หน้าเว็บ

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"คิลิมันจาโร" ใกล้ไร้ธารน้ำแข็ง

ไม่นานมานี้เพิ่งมีข่าวจาก "ภูฏาน" ประเมินว่า

ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยอาจละลายหมดภายในไม่กี่สิบปี

เพราะผลกระทบจากปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง หรือ วิกฤตโลกร้อน!

ล่า สุด คุณลอนนี่ ทอมป์สัน นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็ง (กลาเซียร์) ประจำศูนย์วิจัยขั้วโลก มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา และคณะ ออกมาเตือนภัยในลักษณะเดียวกัน ว่า

ถ้าสถานการณ์ โลกร้อนยังคงไม่บรรเทาเบาบาง ลง ภายในปีค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) หรืออีก 12-13 ปีข้างหน้า กลาเซียร์ รวมถึงน้ำแข็ง และหิมะ จะมลายหมดสิ้นไปจากยอดเทือกเขา "คิลิมันจาโร" ประเทศแทนซาเนีย!

ท่านที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว ย่อมคุ้นหูกับชื่อ "คิลิมันจาโร" เป็นอย่างดี เนื่องจากถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในแทนซาเนีย

ได้รับการขนานนามว่า "หลังคาแห่งกาฬทวีป" เพราะครองสถิติยอดเขาสูงสุดในทวีปแอฟริกา ด้วยความสูงเกือบ 6,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

และด้วยความสูงเสียดฟ้านี่เอง ทำให้อุณหภูมิยอดเขาเย็นจัดจนเกิดเป็นธารน้ำแข็ง ครอบคลุมอาณาบริเวณประมาณ 4,500 เมตร

อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจปริมาณความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำแข็งบนยอดคิลิมันจาโร ระหว่างปี 2000 จนถึง 2007 (พ.ศ.2543-2550) พบว่า

หายไปกว่า 1 ใน 4

โดยธารน้ำแข็งส่วนที่หนาที่สุดตรงจุด "ขั้วน้ำแข็งตอนเหนือ" เคยหนา 50 เมตร

แต่มาบัดนี้ความหนาของเส้นผ่านศูนย์กลางหายไป 1.9 เมตร

นอกจากนั้น น้ำแข็งดังกล่าวยังมีอัตราการละลายเร็วมากขึ้นตามลำดับ (ปัจจุบัน ตัวเลขอยู่ที่ราว 2.4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี)

เคราะห์ยังดีที่ประชากรในพื้นที่ไม่ได้พึ่งพาน้ำจากธารน้ำแข็งมาใช้ในการดำรงชีพ หรือทำการเกษตร

ฉะนั้นในอนาคตถ้าน้ำแข็งสูญพันธุ์หมดไป คงไม่ส่งผลกระทบมากนักในแง่นี้..

แต่ความเสียหายทางธรรมชาติอื่นๆ จากภัยโลกร้อนจะ มีอะไรตามมาบ้าง เป็นประเด็นที่น่าวิตกยิ่งกว่า!

วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6922 ข่าวสดรายวัน


"คิลิมันจาโร" ใกล้ไร้ธารน้ำแข็ง

หมุนก่อนโลก @khaosod
วิทยา ผาสุก - wittayapasuk@hotmail.com

ไม่มีความคิดเห็น: