดินนาฬิกาของตัวมันเองเช่นกัน


ปี 2010 ถือเป็นปีที่วงการกีฬามีความเคลื่อนไหวมากที่สุดอีกหนึ่งปี นับตั้งแต่วินาทีแรก จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ชนะ-แพ้ อยู่ในสายเลือดทุกเกมกีฬา และในโอกาสนี้ที่เราจะต้องลาจากโลกกีฬาปี 2010 "ทีมข่าวกีฬาไทยรัฐออนไลน์" เลยขออาสาขุด 10 เหตุการณ์เด่นมาเตือนความจำคอกีฬาทุกท่านอีกครั้ง

01. ฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าไฮไลท์สำคัญในปี 2010 ที่คอกีฬาทั่วทั้งโลกทุกคนรอคอยนั้น อยู่ในช่วงเดือนมิ.ย. เมื่อฟุตบอลโลก ครั้งที่ 19 ได้ระเบิดเปิดฉากขึ้นบนดินแดนกาฬทวีปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนัง และเหมือนกันกับทุกครั้งที่ไม่ว่าเวิลด์คัพหนใด จะต้องทิ้งสิ่งที่ทุกคนจะพูดถึงไปอีกอย่างน้อยสี่ปี เช่นเดียวกับ เซาธ์แอฟริกา 2010 ครั้งนี้

สเปนคว้าแชมป์โลก, อังกฤษฟอร์มห่วย, หลุยส์ ซัวเรซ ทำแฮนด์ออฟก๊อด, ฝรั่งเศสประท้วง, ลูกบอลจาบูลานี, วูวูเซลา, ลาริสซา ริเกลเม ฯลฯ และอีกมากมาย รวมถึง "เจ้าหมึกพอล" ที่แม้มันจะลาโลกนี้ไปตามอายุขัยเรียบร้อย แต่ล่าสุดซีไลฟ์ อะควาเรียม ในโอเบอร์เฮาเซน เยอรมนี ได้เสาะหา "เจ้าหมึกพอล" ตัวใหม่มาทดแทนไว้แล้ว และต้องรอดูว่า เจ้าหมึกพอลเบอร์ 2 นี้จะทายผลบอลแม่นเหมือนตัวแรกหรือไม่


02. แมนนี ปาเกียว กับเข็มขัดแชมป์โลกเส้นที่ 8
กลายเป็นตำนานและความภาคภูมิใจแห่งชาวเอเชียอย่่างแท้จริง สำหรับ "แพ็คแมน" แมนนี ปาเกียว ที่ต้องยอมรับว่าปี 2010 นี้เป็นปีของโคตรกำปั้นตากาล็อก ไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม กับการเอาชนะทั้ง โจชัว คล็อตเตย์ และ อันโตนิโอ มาร์การิโต จนสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักมวยคนแรกที่มีเข็ดขัดแชมป์โลกถึง 8 เส้น ขณะที่นอกสนาม ปาเกียว ยังได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้แทนราษฎร์ในจังหวัดซารังกานีบ้านเกิด อีกด้วย

แต่เหลืออีกเพียงสิ่งเดียวที่ยังคั่งค้างในใจของ ปาเกียว มาตลอดปีอันยิ่งใหญ่ รวมอาจจะต่อเนื่องยาวนานไปอีกหลายปี คือ ไฟต์ตัดสินความเป็นยอดมวยแห่งยุคกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ โคตรกำปั้นผู้ไม่เคยแพ้ใคร ในฐานะคู่ปรับคนสำคัญ และจนถึงบัดนี้ ปริศนาที่ว่าใครคือนักชกที่เก่งกว่ากันยังคงดำมืดต่อไป จนกว่าทั้งคู่จะได้เผชิญหน้ากันบนสังเวียนผ้าใบเพื่อตอบคำถามนี้เสียที


03.ราฟาเอล นาดาล แคเรียร์สแลมคนที่ 7 ของโลก
ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่บนเวทีลูกสักหลาดโลกเหนือคู่ปรับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อย่างเต็มตัว สำหรับ "เอล มาทาดอร์" ราฟาเอล นาดาล ที่นอกจากจะแซงขึ้นคว้าตำแหน่งนักหวดหมายเลขหนึ่งของโลกได้อีกครั้ง แร็คเกตเลือดกระทิงยังปลดล็อคคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น แกรนด์สแลมรายการสุดท้ายรายการเดียวที่ยังขาดอยู่ จนได้ชื่อว่าเป็นนักเทนนิสเพียงคนที่ 7 ของโลกเท่านั้นที่สามารถทำ "แคเรียร์สแลม" หรือการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมครบทั้งสี่รายการได้


และในปีที่ผ่านมา แฟนเทนนิสชาวไทยยังได้สัมผัสกับ นาดาล ตัวเป็นๆ เป็นครั้งแรก หลังเจ้าตัวเดินทางมาล่าแชมป์ในรายการไทยแลนด์ โอเพ่น แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายต้องร่วงตกรอบก่อนกำหนดแค่รอบตัดเชือก ทำให้แฟนบ้านเราต้องลุ้นกันว่า ปีหน้า "ราชาคอร์ตดิน" อย่าง นาดาล จะกลับมาชิงบัลลังก์แชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น อีกหรือไม่



04.เวย์น รูนีย์ ฉาวซื้อบริการทางเพศตอนเมียตั้งท้อง
ถือว่าไม่แปลกที่ทุกปี เรามักจะได้ยินข่าวฉาวจากวงการกีฬาของอังกฤษอยู่ร่ำไป เพราะสื่อเมืองผู้ดีจัดเป็นอันดับต้นๆ เรื่อง"จมูก"ที่มักไม่พลาดได้เรื่องคาวๆ ของคนดังทั้งหลาย และหวยในปีนี้ไปออกที่ เวย์น รูนีย์ ดาวยิงซูเปอร์สตาร์แห่งทีม "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกแฉว่าซื้อบริการทางเพศ ทั้งที่อยู่ในช่วงที่ภรรยาสาวร่างอวบ คอลีน กำลังตั้งท้องเจ้าหนู "ไค" อยู่แท้ๆ


จากข่าวฉาวดังกล่าว ส่งผลกระทบทำเอาครอบครัว รูนีย์ แทบบ้านแตก ก่อนที่ทั้งสองจะสามารถปรับความเข้าใจจนสัมพันธ์กลับมาดังเดิม แถมยังมีช็อตหวาน ควงกันไปฮันนีมูนรอบสองอีกด้วย เขาว่าทะเลาะกันบ่อยๆ มักลูกดก ไม่แน่ปีหน้า เจ้าหนู "ไค" อาจมีน้องก็เป็นได้



05.ไทเกอร์ วูดส์ รีเทิร์นกลับมาแข่งกอล์ฟอีกครั้ง
เป็นข่าวเด่นดังยาวข้ามปี สำหรับพฤติกรรมซุกกิ๊กนับสิบๆ คนของ ไทเกอร์ วูดส์ จนชีวิตนักกอล์ฟของโปรลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ต้องดำดิ่งลงเหวตกต่ำตามไปด้วย แต่ด้วยธรรมะที่ได้จากคุณแม่ กุลธิดา วูดส์ ทำให้ "พญาเสือ" ฝ่ามรสุมรีเทิร์นกลับมาจับไม้กอล์ฟได้อีกครั้งในรายการเมเจอร์อย่าง เดอะ มาสเตอร์ ซึ่งถือเป็นการคัมแบ็คที่ไม่เลว เมื่อจบด้วยอันดับ 4 แต่ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากนั้น วูดส์ ที่ทำสถิติคว้าแชมป์อย่างน้อยหนึ่งรายการ ตลอด 15 ฤดูกาลที่ผ่านมา จะไม่ได้แชมป์ใดๆ ติดมือเลยจนจบปี แถมยังปิดฉากอย่างเจ็บแสบด้วยการพ่ายเพลย์ออฟต่อ แกรม แม็คโดเวลล์ ได้เพียงรองแชมป์เชฟรอน เวิลด์ ชาเลนจ์ ที่เป็นเจ้าภาพเองด้วย

ภารกิจ ในปีหน้า นอกจาก วูดส์ จะต้องกลับมาปลดล็อคตัวเองคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง ก็คือ การทวงบัลลังก์มือหนึ่งโลกที่เสียไปให้กับ ลี เวสต์วูด แต่แน่นอนว่าไม่ใช่งานง่าย เมื่อเวทีกอล์ฟโลกในเวลานี้ ยังมีทั้ง แม็คโดเวลล์, มาร์ติน เคย์เมอร์ และ ฟิล มิคเคลสัน ที่ต่างเป็นคู่แข่งคอยลุ้นช่วงชิงความยิ่งใหญ่ที่เขาเคยถือครองมาตลอดหลายปี ด้วยเช่นกัน


06. จอห์น เทอร์รี เป็นชู้เมียเพื่อนรัก เวย์น บริดจ์
ต้องยอมรับว่าปี 2010 เป็นปีแห่งข่าวฉาวในความสัมพันธ์เชิงชู้สาวอย่างแท้จริง และอีกหนึ่งคู่กรณีที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เด็ดขาดกับคดี"เพื่อนรักหักเหลี่ยม โหด" เมื่อ จอห์น เทอร์รี กล้าหักหาญความเป็นเพื่อนรักกับ เวย์น บริดจ์ ด้วยการมีความสัมพันธ์ลับๆ กับ วาเนสซา แปร์รงแซล ภรรยาสาวนางแบบของ บริดจ์ ทั้งๆ ที่ แปร์รงแซล กับ บริดจ์ เองก็มีเจ้าหนู "เจย์ดอน" เป็นพยานรักอยู่แล้วหนึ่งหน่อ


หลังถูกเปิดแผลโดยสื่อจอมคุ้ยของอังกฤษ ข่าวลือมากมายยังตามมาไม่หยุด โดยเฉพาะประเด็นที่ว่ากันว่า เทอร์รี ได้สั่งให้ แปร์รงแซล ไปทำแท้งลูกที่เกิดจากทั้งคู่ เรื่องนี้จริงไม่จริงไม่รู้ แต่บาปกรรมตามทันควัน เมื่อ ฟาบิโอ คาเปลโล สั่งริบปลอกแขนกัปตันทีม "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษจากเจ้าตัวทันที


07. เลบรอน เจมส์ ผนึกกำลัง ดเวย์น เหวด-คริส บอช เป็น"บิ๊กทรี"
ซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบาสเกตบอลเอ็นบีเอ เพียงคนเดียวอย่าง "คิงเจมส์" เลบรอน เจมส์ ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้มากพออยู่แล้ว แต่นี่เป็นถึงรวมตัวกันของสามซูเปอร์สตาร์ ที่ยังรวมไปถึง ดเวย์น เหวด และ คริส บอช กลายเป็น "บิ๊กทรี" แห่ง ไมฮามี ฮีท จึงทำให้ข่าวนี้ไม่สามารถหลุดออกจากเหตุการณ์เด่นข่าวกีฬาต่างประเทศประจำปี 2010 ไปได้เช่นกัน

โดยการย้ายทีมของ เจมส์ ถือเป็นประเด็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ แห่งวงการกีฬาแดนลุงแซม เมื่อเจ้าตัวใช้สิทธิ์ฟรีเอเยนต์ย้ายมาประสานงานร่วมกับ เหวด พร้อมด้วย บอช ที่ย้ายมาจากโตรอนโต แร็พเตอร์ส ด้วยเป้าหมายสถาปนาให้ ฮีท กลายเป็นสุดยอดทีมแห่งเอ็นบีเอ อย่างไรก็ตาม ด้วยบทบาทซูเปอร์สตาร์ที่ทับกัน จนไม่สามารถดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากทั้งสามได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้จนถึงตอนนี้ "บิ๊กทรี" ยังต้องรอวันพิสูจน์ตัวเองว่า จะก้าวขึ้นมาเทียบชั้นตำนานสามประสานรุ่นพี่ ไมเคิล จอร์แดน, เดนิส ร็อดแมน และ สกอตตี พิพเพน ได้หรือไม่



08. ความเปลี่ยนแปลงภายในทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล
ช่วงขวบปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่สาวก "เดอะค็อป" ไม่อาจร้องเฮได้เต็มเสียงมากนัก หลังทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องประสบความเปลี่ยนแปลงภายในสโมสรมากมาย เริ่มตั้งแต่การสั่งปลด ราฟาเอล เบนิเตซ จอมแท็คติกชาวสเปน ผู้ทิ้งไว้เพียงตำนานแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปี 2005 แต่ไม่อาจทำตามสิ่งที่แฟนบอลทุกคนต้องการ อย่างแชมป์ลีกสมัยแรกในรอบกว่า 20 ปีได้ ซึ่งคนที่เข้ามาก็คือ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือมากประสบการณ์ ผู้ที่ทำผลงานพาทีมเล็กๆ อย่าง "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูโรปาลีก เมื่อปีก่อน

นอกจากนี้ ในส่วนของเจ้าของทีม หลังมหากาพย์หลายภาค หลายตอน สุดท้าย ทอม ฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์ ก็มีอันต้องระเห็จจากสโมสร แม้พยายามดิ้นทุกวิถีทาง แต่ด้วยคำสั่งของศาล ดูโอมะกันจึงจำต้องยอมหลีกทางให้กับ จอห์น วิลเลียม เฮนรี แห่งกลุ่มนิวอิงแลนด์ สปอร์ต เวนเจอร์ส เข้าครอบครองสโมสรแทน และด้วยผลงานของกลุ่ม "เอ็นอีเอสวี" ที่เคยฝากไว้กับการพาทีมบอสตัน เรดซอกซ์ ครองความยิ่งใหญ่ในวงการเบสบอลอเมริกา ก็ต้องดูว่า เฮนรี ผู้นี้จะใช่คนที่มอบถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกของสโมสรให้กับเดอะค็อป หรือจะเป็นเพียงแค่เศรษฐีมะกันจอมโลภที่เพียงผ่านมา แล้วก็ผ่านไปเท่านั้น


09. เซบาสเตียน เวทเทล คว้าแชมป์เอฟวัน
ศึกชิงชัยรถสูตรหนึ่ง 2010 ถือเป็นอีกฤดูกาลที่เรียกได้ว่าคอเอฟวันลุ้นแชมป์มันส์ที่สุด จากสนามแรกที่บาห์เรน จนถึงสนามสุดท้ายที่อาบูดาบี เหตุการณ์พลิกไปพลิกมา และพิสูจน์ได้จากการที่ เซบาสเตียน เวทเทล สามารถขึ้นนำตารางคะแนนนักขับเป็นครั้งแรก แต่มันกลับเพียงพอที่จะส่งให้เขากลายเป็นแชมป์ฟอร์มูลาวันที่อายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ทันที

เวทเทล อาจจะไม่ใช่นักขับที่ทำผลงานได้สม่ำเสมอที่สุด แต่ผลงานการเอาชนะบรรดาสุดยอดนักขับที่ต่างเคยคว้าแชมป์โลกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นันโด อลอนโซ, เจนสัน บัตตัน, ลูอิส แฮมิลตัน, "ไส้กรอกบิน" มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ตำนานแชมป์โลก 7 สมัย รวมถึงคนสุดท้าย แต่มีความสำคัญที่สุดอย่างเพื่อนร่วมสังกัดเรดบูลล์ เรซซิง มาร์ค เว็บเบอร์ ก็ถือว่าน่าจะเหมาะสมแล้วที่ เวทเทล จะได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานคนใหม่แห่งฟอร์มูลาวัน


10.เลือกเจ้าภาพฟุตบอล 2018-2022 สุดอื้อฉาว
เป็นประเด็นร้อนส่งท้ายปี สำหรับการโหวตเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปี 2018 และ 2022 แม้ผลจะออกมาเป็นที่เรียบร้อย แต่กลับไม่มีครั้งไหนเลยที่จะไม่ค้านสายตาของแฟนบอลทั่วทั้งโลก อย่างเช่นปี 2018 ที่หลายคนเลือกที่จะเทใจเชียร์ให้ อังกฤษ แต่สุดท้าย หวยกลับไปออกที่แดน"หมีขาว" รัสเซีย ก่อนจะตามมาด้วยการโหมประเด็นเรื่องล็อกผล, ใครโหวตใครไม่โหวต อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย

ขณะที่ครั้งถัดมาในปี 2022 ผลยิ่งช็อคโลกกว่า เมื่อ กาตาร์ ชาติจากตะวันออกกลางที่ยังไม่เคยมีโอกาสสัมผัสฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายตัวเป็นๆ แม้แต่ครั้งเดียว กลับหยิบชิ้นปลามันนี้เหนือตัวเต็งทั้ง สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และ ออสเตรเลีย ด้วยความคิดสุดแหวกแนวทั้งการแข่งในสนามติดแอร์, เลื่อนเวลาแข่งขันมาเป็นหน้าหนาว รวมถึงไอเดียล่าสุดที่อาจแบ่งให้ชาติเพื่อนบ้านช่วยจัดด้วย แต่ต้องยอมรับว่า แนวคิดแปลกๆ พวกนี้ กลับทำให้น่าดูแล้วว่า กาตาร์จะจัดฟุตบอลโลก 2022 ได้แตกต่างจากเวิลด์คัพฉบับเดิมๆ สักแค่ไหนกัน.

ที่มา : ไทยรัฐ

คาดต้นปีหน้าอังกฤษเจออากาศหนาวเหน็บสุดในรอบพันปี!!

เดลีสตาร์ - เผยอังกฤษต้องผจญฤดูหนาวที่หนาวเหน็บที่สุดนับตั้งแต่ปี 1638 แถมยังมีคำพยากรณ์ว่าช่วงต้นปีหน้าอุณหภูมิอาจดำดิ่งเย็นสุดขั้วที่สุดใน รอบกว่า 1,000 ปีเลยทีเดียว

หิมะหนาปกคลุมอังกฤษท่ามกลางอุณหภูมิสุดโหด

จากข้อมูลล่าสุดพบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของอังกฤษนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม อยู่ที่ลบ 1 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าหนาวเย็นที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่มีการจดบันทึกเมื่อปี 1659


ทั้งนี้ฤดูหนาวที่เย็นยะเยือกที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษคือในปี 1683/84 ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ลบ 1.17 องศาเซลเซียส จนทำให้แม่น้ำเทมส์จับตัวเป็นน้ำแข็งยาวนานกว่า 2 เดือน

อย่างไรก็ตามในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ คาดหมายกันว่าชาวอังกฤษอาจต้องผจญกับสภาพอากาศอันหนาวจัดที่สุดในรอบ 1,000 ปีก็เป็นได้ ด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาบอกว่า "มันเป็นสภาพอากาศหนาวอันยืดเยื้อยาวนานที่ไม่พบเจอกันบ่อยนัก ด้วยอุณหภูมิก็ยังลดต่ำลงเรื่อยๆ"

เจ้าหน้าที่รายนี้บอกต่ออีกว่า "พยากรณ์ว่าอุณหภูมิน่าจะลดลงไปอีกในช่วงเช้าวันอาทิตย์(2) โดยกลางคืนสภาพอากาศจะหนาวเหน็บ ส่วนกลางวันอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ถึง 5 องศาเซลเซียส ขณะเดียวกันเราคาดหมายว่าวันที่ 26 มกราคม อุณหภูมิจะดำดิ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึงลบ 2 หรือ 3 องศาเซลเซียส"

แม้ว่ามีการจดบันทึกสภาพอากาศอย่างเป็นทางการย้อนไปเพียงถึงปี 1695 แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศบอกว่ายุคทศวรรษระหว่างปี 1100 ถึง 1550 เป็นช่วงอากาศอุ่น ดังนั้นจึงไม่น่ามีหิมะตกหรือมีสภาพอากาศที่หนาวเหน็บอย่างเช่นวันนี้ ดังนั้นปี 2011 น่าจะเป็นฤดูหนาวที่เย็นสุดขั้วที่สุดในรอบ 1,000 ปี

ที่มา : Manager Online

10 เหตุการณ์'การเมือง'ปี2553

ป็นธรรมเนียมทุกปีที่เมื่อครบรอบปี ทุกฝ่ายจะได้รวบรวมเหตุการณ์ที่ผ่านไป สำหรับเหตุการณ์เด่นทางการเมืองในรอบปี 2553 “ทีมการเมือง เดลินิวส์” ได้จัด 10 เหตุการณ์เด่นไว้ดังนี้



คดีประวัติศาสตร์ยึดที่ดินเขายายเที่ยง

สืบเนื่องจาก “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็น “หัวรถจักร” ซุกซ่อนในบ้านพักตากอากาศบนเขายายเที่ยง เนื้อที่ 21 ไร่ ใน ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ของ “บิ๊กแอ้ด” พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ขณะเป็นผู้นำรัฐบาล “ขิงแก่” โยงไปสู่ประเด็นถือครองที่ดินโดยมิชอบเพราะเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าเขา เตียน-ป่าเขาเขื่อนลั่น ต่อมาต้นปี 2553 อัยการสีคิ้วตัดสินว่า “บิ๊กแอ้ด” ไม่เจตนาครอบครองที่ดิน เป็นช่องให้กลุ่ม นปช.โจมตีเรื่อง 2 มาตรฐาน เรียกร้องยึดคืนที่ดินพร้อมดำเนินคดีในมาตรฐานเดียวกับชาวบ้านละแวกเดียวกัน และในวันที่ 20 ม.ค. 2553 กรมป่าไม้สรุป “บิ๊กแอ้ด” ไม่มีสิทธิครอบครองที่ดิน และจนต้องคืนให้กรมป่าไม้เมื่อ 11 ก.พ. 2553 ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการยึดที่ดินจากคนระดับองคมนตรี

