หน้าเว็บ

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เตรียมรถเมื่อฝนมาเยือน

"การเตรียมพร้อมในรถยนต์ยามที่ฝนมาเยือน ท่านควรเตรียมตัวอะไรบ้าง?"

เพราะปัญหาที่คุณคาดไม่ถึงอาจจะเกิดในช่วงฝนตกก็เป็นได้ อย่างเช่นปัญหาที่ปัดน้ำฝนไม่ทำงาน บางคันพอปัดได้พักเดียว ทั้งก้านทั้งใบปัดหลุดกระเด็นไปคนละทิศละทาง หรือเครื่องดับในขณะวิ่ง
จะลงมาเข็นก็กลัวเปียก ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่คุณจะสตาร์ทรถออกจากบ้านในหน้าฝน จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย"ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง" มีการดูแลเบื้อต้นรับหน้าฝนมาเยือน
อย่างแรกที่เจ้าของรถควรคำนึงถึงคือ

1.อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ใบปัดน้ำฝนนั้นควรจะเป็นใบปัดที่ค่อนข้างใหม่สักหน่อย เวลาปัดใบปัดจะกวาดน้ำฝนได้สะอาดดี ไม่เป็นเส้นหรือมัว และต้องไม่ทำลายกระจก ก้านปัดน้ำฝนจะต้องมียางรีดน้ำที่สมบูรณ์ ก้านจะต้องมีแรงกดกระจก ถ้าไม่มีแรงกดใบปัดก็ไม่สะอาด

ประการสำคัญ ต้องขันก้านให้แน่นถ้าหากปล่อยให้ก้านหลวม นอกจากจะหลุดกระเด็นไปต่อหน้าต่อตาแล้ว ยังเป็นผลทำให้เกิดการสึกหรอหรือก่อให้เกิดผลเสียต่อมอเตอร์ส่งกำลัง (มอเตอร์ปัดน้ำฝน)
เพราะมอเตอร์ปัดน้ำฝนจะต้องมีกำลังดีไม่ใช่หมุนแบบไม่มีแรงสปีด ซึ่งมอเตอร์ใบปัดน้ำฝนที่ติดรถนี้ควรจะมี 3 จังหวะ คือ 1.ช้า 5 วินาทีต่อ 1 ครั้ง 2.ช้าต่อเนื่องแบบ 1 ครั้งต่อ 2 วินาที และ 3.
จังหวะเร็วที่สุด

อุปกรณ์ฉีดน้ำ กระป๋องกับหัวฉีดต้องพร้อมเสมอ น้ำที่ใช้ฉีดควรจะใส่น้ำยาเช็ดกระจกไปนิดหน่อยหรือแชมพูสระผมก็ได้ ใส่นิดเดียวอย่ามาก ซึ่งทั้งหมดพอจะสรุปได้ว่าทุกอย่างควรพร้อมและถ้าพร้อมก่อนที่หน้าฝนจะมาถึง ก็จะดีมาก (แต่ถ้ากรณีที่ปัดน้ำฝนไม่ทำงานแต่จำเป็นต้องขับต่อ ให้เอาน้ำสบู่ล้างกระจกให้สะอาด เพราะจะช่วยให้น้ำไม่เกาะกระจก)

2.อุปกรณ์ประจำรถ ภายในห้องโดยสารหรือภายใต้ฝากระโปรงหลัง ควรมีหมวกหรือร่ม ไฟฉายฉุกเฉินชนิดใช้ถ่าน เสื้อกันฝนและถ้าจะให้ทันสมัยขึ้นมาหน่อยก็ควรจะมีเจ้าคอมฟอร์ต 100
(อุปกรณ์ป้องกันกระเพาะปัสสาวะอักเสบของคนกรุงเทพฯ) อุปกรณ์ที่กล่าวมานี้ ถ้าเป็นรถแบบห้องโดยสารเปิดทะลุถึงห้องเก็บสัมภาระได้ก็จะเป็นการดี เพราะจะช่วยให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขึ้น
ส่วนอุปกรณ์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงท้ายจริงๆ คือยางอะไหล่ ซึ่งต้องพร้อมเสมอ หมายถึงยางอะไหล่ต้องมีลมยางที่เหมาะสม แม่แรงสำหรับขึ้นรถ เวลาเปลี่ยนยางต้องไม่ขึ้นสนิมหรือฝืดจนหมุนไม่ได้ ตัวถอดล้อหัวกุญแจเบอร์ต่างๆ เครื่องมือประจำรถที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดมาให้

นอกเหนือจากนี้ สิ่งที่ควรเพิ่มเติมคือน้ำมันเบรกสำรอง ถังน้ำแกลลอนชนิดปิดฝาได้สนิท ท่อยางหม้อน้ำ สายพานไดชาร์จ สองรายการหลังนี้ควรซื้อให้ตรงกับเบอร์ที่ใช้ สายพ่วงแบตเตอรี่ เพื่อเอาไว้พ่วงกับแบตเตอรี่จากลูกอื่นๆ เวลาไฟรถของท่านหมด เชือกลากจูงรถทั่วไป ก็มีขายตามห้างสรรพสินค้า ควรเลือกให้มีความหนาและเหนียวเพื่อป้องกันการขาดขณะลากจูง สรุปได้ว่าทุกอย่างที่เตรียมพร้อมมาแล้วนั้น นอกเหนือจากที่จะไว้ใช้กับรถของเราเองแล้วยังสามารถช่วยเหลือรถผู้อื่นได้ อีกด้วย

3.ยางทั้ง 4 ล้อ ต้องมีดอกยางไม่ใช่ยางหัวโล้น ยางถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ประเภทยางแกะดอก ยางหัวโล้น ห้ามใช้โดยเด็ดขาด คำว่าฝนตกถนนลื่นมีความสำคัญเป็นอย่างมากหากยางไม่ค่อยดี
โอกาสที่จะหงายท้องตีลังกาก็มีสูง ควรเปลี่ยนของใหม่ดีกว่า การใช้ควรใช้แค่ 60-70% ก็พอ และที่สำคัญควรเลือกยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน

4.ช่วงล่างและเบรก ช่วงล่างกับเบรกนี่ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน ในยามที่ขับรถตะลุยฝนอยู่ หากช่วงล่างไม่ค่อยดีการบังคับทิศทางก็จะผิดเพี้ยน รวมทั้งเบรกก็เช่นกัน หากชำรุดโอกาสที่จะเสยท้ายรถคันอื่นก็มีมาก หรือถ้าเบรกดีมากเกินไปโอกาสที่จะหมุนก็มีเยอะ

ฉะนั้นเวลาเบรกในขณะฝนตกหรือถนนลื่นควรค่อยๆ เบรกแล้วปล่อยทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ารถชะลอความเร็ว ทั้งนี้ควรกระทำแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าเบรกอย่างกระทันหันโอกาสที่จะเอาสีข้างฟาดกับรถคนอื่นก็มีได้ ดังนั้นยางทั้ง 4 ล้อ รวมทั้งช่วงล่างทั้งหมด เบรกทุกระบบ โช้กอัพทั้งหมด ควรจะต้องมีสภาพที่พร้อมใช้งานได้ทุกๆ ฤดูกาล

ที่มา : Motoring ManagerOnline

ไม่มีความคิดเห็น: