|
ปกติแล้วเมื่อคดีอาญาถึงที่สุด การบังคับคดีจะเกิดขึ้นทันทีโดยผ่านกระบวนการของกรมราชทัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยเองได้มีการปรับปรุงกฎหมาย ให้มีลักษณะเป็นการทุเลาการบังคับโทษจำคุกหญิงมีครรภ์ และเปลี่ยนโทษประหารชีวิตหญิงมีครรภ์เป็นจำคุกตลอดชีวิต
นั่นก็คือหากจำเลยมีครรภ์ หรือถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงสามปี และจำเลยต้องเลี้ยงดูบุตรนั้น จำเลย สามี ญาติของจำเลย พนักงานอัยการ ผู้บัญชาการเรือนจำ หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายจำคุกอาจยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อ ให้พิจารณาสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อนจนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมด ไปได้
ทั้งนี้ในระหว่างทุเลาการบังคับอยู่นั้นศาลอาจจะมีคำสั่งให้หญิงนั้น อยู่ในความควบคุมในสถานที่อันควรนอกจากเรือนจำหรือสถานที่ที่กำหนดไว้ในหมาย จำคุกก็ได้
นอกจากนี้ในกรณีที่หญิงมีครรภ์ต้องโทษประหาร ชีวิต ศาลจะลงทัณฑ์บังคับคดีตามคำพิพากษาทันทีไม่ได้ แม้ว่าศาลจะได้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยอภัยโทษแล้วก็ตาม กล่าวคือศาลจะต้องรอการลงโทษประหารชีวิตไว้จนกว่าหญิงนั้นจะคลอดบุตร ซึ่งเมื่อบุตรคลอดแล้ว ในระหว่างสามปีนับแต่คลอดบุตรให้หญิงนั้นเลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสมในสถาน ที่ที่สมควรแก่การเลี้ยงดูบุตรภายในเรือนจำ โดยหากบุตรสามารถมีชีวิตรอดมาจนพ้นกำหนดสามปีนับแต่คลอดศาลจะลดโทษประหาร ชีวิตให้แก่หญิงลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต ทั้งนี้เพื่อให้บุตรได้รับการเลี้ยงดูจากมารดาและสืบสายสัมพันธ์ทางครอบครัว อันจะเป็นแนวทางให้บุตรเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคมต่อไป
ทางที่ดี แก้ที่ต้นเหตุ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมาย ดีกว่าครับ
ทนายข้างบ้าน
===================================
อ่านบทความนี้แล้วทำให้นึกถึงกระทู้หนึ่งเกี่ยวกับการขนยาเสพติด เช่นกัน "ประสบการณ์ จริง 7 วันในเรือนจำ" ในกระทู้ต้นเรื่อง จขกท. บอกว่าตนเองถูกแฟนหลอก เรื่องในกระทู้คดีความยังไม่จบเพราะศาลยังไม่ตัดสิน ก็ต้องรอกันต่อไปว่าผลจะเป็นอย่างไร !!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น