สรุป 10 ข่าวเด่นต่างประเทศปี 2553

สถานการณ์โลกในรอบปีที่ผ่านมา มีทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งมีความรุนแรงและสร้างความเสียหายมากกว่าแต่ ก่อน ตลอดจนเหตุการณ์ทางการเมือง และประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้




1. ภัยธรรมชาติถล่มโลก : เมื่อวันที่ 12 มกราคม ปี 2553 หรือตรงกับเช้าวันพุธที่ 13 มกราคม ตามเวลาในไทย เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง 7.0 ริคเตอร์ โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงเฮติ ราว 15 กิโลเมตร ทำให้มีผู้เสีย ชีวิตไม่ต่ำกว่า 230,000 ศพ ประชาชนบาดเจ็บราว 300,000 คน และอีกหลายล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย บ้านเรือน 250,000 หลัง และอาคารพาณิชย์อีกกว่า 30,000 หลัง พังทลายหรือเสียหายอย่างหนัก ซึ่งพลอยทำให้ระบบสุขอนามัยได้รับผลกระทบไปด้วย จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคอหิวาต์ระบาดอย่างรุนแรงในเฮติ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 2,591 ศพ และมีผู้ติดเชื้ออีก 121,518 คน ในจำนวนนี้มีอยู่ราว 63,711 คน ที่ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

สรุปข่าวเด่นเศรษฐกิจปีเสือ

ตลอดปีเสือดุ เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมายทั้งดีและไม่ดี จนส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนทั้งประเทศเรื่อยไปจนถึงระบบเศรษฐกิจทั้ง ระบบ ก่อนจะย่างเข้าสู่ปีใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง “ทีมเศรษฐกิจเดลินิวส์” ขอประมวลเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อปากท้องชีวิตความเป็นอยู่ และเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจ มาให้รำลึกถึงกันอีกครั้งเพื่อเป็นการเตือนใจให้คนไทยทั้งประเทศนำไปใช้เป็น แนวทางก่อนตัดสินใจและดำเนินชีวิตในปีกระต่าย ได้อย่างมั่นคงต่อไป



ประชาวิวัฒน์กับคิดนอกกฎ บริหารนอกกรอบ

ประเดิมจากนโยบาย ประชาวิวัฒน์ ซึ่งรัฐบาลได้โหมโรงซื้อใจชาวรากหญ้าอีกรอบ เพื่อเตรียมการรองรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2554 ภายใต้ชื่อโครงการปฏิบัติการประชาวิวัฒน์ คิดนอกกฎ บริหารนอกกรอบ ด้วยการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจโดย การปรับโครงสร้างราคาสินค้าอาหารและพลังงาน และการดูแลเศรษฐกิจนอกระบบให้เข้าสู่ในระบบ ด้วยการทำให้บรรดาผู้ประกอบอาชีพอิสระทั้งวินมอเตอร์ไซค์ คนขับรถแท็กซี่ หาบเร่แผงลอย ให้มีสิทธิในระบบประกันสังคม เข้าถึงแหล่งเงินทุน ขจัดปัญหาเรื่องหัวคิวรายเดือน โดยหวังว่าจะช่วยกลุ่มคนเหล่านี้ได้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะประกาศโครงการนี้อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ม.ค. 2554

11 ฉายาตำรวจดังแห่งปี 2553

เหยี่ยวข่าวอาชญากรรมตั้งฉายา 11 ตำรวจคนดัง แห่งปี 2553 “น้อยแบเบอร์” “มือปราบไผ่เขียว” “กุ๊กกิ๊กแตะต้องได้” “ท่านรองเบรกแตก”


วันนี้ (30 ธ.ค.) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯร่วมกันแถลงข่าว “ฉายาตำรวจ แห่งปี 2553”

นายไพโรจน์ กล่าวว่า สมาคมฯได้ก่อตั้งขึ้นมากว่า 30 ปี มีสมาชิกเป็นผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรม กว่า 300 คน จากหนังสือพิมพ์ ทีวี นิตยสาร และวิทยุ การตั้งฉายาตำรวจประจำปี2553 ของผู้สื่อข่าวและช่างภาพสายอาชญากรรมที่ติดตามผลงานและการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอด1 ปีที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในปีนี้ทางคณะกรรมการบริหารสมาคมฯและตัวแทนจากผู้สื่อข่าวและช่างภาพสาย อาชญากรรมจากสำนักพิมพ์และสื่อต่างๆได้ร่วมประชุมและพิจารณาลงมติให้ฉายา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความโดดเด่น และประชาชนให้ความสนใจในรอบปีมี ดังนี้

10 ข่าวเด่น 2553 จากกรุงเทพธุรกิจ


น้ำท่วมใหญ่ในรอบ 50 ปี
ด้วยภาวะอากาศปวนแปร จากปรากฏการณ์ ลานิญญ่า ส่งผลให้ปริมาณฝนมากผิดปกติ รวมไปถึง ระบบการจัดการน้ำของประเทศที่อ่อนแอ หาเจ้าภาพในการจัดการไม่ได้ ทำให้ปี2553 เป็นปีแห่งภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ เริ่มตั้งแต่น้ำท่วมภาคกลางในพื้นที่เดิมๆคือ อยุธยา อ่างทอง ลงไปถึง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือเป็นน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 50 ปี และอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ว่า จะเป็น ชัยภูมิ อุบลราชธานี มหาสารคาม และภาคใต้ หาดใหญ่ จ.สงขลา อีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ต้องจมบาดาล ซึ่งปรากฏการณ์ใหม่เกิดขึ้นคือ สื่อยักษ์ใหญ่หลายแขนง ออกมาทำหน้าที่เป็นสื่อกลางรับบริจาคจากประชาชน เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้รับทั้งเสียงวิจารณ์ว่าทำเกินหน้าที่ และคำชมว่าทำงานเร็วกว่าภาครัฐ

วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สื่อสภาฯคลอดฉายาเจ็บ“หลังยาว ผลาญภาษี”

เหตุมาจากผลงานไม่มีดีแต่ขึ้นเงินเดือน มอบให้ “สภาล่าง” ส่วน “สภาสูง” ครองฉายา “อัมพฤกษ์รับจ็อบ” ขัดแย้งหนักเข็นผลงานไม่ออก “ชัย ชิดชอบ”ได้ฉายา “เฒ่าเก๋า-เจ๊ง”

วันนี้ (29 ธ.ค.) สื่อมวลชนสายรัฐสภา เปิดเผยการตั้งฉายาฝ่ายนิติบัญญัติประจำปี 2553 ว่า ตามธรรมเนียมปฏิบัติของทุกปี ที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ได้ร่วมกันระดมความเห็นในการตั้งฉายาผู้ที่ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติทั้งสอง สภาคือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิก และการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งนี้สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ขอยืนยันว่า การตั้งฉายารัฐสภาทุกครั้งได้ใช้เหตุผล ความบริสุทธิ์ใจ หลีกเลี่ยงการใช้อคติ ปราศจากการแทรกแซงจากทุกฝ่าย สำหรับฉายาที่ตั้งขึ้นได้รับความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ของสื่อมวลชนประจำ รัฐสภา โดยผลการพิจารณามีดังต่อไปนี้

วีแกน 2 - 2 อาร์เซน่อล

ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2553
สนาม : ดีดับเบิลยู สเตเดี้ยม


อาร์เซน่อล บุกมาเยือนถิ่นของ วีแกน แอธเลติก โดย อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมเดอะ กันเนอร์สไม่มี เชส ฟาเบรกาส จอมทัพกัปตันทีมติดโทษแบน แต่ทีมได้ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ผู้รักษาประตูหายเจ็บสะโพกลงเฝ้าเสา พร้อมกับสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนนักเตะลงสนาม เนื่องจากต้องลงเล่นติดๆ กันในช่วงนี้ ทำให้ กาแอล กลิชี่, ซามีร์ นาสรี่, ธีโอ วัลค็อตต์ นั่งสำรอง ส่วนโรเบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือวีแกนได้ เฮนดรี้ โธมัส กองกลางตัวรับ พ้นโทษแบนกลับมา

เกมครึ่งแรกผ่านไปเพียงห้านาที อาร์เซน่อลทักทายน่ากลัว เมื่อ โทมัส โรซิคกี้ ผ่านบอลให้ อังเดร อาร์ชาวิน ยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคาน และนาทีที่ 10 วีแกนมีโอกาสเช่นเดียวกัน ฮูโก้ โรดาเยก้า ทำทางให้ ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย ซัดเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษไปติด ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เซฟอยู่หมัด

นาที 14 ทีมเยือนได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย นิคลาส เบนด์ทเนอร์ สังหารฟรีคิก บอลไปแฉลบกำแพงพุ่งเปลี่ยนทางเฉียดเสาไปอย่างหวุดหวิด

นาที 16 เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ได้บอลจ่ายให้ อาร์ชาวิน ซัลโวเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งเข้าข้างประตู

และแล้วนาที 17 โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟปืนโต ทำฟาวล์ ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย บริเวณกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน ลี โพรเบิร์ต เป่าให้เจ้าถิ่นได้ลูกจุดโทษ และก็เป็น เบน วัตสันสังหารจุดโทษเข้าไปให้ วีแกน นำ 1-0 แต่เมื่อดูจากภาพช้า เอ็นซ็อกเบีย โดนทำฟาวล์นอกกรอบเขตโทษ และแกล้งพุ่งล้ม ซึ่งจังหวะนี้เจ้าถิ่นได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ

นาที 21 เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เบน วัตสันโยนบอลเข้ามาหน้าประตู อันโตลิน อัลการาซ โหม่งไปติด เนเวส เดนิลสัน สกัดบอลบนเส้นประตูได้อย่างหวุดหวิด และสามนาทีถัด โรซิคกี้ ได้ยิงไกล 25 หลาติด อาลี อัล ฮับซี เซฟไว้ได้

จากนั้น เวนเกอร์ เปลี่ยนเอา อาบู ดิยาบี้ ออกจากสนาม เนื่องจากบาดเจ็บ โดยส่ง แจ็ค วิลเชียร์ ลงเล่นแทนนาที 27 และสามนาทีต่อมา เกมหยุดชะงักไป เนื่องจาก เฮนดรี้ โธมัส บาดเจ็บ หลังจากโดน บาการี่ ซาญ่า ทำฟาวล์ ทว่าหลังจากเขาได้รับการปฐมพยาบาล ก็สามารถกลับมาเล่นต่อไปได้

มาถึงนาที 39 อาร์เซน่อลตีเสมอ 1-1 จากจังหวะทุ่มบอลทางฝั่งขวา มารูอาน ชามัค ผ่านบอลให้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งขวาติด อาลี อัล ฮับซี ปัดบอลไม่พ้นอันตราย กระดอนไปที่เสาสอง อังเดร อาร์ชาวิน ตามเข้ามาวอลเล่ย์ซ้ำด้วยเท้าขวาตุงตาข่ายอย่างสวยงาม

และแล้วนาที 44 อาร์เซน่อลพลิกกลับมานำ 2-1 อาร์ชาวิน ผ่านบอลแม่นยำให้ นิคลาส เบนด์ทเนอร์ เลี้ยงบอลผ่านกองหลังวีแกน ก่อนยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษเข้าประตูไป จากนั้นนาทีต่อมา อาร์ชาวิน ได้บอลอีกครั้ง โยนให้ ชามัค โหม่งเผาขนเข้าข้างตาข่าย จบครึ่งแรก อาร์เซน่อลนำ 2-1

ในครึ่งหลัง นาที 59 อาร์เซน่อลได้บอล อาร์ชาวิน เปิดลูกเตะมุมเข้ามาหน้าประตู ชามัค ข้นโหม่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย และนาทีถัดมา รอนนี่ สตัม เลี้ยงบอลมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนหนีการสกัดของนักเตะอาร์เวน่อล 3 คน และจ่ายให้ เอ็นซ็อกเบีย ยิงในกรอบเขตโทษติด โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ เตะบอลพ้นอันตรายออกไปได้

นาที 64 ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ มิดฟิลด์เจ้าถิ่นได้จังหวะซัดเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลเหินข้ามคานออกไป โดยห้านาทีต่อมา ฮูโก้ โรดาเยก้า กองหน้าวีแกนได้โอกาสซัลโวระยะไกลมากกว่า 30 หลา แต่ ฟาเบียนสกี้ เซฟได้อย่างไม่มีปัญหา

นาที 75 วีแกนโต้กลับเร็ว เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ตัวสำรอง ผ่านบอลให้ เอ็นซ็อกเบียยิงเผาขนติด ฟาเบียนสกี้ ปัดบอลออกไปอย่างหวุดหวิด

และแล้วนาที 77 ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย มิดฟิลด์วีแกนโดนใบแดง หลังจากเจตนา เฮด-บัตต์ เอาหัวไปโขกใส่หน้าของ แจ็ค วิลเชียร์ ทำให้ วีแกน เหลือผู้เล่น 10 คนทันที

อย่างไรก็ตาม วีแกนกลับตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ เปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งซ้าย เบน วัตสัน โขกที่เสาไกล ไปหน้าประตู เซบาสเตียง สกิลลาซี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟปืนโตโขกสกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเองนาที 81 จบเกม วีแกน เสมอ อาร์เซน่อล 2-2

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
วีแกน : อาลี อัล ฮับซี - สตีฟ โกอูรี่, สตีเว่น คัลด์เวลล์, อันโตลิน อัลการาซ, รอนนี่ สตัม - ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, โมฮาเหม็ด ดิอาเม่, เฮนดรี้ โธมัส, เบน วัตสัน, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย - ฮูโก้ โรดาเยก้า
สำรอง : ไมเคิล พอลลิตต์ (ผู้รักษาประตู), เมาโร โบเซลลี่, สตีเว่น คัลด์เวลล์, ฆอร์ดี้ โกเมซ, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, มายนอร์ ฟิเกรัว, คัลลัม แม็คมานามาน

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - บาการี่ ซาญ่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ - วาสซิริกี้ อาบู ดิยาบี้, โทมัส โรซิคกี้, เนเวส เดนิลสัน - มารูอาน ชามัค, นิคลาส เบนด์ทเนอร์, อังเดร อาร์ชาวิน
สำรอง : วอจเซียช เซสนี่ (ผู้รักษาประตู), ซามีร์ นาสรี่, คาร์ลอส เวล่า, ธีโอ วัลค็อตต์, แจ็ค วิลเชียร์, โยฮัน ฌูรู, กาแอล กลิชี่

ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต

ที่มา : สยามสปอร์ต

รวมมิตรลาที 'ปีเสือ'

คมชัดลึก :ใกล้ จะลาจอ ปีเสือ เพื่อต้อนรับ ปีกระต่าย ที่กำลังจะเข้ามาในไม่กี่วันนี้ มีหรือที่ บันเทิง คม ชัด ลึก จะลืมหน้าที่เสนอข่าวเด็ดๆ แห่งปี 2010 เป็นการส่งท้าย ไหนๆ ก็ไหนๆ เรามาดูกันดีกว่าว่าช่วงปีที่ผ่านมา มี เสือ เด่นตัวไหนกันบ้าง...

เริ่มต้นกันที่ เสือร้องไห้ แหม...ฟังดูแล้วนึกว่าน้ำตก-ส้มตำ เฮ้อ ที่ไหนได้มันไม่ใช่เรื่องขำๆ แต่มันเป็นเรื่องของความเศร้า ที่คนบันเทิงเสียน้ำตาเป็นเผาเต่า ปล่อยความเศร้ากันออกมาต่อหน้ากล้องให้เห็นกันเต็มตาทั่วประเทศ


เป็นข่าวเด็ดข่าวดังแห่งปี สำหรับข่าว "พิงค์กี้" สาวิกา ไชยเดช ที่ตกเป็นข่าวรักสามเส้า "เป๊ก" สัณชัย และ "ธัญญ่า" ธัญญาเรศ เองตระกูล จนเสียศูนย์ เสียงาน เจอชาวบ้านตราหน้าว่าเป็นภรรยาน้อย ชีวิตเลยพาลให้เหงาเศร้าสร้อย เวลาไปออกงานก็โดนคำถามจี้ใจดำ ทำเอาปล่อยโฮกันไปหลายรอบ แต่รอบล่าสุด นี่ถึงกับมี "คุณแม่อ้อย" สรินยา มาร่วมด้วยช่วยร้องไห้ ยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้แย่งของของใคร สุดท้ายตัดปัญหาไม่รับงานอะไร หายเข้ากลีบเมฆดีกว่า ไม่ต้องตอบคำถามคาใจใดๆ สบายใจที่ซู้ด...ด


แม้จะไม่ใช่ผู้ได้รับผลของข่าวโดยตรง แต่ถ้าเป็นใครก็คงจะอดร้องไห้ไว้ไม่ไหว ความลับที่อุตส่าห์เก็บงำเอาไว้ ไม่บอกใครว่าคบหาดูใจซูเปอร์สตาร์ เลยจำต้องเปิดเผยมาอย่างช่วยไม่ได้ ก็เรื่องข่าวกล่าวหา "ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ทำ แอนนี่ บรู๊ค ท้อง สาว "ฝ้าย" อริญรดา ปิติมารัชต์ เลยต้องปล่อยน้ำตาแห่งความอัดอั้นออกมา ใครเล่าจะรู้ว่า เธอคือสาวที่ฟิล์มคบหาเงียบๆ มานาน 8 ปี แต่เธอคนนี้ไม่เคยปริปากด้วยคำว่ารัก แต่แล้วสัมพันธ์ก็หักสะบั้นแบบไม่รู้ตัวซะงั้น แถมวันบวชก็ยังไม่สามารถไปร่วมงานได้ เสือร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหลซะกระมังงานนี้


เสือที่เชื่อมต่อกันกับกรณีของสาวฝ้าย คงต้องยกให้ เสือแม่ลูกอ่อน อย่าง "แอนนี่" รุ่งนภา บรู๊ค จะบอกว่าการมีลูกอย่าง น้องฑีฆายุ เสมือนทำให้แม่ลูกอ่อนอย่างแอนนี่ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ก็ดูจะไม่ผิดนัก เพราะตั้งแต่มีน้องน่ารักน่าชังฑีฆายุ ชีวิตก็ดูจะรุ่งโรจน์สดใส นอกจากจะได้อัพค่าตัวในชั่วพริบตา งานมีโฆษณาสินค้าแม่และเด็กอยากได้ไปร่วมงานกันยกใหญ่ ไหนจะมีงานอีเวนท์ต่างๆ ทั้งยังมีรายการชกชิงหวังให้ไปช่วยเรียกเรตติ้ง แถมเวลาไปออกงานยังได้ปิดท้ายเป็นฟินาเล่ ใครบอกว่าดารามีลูกแล้วชีวิตเส้นทางบันเทิงจะจบเห่ เห็นทีคำนี้คงจะไม่มีในพจนานุกรมของเสือแม่ลูกอ่อนที่ชื่อแอนนี่หรอกค่า...า


มาถึงเสือตัวต่อไป ได้ชื่อว่าเป็น เสือเผ่น หลังจากเกิดเรื่องเลยต้องเร้นหลบหนีหน้า หาตัวเจอกันไม่ได้ง่ายๆ ที่เข้าข่ายเสือเผ่นคำนี้ ยกให้คนแรกคือสาว "พิงค์กี้" สาวิกา ไชยเดช ที่พอเกิดเหตุเรื่องข่าว "ธัญญ่า-เป๊ก" ทีไร เป็นต้องลบลี้หนีหายอยู่อินเดียทู้ก...กที แต่ก็ใช่ว่าไม่อยู่แล้วข่าวเรื่องนี้จะซานะเจ้าคะ ทว่าเมื่อพิงค์กี้กลับมาถึงไทยทีไร ก็จะได้งานอีเวนท์ตามมาทุกครั้ง ยิ่งมีข่าวตังค์ก็ยิ่งเข้า ถ้าเป็นข่าวมากๆ เข้า ก็เผ่นหนีไปอยู่อินเดียจะได้ไม่ละเหี่ยใจ ไม่อย่างนั้นจะได้ฉายาจากสมาคมนักข่าวว่า สาหรีลี้รัก ได้ยังไงล่ะว่ามะตะเอ๊ง...ง


คนนี้เห็นทีจะเผ่นถาวรหรืออย่างไรไม่ทราบได้ สำหรับคนที่ได้ฉายาว่าเป็น เมียหลวงลวงสังหาร อย่าง "ธัญญ่า" ธัญญาเรศ เองตระกูล ที่เจอมรสุมลูกใหญ่ในชีวิตของลูกผู้หญิง กับข่าวคราวว่าสามีอย่าง "เป๊ก" สัณชัย ลอบติดอกติดใจ พิงค์กี้ แถมล่าสุดที่เธอพาลีย่าหนีหายไปจากเมืองไทย ก็ยังมีคลิปเสียงปริศนาที่อ้างว่าเป็นเสียงการสนทนาระหว่างเธอ-สามี และคู่กรณีทั้งแม่ลูก เมื่ออยู่เมืองไทยแล้วไม่สุขใจเหมือนเก่า จะแปลกอะไรเล่าที่เธอจะไม่ยอมกลับมา ขนาดว่ามีคลิปเสียงสามีทั้งขู่ทั้งปลอบข้ามประเทศให้หอบลูกกลับเมืองไทย ไม่งั้นมีเฮ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววฤกษ์ดีว่าธัญญ่าจะกลับมาวันไหน เสือเผ่นครั้งนี้เป็นเพราะเหตุผลกลใด ถามใจธัญญ่าน่าจะตอบคำถามได้ดีกว่าใครนะเออ

เจอหางเลขเข้าไปเต็มๆ สำหรับ "จุ๊น" กิตติคุณ สัมฤทธิ์พันธุ์สุข ที่ถูกอ้างว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ว่าอาจจะเป็นพ่อของน้องฑีฆายุ ภายหลังจากที่ถูก "เฮียฮ้อ" สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ออกมาระบุว่าเป็นผู้ที่เข้าไปขอคำปรึกษาจาก สมรักษ์ ณรงค์วิชัย ว่าเขาได้ถูกแอนนี่โทรมาบอกว่าตั้งครรภ์ด้วย พร้อมทั้งขอเรียกร้องค่าเลี้ยงดู แต่เรื่องนี้ดูท่าจะไม่ง่าย เพราะแทนที่จุ๊นจะออกมายอมรับว่าเป็นไปตามที่ผู้ใหญ่บอก ที่ไหนได้เรื่องกลับออกเป็นหนังคนละม้วน จุ๊นบอกว่าเขาไม่เคยสนิทสนมฉันชู้สาวกับเสือแม่ลูกอ่อนแอนนี่ และไม่ขอเป็นเครื่องมือของใคร แถมภายหลังจากที่แถลงข่าว ก็ยังขอลาออกจากการเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3 ไม่ขออยู่ในวงการบันเทิงอีกต่อไป เรียกว่าเสือเผ่นแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนจริงๆ แฮะ !


เสือตัวต่อไป คล้ายๆ ว่าจะใกล้เคียงกับเสือเผ่น แต่เผ่นมาก็หลายที จากเสือเผ่น ชักจะเริ่มจะกลายเป็น เสือลำบาก เพราะเจอเจ้าทุกข์ออกมาแจ้งความจับกันเป็นว่าเล่น นับตั้งแต่ นาธาน โอร์มาน ยังไม่ออกมายอมรับใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโกอินเตอร์ หรือเรื่องการทำทัวร์พาไปเนปาล รวมไปถึงเรื่องสัญชาติต่างๆ นานา แต่มาถึงวันนี้ นาธาน จำต้องยอมรับแต่โดยดี แต่ยังมีบอกว่าทุกอย่างที่ผ่านมาเป็น เพราะมีคนจัดฉากให้ต้องเป็นเช่นนั้น ภายหลังจากเรื่องบาดหมางกันเรื่องเงินระหว่าง "ครูแหม่ม" พิศมัย ศรีกะบุตร และ "น้ามด" สิทธิพร โคตรอุดม ที่ออกมาแฉว่าโดนนาธานต้มเปื่อยไม่มีชิ้นดี ส่วนนาธานตั้งแต่เกิดเรื่องโกหกว่าโกอินเตอร์เล่นหนัง ปริ๊นซ์ ออฟ เรด ชูส์ จนถึงวันนี้ดูท่าชีวีไม่ค่อยจะสุขีสักเท่าไหร่นัก ถึงขนาดออกปากว่าบางวันต้องถึงขั้นนอนในรถ เพราะกลัวเจ้าทุกข์จับได้ เสือลำบากเพราะอะไร ถามใจตนเองดู...

แต่ที่ดูจะสบายกว่าเสือตนไหน ต้องยกให้ เสือนอนกิน เขาแหละ แหม...ชื่อเขาก็บอกอยู่แล้วว่าชีวิตสบาย คนแรกที่ต้องยกให้ว่าสบายที่ซู้ด...ด ก็ "เอ" ศุภชัย ศรีวิจิตร นี่แหละ ก็แหม...เด็กในสังกัดนะเหมาซะทุกค่าย ไหลไปทุกช่อง แต่ละคนราศีผ่องๆ ขึ้นแท่นพระเอก-นางเอกขายดีกันเป็นทิวแถว ตั้งแต่หัวขบวนอย่าง "อั้ม" พัชราภา ไชยเชื้อ เรื่อยมาจนถึงรุ่นหลังอย่างพระเอกหน้าใหม่ แต่ความแรงเหลือร้ายอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ เปอร์เซ็นต์ค่าตัวแต่ละคนน่ะ ไม่ต้องพูดถึง ใครได้มีโอกาสไปเห็นบ้านของเอแล้วจะอึ้ง ตะลึงว่าเสือนอนกินมันอิ่มอวบอ้วนอย่างนี้นี่เอง คริๆ

ใครๆ ก็ว่า "ปีใหม่" สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัตน์ ตกถังข้าวสาร เพราะได้แต่งงานกับ "ป๋าต๊อป" ปฏิญญา ควรตระกูล ทรัพย์สินตระกูลนี้รับรองว่านอนกินไปสบายทั้งชาติ งานนี้อาจจะพูดได้เต็มปากก็คงไม่ผิดนัก เพราะหลังจากที่แต่งงานกันไป ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้เห็นผลงานของปีใหม่สักเท่าไหร่นัก หากจะมีละครสักเรื่อง ก็ดูจะเล่นได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าเก่าก่อน งานนี้คนเขาเม้าท์ว่า เพราะปีใหม่น่ะติดหนึบป๋าต๊อบอย่างหนัก อย่างนี้หากเรียกว่าเสือนอนกินเพราะตกถังข้าวสาร ดูจะผิดถนัดใจ เรียกว่าตกถังทองไปเลยดีกว่า เพราะทองยุคนี้แพงเข้าไส้เลยแหละคู้ณ...


จะรักใครชอบใคร ไม่มีที่จะบอกให้สื่อรู้ จะมารู้กันที ก็ต่อเมื่อมีปาปาราซซีถ่ายภาพได้ ไม่ใช่ใครจะเป็น เสือซุ่ม กันได้ง่ายๆ ถ้าไม่หล่อและไม่ดังจริงอย่าง "ออย" ธนา สุทธิกมล เพราะเวลาถามเรื่องความรักทีไร ออยเป็นต้องพูดประโยคเดิมทุกที ว่าถ้าพูดเรื่องนี้จะถอยหนี แต่ก็เห็นมีปาปาราซซีถ่ายได้ทุกที นี่แหละเขาเรียก เสือซุ่ม ตัวจริง !!


แต่ถ้าจะพูดถึง เสือผู้หญิง แม้กระทั่งแต่งงานก็ยังไม่ทิ้งลาย ต้องยกให้ "โอ" วรุฒ วรธรรม ก็ขนาดว่าเมียหอบลูกหนี แม้ว่าในดวงใจจะชีช้ำ แต่เวลาแถลงข่าว ถูกถามเรื่องผู้หญิง โอ ก็ไม่เคยปฏิเสธ แถมยังตอบแบบที่คนผู้เป็นภรรยาอาจน้ำตาเล็ด ในทำนองที่ว่า เรื่องกิ๊กไม่มีเป็นตัวเป็นตน แต่คนเป็นผู้ชายก็ต้องมีไปเที่ยวให้พอเป็นกระสาย แหม...ไม่ตอบซะยังจะดีกว่าไหมล่ะพ่อคุณ

ปิดท้ายแห่งปี กับ เสือไบ ในวงการบันเทิงนี้ คนวงในคนจะพอรู้กันอยู่ในอก แต่จะให้บอกกันตรงๆ โต้งๆ ฟันโชะตรงเผงว่าคนนั้น คนนี้ ก็ดูจะไม่เป็นผลดีนัก ถ้าอยากรู้ก็ลองไปถามอดีตนางงามที่เคยถูกตามตื๊อจนได้ใช้คำว่า แฟน แต่แสนจะสัมพันธ์กระท่อนกระแท่นนั่นดูปะไร คนเราชอบอะไร ก็บอกไปตามปาก จะได้ไม่ลำบากคนอื่นเขาต้องมานั่งสาวไส้ เวลาเลิกคบไปในภายหลัง คนฟังแล้วมันสะอิดสะเอียนเลยจังฮู้...

ที่มา : คมชัดลึก

สวดมนต์ข้ามปี

เคานต์ดาวน์ธรรม "สวดมนต์ข้ามปี" เทรนด์รักดีของคนรุ่นใหม่

เมื่อ ถึงวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปีผู้คนจะแห่ไป "เคานต์ดาวน์" กันตามย่านใจกลางเมือง ผับดัง ๆ หรือบินไกลไปนับถอยหลังถึงต่างประเทศ เพื่อให้ชีวิตได้ก้าวข้ามปีด้วยความสนุกสนานครื้นเครงเคล้าด้วยแอลกอฮอล์

แต่ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ข้ามถึง 1 มกราคม 2554 ของปีนี้ดูจะพิเศษกว่าปีก่อน ๆ

พิเศษ ตรงที่เป็นปีแห่งการเกิด "เคานต์ดาวน์ธรรม" อย่างแพร่หลายที่สุดทั้งในรูปแบบของการเข้าร่วมกิจกรรมในวัด ไปจนถึงการสวดมนต์ข้ามปีแบบออนไลน์ !

โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วม มือของ สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มูลนิธิศึกษาธิการ มูลนิธิวัดปัญญา สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า องค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

เป็นการขยาย ผลต่อเนื่องจากเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ที่เริ่มจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2551 จนมีจำนวนวัดเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี กระทั่งปีนี้ได้มีความร่วมมือจากหลาย หน่วยงาน การเคานต์ดาวน์ธรรมจึงส่งพลังแห่งกุศลแรง !

นายประญัติ เกรัมย์ ผู้ประสานงานโครงการสวดมนต์ข้ามปี เครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในปีนี้ถือได้ว่าเราจัดงานยิ่งใหญ่ขึ้น เพราะมีการประสานงานกันหลายภาคส่วน ทั้งเครือข่ายวัด 45 วัดใน 20 จังหวัดที่มีกิจกรรมนี้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะมีการขยายผลเพิ่มเติมไปยังวัดใกล้เคียงเพื่อทำกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และยังมีการประสานงานผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและภาคีเครือข่าย มูลนิธิวัดปัญญา กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ตลอดจนเครือข่ายวัดที่มีเว็บไซต์ 46 วัด

ทั่วประเทศ ตลอดจนได้กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และคุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย แห่งดีซี คอนซัลแทนส์

รวมละครยอดฮิต...เรตติ้งดี ปี 53


ช่อง 7 ละครฮา.. มาแรง “สาวใช้ไฮเทค”

ในปีเสือดุ คนไทยเจอแต่เรื่องเครียด ๆ อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ สิ่งใดที่เป็นการช่วยผ่อนคลายได้ก็ต้องรีบคว้าไว้ ถ้าพูดถึงละครทีวี ก็หันไปดูแนวเบาสมองฮา ๆ ขำ ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก อย่างละครช่อง 7 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเมื่อเทียบกับละครช่องอื่น ๆ ที่ออกอากาศในปี 2553 มีเรตติ้งสูงถึง 16.6 คิดเป็นจำนวนผู้ชม 10.429 ล้านคน แน่นอนละครเรื่อง สาวใช้ไฮเทค ผลงานของค่ายดาราวิดีโอ นำแสดงโดย อรรคพันธ์ นะมาตร์, วรัทยา นิลคูหา ฯลฯ ขณะที่ละครช่วงเย็นในปีนี้ เรื่อง คุณชายตำระเบิด แนวสนุกสนานของค่ายดีด้าฯ ที่ครองแชมป์ความนิยมสูงสุด 4 สัปดาห์ติดต่อกัน เรตติ้งเฉลี่ยสูงสุด 16.6 คิดเป็นจำนวนผู้ชม 10.398 ล้านคน

วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ฮือฮาซี'มาร์ค'โลชั่นฉายานายกฯสื่อตั้งส่งท้ายปีเสือ

สุเทพ-ทศกัณฐ์กรำศึก เจ๊วารับนางฟ้าสต๊อกลม


ฉายารัฐบาลและ ครม.ปี 53 แสบถึงทรวง "รัฐบาลรอดฉุกเฉิน" ส่วน "มาร์ค" รับ "ซีมาร์คโลชั่น" แก้ปัญหาไม่ได้อย่างเก่งก็แค่แก้คัน "เทพเทือก" รับ "ทศกัณฐ์กรำศึก" รับศึกรอบด้าน แต่ก็ยังไม่สิ้นชีพ "เสธ.หนั่น" ได้ "ลิ้นชาละวัน" ลุยเจรจาสร้างปรองดองแต่ไม่มีใครตอบรับเหมือน ลิ้นจระเข้ที่ไม่มีต่อมรับรส ฉายา “สาทิตย์” จี๊ดโดนใจ “กริ๊ง...สิงสื่อ” ชอบแทรกแซงงาน ข่าว ส่วน “กรณ์” รับ “โย่ง คาเฟ่” ทำตัวไม่สมบทขุนคลังชอบโชว์ผลงานเน้นบันเทิงเฮฮา ส่วน “มั่น” จุกอกฉายา “หยากไย่” เกาะติดรัฐบาลแต่ไม่มีประโยชน์ “ลุงจิ้น” เป็น “เสืออิ่ม สิงห์โอด” ที่ขย้ำบรรดาสิงห์ในกระทรวงจนร้องคราง ขณะที่ตัวเองอิ่มหมี พีมัน “ประวิตร” ฉายา “ป้อม ทะลุเป้า” ได้งบฯ ต่าง ๆ เอามาซื้ออาวุธเต็มพิกัด “จุติ” ฉายา “หัวเทียนบอด-แบน” ผลงาน ไม่กระเตื้องทั้งที่นายกฯตั้งความหวัง ส่วน “เจ๊วา” ขำกิ๊กฉายา “นาง “ฟ้า” สต๊อกลม” ส่วนวาทะแห่งปีคือ “ถ้าเลือกตั้งแล้วนองเลือด แล้วผมชนะ ผมไม่เอาหรอก”

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีของผู้สื่อข่าวสายทำเนียบรัฐบาล ถือเป็นธรรม เนียมปฏิบัติสืบเนื่องกันมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล จากประสบการณ์การทำงานที่ปรากฏต่อสื่อสาธารณะ โดยมิได้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ใดผู้หนึ่ง แต่มาจากมติส่วนรวมของสื่อมวลชน โดยในปีนี้ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลได้ประชุม และมีมติให้ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2553 ดังนี้ ฉายารัฐบาล คือ “รัฐบาลรอดฉุกเฉิน” ตลอดปี 2553 รัฐบาลต้องเผชิญกับวิกฤติหลายด้าน ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติภัยธรรม ชาติ วิกฤติการเมืองทั้งในและนอกสภา เกิด ความขัดแย้งและแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคม จนต้องประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในหลายพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ ยังไม่รวมวิกฤติสังคมอื่น ๆ จนทุกฝ่ายมองว่ารัฐบาลไม่น่าจะบริหารราช การแผ่นดินต่อไปได้ แต่สุดท้ายรอดจากวิกฤติต่าง ๆ รวมทั้งรอดพ้นจากคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางข้อกังขาจากสังคม


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี ได้รับฉายาว่า “ซีมาร์คโลชั่น” เนื่องจากในภาวะที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก วิกฤติความขัดแย้งทางสังคมทั้งระดับประเทศลงไปถึงระดับครอบครัว เปรียบเสมือนผู้ป่วยหนักที่ต้องการยารักษาโรคให้หายขาด บางปัญหาต้องทำการผ่าตัด-ปรับโครงสร้าง-เปลี่ยนอวัยวะ สังคมคาดหวังว่านายกฯ จะเข้ามาแก้ไขปัญหาและรักษาอาการของประเทศได้ แต่ผลการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ ยังทำได้ผลเพียงการบรรเทาโรค เปรียบเสมือนการใช้ “ซีม่าโลชั่น” ทาแก้คันเท่านั้น

หิมะถล่มสหรัฐ-แคนาดา

พายุหิมะถล่มนคร'นิวยอร์ก'อ่วมแม้'ลม'ขึ้นเหนือแล้วแต่ยังต้องฟื้นฟู
28 ธันวาคม 2553 22:20 น.

ย่านกลางกรุงนิวยอร์กกลายเป็นสถานที่เล่นสกีไปเสียแล้ว

เอเจนซี - มหานครนิวยอร์กอยู่ในสภาพจมอยู่ใต้กองหิมะสูงระดับหัวเข่าในขณะที่พายุฤดู หนาวระลอกแรกเคลื่อนตัวพัดผ่านขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (27) ฤทธิ์เดชของพายุส่งผลให้เที่ยวบินราว 4,500 เที่ยวถูกประกาศยกเลิก ส่วนผู้โดยสารจำนวนหลายพันคนต้องตั้งแคมป์พักแรมอยู่ในสนามบิน ไม่เว้นแม้แต่ระบบรถไฟใต้ดินและบนดินที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก อย่างไรก็ตามนครใหญ่แห่งนี้กำลังกลับคืนสู่สภาวะปกติเนื่องจากพายุได้เลย ผ่านเข้าสู่เขตแคนาดาแล้ว


เกิดหิมะตกหนักในนิวยอร์กซิตี และปริมณฑล โดยบางพื้นที่ตกต่อเนื่องนานถึง 17 ชั่วโมงจากอิทธิพลของพายุหิมะซึ่งก่อตัวในมหาสมุทรแอตแลนติกและเคลื่อนตัว พัดเข้าชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐฯ ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ (26) ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ขณะที่ในสวนสาธารณะเซ็นทรัล ปาร์กมีรายงานว่าหิมะตกหนา 20 นิ้ว ส่วนบางพื้นที่หิมะกองสูง 3-5 ฟุต

ท่าอากาศยานหลัก 3 แห่งในนิวยอร์ก ทั้งเนวาร์ก ลิเบอร์ตี, จอห์น เอฟ เคนเนดี และลาการ์เดีย รวมถึงสนามบินอื่นๆ ในมลรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือต่างต้องปิดให้บริการชั่วคราวนานเกือบ 24 ชั่วโมง โดยมีการระงับเที่ยวบินรวมแล้วหลายพันเที่ยว ซึ่งรวมถึงเที่ยวบินของสายการบินสำคัญๆ อย่างเดลตา แอร์ไลนส์, อเมริกัน แอร์ไลนส์, เจ็ตบลู แอร์เวย์ส, คอนติเนนทัล แอร์ไลนส์ และยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ ขณะที่ผู้โดยสารจำนวนมากต้องติดแหง็กอยู่ในอาคารที่พักผู้โดยสาร เนื่องจากถูกตัดขาดจากรถไฟและรถแท็กซีรอบนอกสนามบินที่หยุดให้บริการนานหลาย ชั่วโมงด้วย

“ราว 4,500 เที่ยวบินถูกยกเลิกตลอด 2 วันที่ผ่านมา และมันจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 วันที่จะดูแลผู้โดยสารที่ตกค้างและทำให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ” สตีฟ โคลแมน โฆษกสนามบินให้สัมภาษณ์โทรทัศน์เอ็นวาย1

ด้านแลนซ์ เจย์ บราวน์ นักท่องเที่ยววัย 67 ปี ซึ่งพำนักชั่วคราวอยู่ในอาคารผู้โดยสารบีของท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี ให้สัมภาษณ์ว่า “ที่นี่กางเตนท์ที่พัก 200 เตนท์สำหรับผู้โดยสาร 1,000 คน” “ผมจ่าย 50 ดอลลาร์ สำหรับช็อกโกแลตร้อน 3 ถ้วย ขนมจำนวนหนึ่ง แล้วก็แซนวิช 2 อัน และผมก็ดีใจที่ได้กินแซนวิชสักอัน เนื่องจากมีผู้คนหลายสิบคนเบียดเสียดแย่งกัน”

อย่างไรก็ตามหลังจากหนึ่งวันกับการเคลียร์หิมะบนลานบินด้วยอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ท่าอากาศยานทั้งสามในนิวยอร์กก็เปิดให้บริการตามปกติ

นอกจากปัญหาด้านการจราจรทางอากาศแล้ว ระบบรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กยังต้องหยุดวิ่งเป็นระยะๆ โดยมีรายงานว่าผู้โดยสารรถไฟใต้ดินขบวนหนึ่งติดอยู่ในนั้นนานถึง 7 ชั่วโมง เนื่องรางรถไฟมีน้ำแข็งจับตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะช่วยเหลือพวกเขาออกมาได้ ส่วนระบบรถไฟซึ่งเชื่อมระหว่างตัวเมืองกับเขตชานเมืองก็ระงับให้บริการใน หลายช่วงเวลา ขณะที่รถไฟ “แอมแทร็ก” สายซึ่งเชื่อมระหว่างนครนิวยอร์กกับเมืองบอสตันในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ ก็ปิดให้บริการเมื่อวันอาทิตย์ (26) ก่อนจะเปิดบริการแบบจำกัดเที่ยวในวันจันทร์ (27)

สำหรับการจราจรบนท้องถนนก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากรถบัสหลายร้อยคันติดแหง็กบนถนน รวมถึงอีกหลายสิบคันที่ติดหล่มกองหิมะ ส่วนผู้ขับขี่ยวดยานอีกจำนวนหนึ่งก็ต้องขับในสภาพที่ทุลักทะเลเนื่องจากถนน หนทางที่ลื่น

ไม่เพียงแต่นิวยอร์กที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะจากพายุระลอกล่าสุดเท่านั้น แถบนิวอิงแลนด์ และมลรัฐแมสซาชูเซตส์เองก็จมอยู่ใต้กองหิมะเช่นเดียวกัน โดยมีเพียงพนักงานลูกจ้างในเมืองบอสตันจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ยังถูกขอให้ทำ งานอยู่

“ฉันไม่สามารถมองหาได้แม้กระทั่งทางเดินเท้า” แมรีลิน เวสต์เกต วัย 44 ปี ในเมืองเบลมอนต์ รัฐแมสซาชูเซตส์ กล่าว ขณะกำลังง่วนขุดหิมะออกจากบริเวณที่ดินของเธอ

ที่มา : Manager Online
-------------------------------------- 

หิมะป่วนสหรัฐลามข้ามพรมแดนถล่มแคนาดา
วันพุธ ที่ 29 ธันวาคม 2553


พายุหิมะกำลังแรง ถล่มพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ จนใช้การไม่ได้เมื่อวันจันทร์ ต้องปิดสนามบินนิวยอร์ก และการขนส่งล่าช้า ขณะที่หิมะตกหนักเป็นอุปสรรคต่อแผนการท่องเที่ยวของนักเดินทางหลายคนใน เทศกาลวันหยุด และขณะนี้พายุหิมะได้เคลื่อนตัวเข้าสู่แคนาดาแล้ว

พายุหิมะที่มีมาตั้งแต่เมื่อเช้าวันอาทิตย์เริ่มเบาบางลงในบ่ายวันจันทร์ ท้องฟ้าเริ่มสดใสขึ้นบ้างทำให้เห็นหิมะและน้ำแข็งปกคลุมทั่วพื้นที่ จนทางหลวงใช้การไม่ได้ รถยนต์ตกค้างจำนวนมากและบริการระบบขนส่งสาธารณะเป็นไปอย่างเชื่องช้า เที่ยวบินมากกว่า 5,000 เที่ยวถูกยกเลิก ขณะที่ กระแสลมแรงความเร็ว 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถล่มหลายพื้นที่จากนอร์ท แคโรไลนา ถึงรัฐเมน

อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติรายงานว่า พายุหิมะเคลื่อนตัวไปทางเหนือ มุ่งสู่แคนาดา ทำให้เกิดหิมะและลมแรงเช่นเดียวกับทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ แม้พายุจะเคลื่อนตัวออกมาแล้ว แต่ระบบขนส่งในใจกลางนครนิวยอร์กยังคงเป็นอัมพาตในช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุด ของ ทุกปี

เจ้าหน้าที่ทางตะวันออกของแคนาดากล่าวว่า พายุทำให้หิมะตกหนักมาก ต้องยกเลิกเที่ยวบินระหว่างเฟรเดอริคตันและมองก์ตัน ขณะที่บ้านเรือนราว 40,000 หลัง ประสบปัญหาไฟดับ

ด้านอัยการรัสเซีย สอบสวนสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ทำให้ประชาชนหลายพันคนติดค้างอยู่ที่สนามบินที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งในกรุงมอสโกได้อย่างไร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องสิทธิของผู้โดยสาร ขณะที่ ผู้โดยสารที่โกรธแค้นจัดการประท้วงความโกลาหลดังกล่าว ทั้งนี้ สภาพอากาศเยือกแข็ง และไฟฟ้าดับทำให้เที่ยวบินกว่า 200 เที่ยวล่าช้าที่สนามบินโดโมเดโดโว และเชเรเมตเยโว เมื่อ 3 วันที่แล้ว ผู้โดยสารประท้วงบริเวณพื้นที่จุดตรวจความปลอดภัย ส่วนผู้โดยสารรถไฟ เดินทางถึงภาคใต้ของฝรั่งเศสแล้ว หลังจากขบวนรถไฟ ดีเลย์ 24 ชั่วโมง.

ที่มา : เดลินิวส์

Big Green : โศกนาฏกรรมธรรมชาติ

โดย : ชัยณรงค์ กิตินารถอินทราณี
LifeStyle @กรุงเทพธุรกิจ

ต้องใช้คำว่า "วิกกติผลิตเรื่องเศร้า" สำหรับภาพรวมสิ่งแวดล้อม-ธรรมชาติในปีนี้ และทำทีว่าจะผลิตโศกนาฏรรมขึ้นอีกเรื่อยๆ


ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในรอบทศวรรษหลังสุด ได้ "พลิกโฉม" โลกที่เราเคยรู้จักไปโดยสิ้นเชิง

10 อันดับหนังเทศทำเงินในไทย ปี 53

กไม่กี่วันข้างหน้า ก็จะได้อำลาปี 2553 กันแล้ว และแน่นอนว่าเข้าสู่ปีใหม่ หลายคนก็อยากจะเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ ให้ตัวเองกัน แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นปีใหม่กัน ในวันนี้เรามีเรื่องราวของหนังต่างประเทศที่เข้ามากวาดรายได้ในประเทศไทยมา ให้อัพเดทกันก่อนจะเริ่มต้นนับ 1 กันใหม่ในปีหน้า ซึ่ง 10 อันดับหนังเทศที่ทำเงินในประเทศไทยนั้น จะมีเรื่องอะไรบ้าง เราไปเริ่มต้นอันดับ 1 กันเลยดีกว่า


อันดับ 1 ไอรอน แมน 2

นำแสดงโดย โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, ดอน เชียเดิล, กวินเนธ พัลโทรว์ ไอรอน แมน 2 เป็นเรื่องราวของภาคต่อที่คนทั่วโลกได้ทราบกันแล้วว่า มหาเศรษฐียอดนักประดิษฐ์อาวุธ โทนี่ สตาร์ค เปิดเผยตัวเองว่าเขาคือ ไอรอน แมน ซูเปอร์ฮีโร่ ที่ช่วยปกป้องโลก เขาได้รับแรงกดดันจากทางรัฐบาล สื่อมวลชน และสาธารณชนต่าง ๆ ให้เปิดเผยเทคโน โลยีในการสร้างไอรอน แมน ให้กับกองทัพ แต่โทนี่เองกลับไม่ต้องการ ที่จะเผยความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเกราะเหล็กนี้ เนื่องจากกลัวว่าเทคโนโล ยีนี้จะตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว มีเพียงสาวคนสนิท เพพ เพอร์ พอทส์ และมีเพื่อนตายอย่าง เจมส์ “โรด ดี้” โรดส์ เท่านั้นที่เห็นด้วยกับเขา โทนี่ จึงพยายามคิดค้นพัฒนา ชุดเกราะเหล็กขึ้นมาใหม่ เพื่อเตรียมรับมือกับศัตรูหน้าใหม่ที่กำลังจะปรากฏ



อันดับ 2 แฮร์รี่ พอต เตอร์ กับ เครื่องรางยมทูต

นำแสดงโดย แดเนียล แรดคลิฟฟ์, รูเพิร์ต กรินท์, เอ็มม่า วัตสัน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคนี้เป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นในขณะที่แฮร์รี่, รอน และเฮอร์ไมโอนี่ ออกเดินทางสู่ภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตรายเพื่อแกะรอยและหาทางทำลายฮอร์ครัก ซ์ ความลับของการเป็นอมตะและการทำลายล้างแห่ง โวลเดอมอร์ โดยลำพังและไร้ซึ่งคำชี้แนะของบรรดาอาจารย์ หรือการปกป้องของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ เพื่อนทั้งสามจะต้องพึ่งพากันและกันมากกว่าที่เคยผ่านมา แต่ก็ยังมีพลังด้านมืดเข้ามาแทรกกลางและคอยคุกคามจนทั้งหมดต้องแยกจากกัน

ในเวลาเดียวกัน โลกของพ่อมดแม่มดก็กลายเป็นแหล่งอันตรายสำหรับศัตรูทุกคนของดาร์กลอร์ด สงครามที่หวั่นกลัวกันมานานเริ่มต้นขึ้น และบรรดาผู้เสพความตายของโวลเดอมอร์ เข้ายึดครองกระ ทรวงเวทมนตร์และแม้กระทั่งฮอกวอตส์ สร้างความตื่นตระหนกและเข้าจับกุมทุกคนที่อาจอยู่ฝ่ายตรงข้าม แต่เป้าหมายหนึ่งที่พวกเขายังคงตามหาคือคนที่มีค่า ที่สุดสำหรับ โวลเดอมอร์ : แฮร์รี่ พอต เตอร์ ผู้ที่ถูกเลือกซึ่งกลายเป็นผู้ที่ถูกล่า ในขณะที่เหล่าผู้เสพความตายค้นหาตัวแฮร์รี่ด้วยคำสั่งที่จะพาตัวเขาไปให้โว ลเดอ มอร์…ทั้งเป็น


อันดับ 3 ทไวไลท์ ‘อีคลิปส์’

นำแสดงโดย โรเบิร์ต แพททินสัน, คริสเตน สจ็วต, เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์, ดาโกต้า แฟนนิ่ง ทไวไลท์ เป็นภาพยนตร์ที่วัยรุ่นทั่วโลกต่างรอคอยที่จะชมภาค ต่อมากที่สุด และภาคนี้เป็นเรื่องราวของ องก์ที่ 3 ของการต่อสู้เพื่อปกป้องคนที่ตนรักของทั้งเผ่าพันธุ์แวมไพร์ และมนุษย์หมาป่า เมื่อ เบลล่า ได้ให้คำมั่นแก่ เจน แห่งกลุ่มโวลตูรี่ ที่ให้เอ็ดเวิร์ด เปลี่ยนเธอเป็นแวมไพร์ เพื่อรักษาความลับของตระกูลคัลเลน และเผ่าพันธุ์แวมไพร์ไว้กับเธอตลอดไป แต่ เอ็ดเวิร์ด กลับลังเลใจที่จะทำตามคำสัญญานั่น จนทำให้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับการจู่โจมของแวมไพร์เพชฌฆาตกลุ่มใหม่ที่มี วิคตอเรีย เป็นผู้สร้างพวกมันขึ้น ด้วยอันตรายที่คอยคุกคาม เบลล่า เจคอบ และผองเพื่อนหมาป่า คอยวนเวียน และพิทักษ์เบลล่า ตลอดวัน และคืนจนทำให้ เจคอบ เผลอเผยความในใจที่มีต่อเบลล่า ออกมา และเกือบต้อง ใช้ชีวิตตัวเองเพื่อพิทักษ์เบลล่า จากคมเขี้ยวของ แวมไพร์ กลุ่มนั้น


อันดับ 4 ผีชีวะ 4

นำแสดงโดย มิล่า โจโว วิช, อาลี ลาร์ เตอร์, สเปน เซอร์ ล็อค, เวนท์เวิร์ท มิลเลอร์ เป็นการดำเนินเรื่องต่อจากภาคที่แล้ว เมื่อ อลิซ ตัดสินใจตามล่า “อัมเบรลลา คอร์ปอเรชัน” องค์กรที่อยู่เบื้องหลังการระบาด ของ ที-ไวรัส หลังจากเดินทางไปทั่วโลก เธอก็ได้มาถึงเมืองลอสแอน เจลิส และเจอกับคุกที่ห้อมล้อมไปด้วยซอมบี้ อลิซ พบกับกลุ่มผู้รอดชีวิตที่รวมถึง แคลร์ และ เค-มาร์ท ทั้งหมดตัดสินใจเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิตภายในคุก ซึ่งก็รวมถึง พี่ชายของ แคลร์ อย่าง คริส เรด ฟิลด์ อดีตสมาชิกหน่วยสตาร์ทีม อัลฟ่า


อันดับ 5 ศึกมหาเทพประจัญบาน

นำแสดงโดย แซม เวิร์ธ ทิงตัน, ราล์ฟ ไฟนส์, เลียม นีสัน การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่เพื่อช่วงชิงอำนาจของบรรดาผู้คนต่อ เหล่ากษัตริย์ และของเหล่ากษัตริย์ต่อทวยเทพ แต่สงครามระหว่างทวยเทพเองนั้นอาจทำลายล้างโลกได้ แม้ถือกำเนิดจากเทพแต่ถูกเลี้ยงดูให้เป็นมนุษย์ เพอร์ซีอุส ไร้หนทางที่จะปกป้องครอบครัวของเขาจากเฮเดส เทพผู้โหดเหี้ยมแห่งยมโลก เมื่อไม่เหลืออะไรให้สูญเสีย เพอร์ซีอุสจึงอาสาเป็นผู้นำในภารกิจเสี่ยงภยันตรายเพื่อเอาชนะเฮเดส ก่อนที่เขาจะสามารถยึดอำนาจจากซุส และเปิดประตูนรกขึ้นบนโลก เพอร์ซีอุสออกเดินทางสู่โลกต้องห้ามเบื้องล่างในการเป็นผู้นำกองทัพนักรบ ผู้กล้า เพื่อต่อสู้กับเหล่าปิศาจนอกรีตและสัตว์ร้ายน่าสะพรึงกลัว เขาจะมีทางรอดได้หากเขา สามารถยอมรับพลังแห่งเทพ ท้าทายโชคชะตาและลิขิตชีวิตด้วยตนเอง




อันดับ 6 อินเซปชั่น

นำแสดงโดย ลีโอ นาร์โด ดิคาปริโอ, เอล เลน เพจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่สุดยอดทางความคิด และต้องยกนิ้วให้กับคนเขียนบทอีกคนหนึ่งด้วย นอกจากนักแสดงแล้ว เรื่องราวของอินเซปชั่นมีอยู่ว่า ดอม คอบบ์ หัวขโมยมืออาชีพ สุดยอดฝีมืออันตรายด้านการดึงข้อมูล : ฉกชิงความลับล้ำค่าจากจิตใต้สำนึกเบื้องลึกระหว่างสภาวะความฝัน ซึ่งเป็น เวลาที่จิตใจจะเปราะบางที่สุด ความสามารถที่หายากของคอบบ์ทำให้ เขาเป็นผู้เล่นที่ละโมบในโลกสมัยใหม่ของการจารกรรมข้อมูล แต่มันยังได้ทำให้เขาเป็นผู้หลบหนีที่ต้องสูญเสียทุกอย่างที่เขารักไป ตอนนี้ คอบบ์ได้รับการหยิบยื่นโอกาสที่จะแก้แค้น อีกหนึ่งงานสุดท้ายที่จะคืน ชีวิตให้กับเขา เพียงแต่เขาจะต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จ-การปลูกฝัง แทนที่จะขโมย คอบบ์กับทีมผู้เชี่ยวชาญของเขาจะต้องทำสิ่งตรงกันข้าม งานของพวกเขาไม่ใช่การเข้าไปขโมยความคิดแต่จะต้องปลูกเข้าไป ถ้าทำสำเร็จมันจะกลายเป็นอาชญากรรมที่สมบูรณ์แบบ


อันดับ 7 เจ้าชายแห่งเปอร์เซีย มหาสงครามทะเลทราย แห่งกาลเวลา

นำแสดงโดย เจค จิลเลนฮาล, เจมม่า อาร์เทอตัน มหากาพย์ภาพยนตร์แอ๊คชั่น-ผจญภัยในดินแดนลี้ลับแห่งเปอร์เซีย เมื่อเจ้าชาย ต้องมาร่วมมือกับเจ้าหญิงผู้ลึกลับอย่างไม่เต็มใจ โดยพวกเขาต้องผจญภัยไปด้วยกันพร้อมทั้งต่อสู้กับอำนาจมืดอันชั่วร้ายทั้ง หลาย เพื่อปกป้องกริชโบราณที่สามารถปลดปล่อยพลังของทรายแห่งกาลเวลา เครื่องมือของเทพเจ้าที่สามารถย้อนเวลากลับได้ตามต้องการและทำให้ผู้ที่ได้ ครอบครองมีความเป็นอมตะและมีอำนาจสูงสุดที่จะสามารถครอบครองโลกนี้ได้ การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องและแย่งชิงพลังของทรายแห่งกาลเวลาจึงเกิด ขึ้น


อันดับ 8 สเต็ปอัพ 3

นำแสดงโดย อดัมส์ เซวานิล, ริค มาลามบรี้, ชาร์นิ วินสัน เมื่อ มูส นักเต้นมากพรสวรรค์จากภาคที่แล้ว สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสอนศิลปะเอ็มเอสเอ มุ่งหน้า ไปกรุงนิวยอร์กเพื่อศึกษาต่อ เขาพบกับ ลุค หนึ่งในสมาชิก ทีมเต้น “เฮาส์ ออฟ ไพเรท” ที่ถือว่าเป็นทีมอันดับหนึ่งบนเวที แดนซ์อันเดอร์กราวด์ ซึ่งเป็นสวรรค์ของนักเต้นรุ่นใหม่ไฟแรงทั่วทุกมุมโลก เขามองเห็นแววของ มูส จึงชวนเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิก เพื่อจัดการกับทีมเต้น “เฮาส์ ออฟ ซามูไร” คู่ปรับตลอดกาล ในการแข่งขัน เวิลด์ แจม ที่จะมีทีมนักเต้นจากทั่วทุก มุมโลกเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อช่วงชิง เงินรางวัลก้อนโตกลับบ้าน


อันดับ 9 อลิซ อิน วันเดอร์แลนด์

นำแสดงโดย จอห์นนี่ เดปป์, มีอา วาสิโควสกา การผจญภัยครั้งใหม่ ที่ดัดแปลงจากหนังสือนิยายคลาสสิกทั้ง 2 เล่มที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของทุก ๆ คน บวกกับความมหัศจรรย์แห่งจินตนาการ และตัวละครสุดเพี้ยนที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน การเดินทาง กลับสู่ดินแดนพิศวงอีกครั้งหลังจากที่เธอเคยไปมาแล้วเมื่อครั้งยังเด็ก เธอยังได้พบกับเหล่าเพื่อนในวัยเด็กของเธอไม่ว่าจะเป็น คุณกระต่ายขาว ไวท์แรบบิท, แฝดยักษ์อ้วนจอมป่วน, ดอร์เมาส์ หนูตัวจิ๋ว, หนอนผีเสื้อ, แมวเชอร์ชายร์ และที่ขาดไม่ได้ แมด แฮทเทอร์ การเดินทางสุดมหัศจรรย์ในครั้งนี้ อลิซ จะต้องยุติการครองบัลลังก์อันโหดร้ายของราชินีแดงลงให้ได้


อันดับ 10 เพอร์ซี่ แจ็คสัน

นำแสดงโดย โลแกน เลอร์แมน, ฌอน บีน, เพียร์ซ บรอสแนน, สตีฟ คูแกน, แบรนดอน ที แจ็คสัน, อเล็กซานดร้า แด็ดดาริโอ้, โรซาริโอ้ ดอว์สัน, แคทเธอรีน คีนเนอร์, เควิน แม็คคิด, โจ แพนโทลิอาโน่, อูม่า เธอร์แมน และ เจค เอเบล เพอร์ซี่ แจ็คสัน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่มีความสามารถเฉพาะตัวที่น่าแปลกใจแต่ไม่สะดุดตา วันหนึ่งชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเมื่อความจริงปรากฏว่าพ่อที่แท้จริงของ เขาคือเทพโพไซดอนเจ้าแห่งคาบสมุทร นั่นทำให้เขาเป็นเดมิก็อด หรือ ครึ่งคนครึ่งเทพ พร้อม ๆ กับที่รับรู้ข้อกล่าวหาจากเทพ เซอุส บิดาแห่งทวยเทพทั้งมวล ว่า เพอร์ซี่ขโมยสายฟ้า ซึ่งเป็นยุทโธปกรณ์ที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุดในจักรวาลไป การเดินทางออกตามหาสายฟ้าที่หายไปจึงเริ่มต้นขึ้นโดยมีแอนนาเบ็ธและ โกรฟเวอร์ สองเพื่อนร่วมผจญภัยข้ามภพไปยังดินแดนมหัศจรรย์สุดพรรณนาที่อยู่เหนือมหานคร นิวยอร์กขึ้น ไป 600 ชั้น ซึ่งเป็นทางเข้าออกสู่เทือกเขาโอลิมปุส และข้ามฟากฝั่งไปยังป้ายสัญลักษณ์เมืองฮอลลีวูดซึ่งลึกลงไปใต้โลกพิภพดินแดน ที่ถูกเผาไหม้ด้วยเพลิงโลกันตร์.

ที่มา : เดลินิวส์
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=418&contentID=112388

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Big People : 11 คนใหญ่ กับเรื่องดีร้ายและขายฝัน

โดย : ทีมข่าวจุดประกาย

ส่ง3คำถามไปเทียบ เชิญบุคคล"ใหญ่"ในรอบปีว่าอะไรดีและแย่ที่สุดในปีเสือ รวมถึงสิ่งที่อยากเห็นอยากมีในปีหน้า..มาทบทวนและตั้งความหวังไปพร้อมๆ กัน



อมาตยา เซน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 1998


"ยากมากที่จะสรุปได้ เพราะปีนี้มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ที่อยากจะพูดถึงคือ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในบังคลาเทศ โดยเฉพาะการยกระดับ ให้สำคัญในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ของชนกลุ่มเล็ก กลุ่มน้อยๆ ต่างมากขึ้นในบังคลาเทศ ภายใต้การปกครองของกลุ่มอำนาจที่ปกครองแบบเบ็ดเสร็จมาตลอด อย่างการที่เราได้เห็นผู้หญิงบังคลาเทศเดินไปไหนก็ได้ โดยไม่ต้องมีสายตาดูถูกจากผู้ชาย มันคือสิ่งที่น่ายินดีอย่างหนึ่งนะ

ชง6มาตรการสกัดน้ำท่วมหาดใหญ่ เอกชนหนุนทุ่มหมื่นล้าน"ระบบเตือนภัย-แก้มลิง"

เปิด แผนป้องกันน้ำท่วม "หาดใหญ่โมเดล" ชง 6 มาตรการ 6 พันล้าน แก้ปัญหาระยะยาว ภาคเอกชนจวกยับมาตรการเตือนภัยห่วย จี้รัฐจริงจังสร้างระบบป้องกันภัยน้ำท่วม ลงทุนหมื่นล้านก็คุ้มค่า ด้านนักวิชาการแนะทุกมาตรการล้วนมีข้อจำกัดในตัวเอง ระบุแนวทาง เหมาะสมคือระบบแก้มลิง หรือที่พักน้ำใต้ดิน


นาย ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผย "ประชาชาติ ธุรกิจ" ว่า จากการหารือร่วมกับ กรมชลประทานและหน่วยงานในท้องถิ่น ได้ข้อสรุปและเตรียมนำเสนอมาตรการป้องกันน้ำท่วมหาดใหญ่ในระยะยาว 6 แนวทาง คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการของกรมชลประทาน วงเงิน 3,000 ล้านบาท และเทศบาลนครหาดใหญ่ 3,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย