หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

อาร์เซน่อล 1 - 1 ลิเวอร์พูล

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2554

สนาม : เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม


เดอะ กันเนอร์ส ต้องการชัยชนะที่ เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม เพื่อบีบช่องว่างกับจ่าฝูง แมนฯ ยูไนเต็ด ให้เหลือสี่ โดยกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ เปลี่ยนสามตำแหน่งจากชุดที่บุกชนะ แบล็คพูล สัปดาห์ก่อนโดยให้มือกาว วอจเซียจ เชสนี่, กองหลัง โยฮัน ฌูรู และปีก ธีโอ วัลค็อตต์ คืนตัวจริงในโควต้า เยนส์ เลห์มันน์, เซบาสเตียง สกิลลาชี่ และ อังเดร อาร์ชาวิน



ด้าน เคนนี่ ดัลกลิช นายใหญ่ หงส์แดง ยังยึดทีมชุดที่เปิดบ้านต้อน แมนฯ ซิตี้ นำโดยคู่หัวหอก หลุยส์ ซัวเรซ กับ แอนดี้ แคร์โรลล์ รวมถึง จอห์น ฟลานาแกน แบ๊กดาวรุ่งวัย 18 ด้วย


เจ้าถิ่นเดินหน้าลุย และได้ลุ้นตั้งแต่นาทีที่ 4 เมื่อได้ฟรีคิกทางซ้าย ซามีร์ นาสรี่ ตักไปที่จุดนัดพบให้ อาบู ดิยาบี้ เติมขึ้นมาเบียด แคร์โรลล์ แล้วโขกเต็มๆ หลุดกรอบน่าหวาดเสียว


หงส์แดง โต้ตอบในอีกสามนาทีต่อมาเมื่อได้ฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลา ซัวเรซ อาสาปั่นแฉลบกำแพง แต่ตรงตัว เชสนี่ เลยรับสบาย


นาทีที่ 13 ลิเวอร์พูล หวิดโดนเมื่อ มาร์ติน สเคอร์เทล สกัดบอลไม่ขาด เลยโดน วัลค็อตต์ กระหน่ำจากหน้ากรอบเขตโทษด้านขวาลูกพุ่งไซด์โค้ง แต่ โฆเซ่ เรน่า นายทวาร หงส์แดง ทุบทิ้งได้ตรงเสาแรก


เดอะ กันเนอร์ส มาเป็นชุดๆ นาทีที่ 16 จากจังหวะเตะมุมด้านขวา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ บรรจงเปิดให้ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ เทกตัวโหม่งไปชนคานเต็มๆ


เมื่อถึงนาทีที่ 20 ข่าวร้ายมาเยือน หงส์แดง อีกเมื่อ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ คิง เคนนี่ ต้องส่ง แจ็ค โรบินสัน ดาวรุ่งลงเล่นแบ๊กซ้ายแทน ซึ่งเจ้าหนูรายนี้ เคยทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่เล่นให้ หงส์แดง ในพรีเมียร์ลีก เมื่อเล่นเกมนัดสุดท้ายซีซั่น 2009-10 กับ ฮัลล์ ด้วยวัย 16 ปีกับ 250 วัน


อาร์เซน่อล เร่งเครื่อง นาทีที่ 25 เชส ฟาเบรกาส กระดกให้ ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือ เรน่า ตุงตาข่าย แต่ต้องเฮเก้อ เพราะไลน์แมนตีธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ถัดมา ซัวเรซ จ่ายพลาดเกือบทำให้ หงส์แดง โดนทิ่มเมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ ฉกไปชิ่งให้ ฟาเบรกาส หวดหน้ากรอบหลุดเสาแรกไป


ลิเวอร์พูล ต้องงัดลูกฟาวล์มาหยุดเกมรุกเจ้าบ้าน กระทั่งสองกองหลังทั้ง ฟลานาแกน และ สเคอร์เทล โดนใบเหลืองในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันตอนประมาณครึ่งชั่วโมงของเกม


นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก อาร์เซน่อล ชวดได้ประตูนำอย่างน่าเสียดายเมื่อ เอบูเอ้ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วดันลื่นในจังหวะยิงมุมแคบ ทำให้บอลไม่แม่นยำ ลูกผ่านหน้าประตูไป จบ 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0


ครึ่งหลัง อาร์เซน่อล เร่งเครื่อง แต่หวิดโดนในนาทีที่ 50 จากความสามารถเฉพาะตัวของ ซัวเรซ รับบอลจากกลางสนามแล้วกระชากขึ้นตรงๆ ก่อนล็อกหลบกองหลัง ปืนโต แล้วสับไกด้วยซ้ายหน้าหัวกระโหลกหลุดเสาไปแบบน่าหวาดเสียว


นาทีถัดมา เดอะ ค็อป เสียววาบเมื่อ แคร์โรลล์ ลงน้ำหนักผิดจังหวะเลยเจ็บข้อเท้านอนกลิ้งในกรอบเขตโทษเจ้าบ้าน และภายหลังจากที่รับการปฐมพยาบาลแล้ว ก็ยังสามารถเล่นต่อไปได้


ผ่านมาถึงนาทีที่ 57 เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลัง ลิเวอร์พูล ชนกันเองกับ จอห์น ฟลานาแกน กลางอากาศ จน "คาร์ร่า" อาการน่าห่วง ต้องลงเปลแถมใส่หน้ากากอ๊อกซิเจนอีก ทำให้ ดัลกลิช ต้องส่ง โซติริออส คีร์เกียคอส ลงแทนในนาทีที่ 62


เดอะ กันเนอร์ส ใช้การต่อบอลสั้นเข้าทำ แต่ยังเจาะไม่เข้า เหลืออีกราว 20 นาที ดัลกลิช ต้องเปลี่ยนคนที่สามโดยถอด แคร์โรลล์ ที่กระเผลกออกแล้วส่งมิดฟิลด์ดาวรุ่ง จอนโจ เชลวี่ย์ ลงสนาม ขณะที่ เวนเกอร์ เน้นรุกเต็มที่ด้วยการส่ง อาร์ชาวิน กับ นิคลาส เบนท์เนอร์ ลงสนามแทน แจ็ค วิลเชียร์ และ วัลค็อตต์


นาทีที่ 76 กองหลัง อาร์เซน่อล พลาดปล่อยให้ลูกวางยาวของ หงส์แดง ถึง เดิร์ค เค้าท์ ที่ฉีกไปทางขวา ก่อนจ่ายให้ ซัวเรซ แตะเข้าเท้าซ้ายก่อนลั่นไก 18 หลากะให้เสียบเสาสอง ทว่า เชสนี่ พุ่งปัดไว้ได้


เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เวนเกอร์ เปลี่ยนอีกตัวโดยส่ง อเล็กซ์ ซง แทน ดิยาบี้ และเจ้าบ้าน ก็มีลุ้นได้ประตูเมื่อ กาแอล กลิชี่ วางยาวจากกราบซ้ายให้ ฟาน เพอร์ซี่ โฉบไปสะบัด แต่ เรน่า ดักไว้ที่เสาสอง


นาทีที่ 86 กูนเนอร์ส หวิดได้เมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเข้าไปวอลเล่ย์เต็มๆ ในกรอบเขตโทษด้านซ้ายติดขา เรน่า ก่อนที่ในจังหวะต่อเนื่อง ลูกทะลักไปทางขวา เบนท์เนอร์ กดเน้นๆ ก็ยังติดนายทวารชาวสแปนิชอีก


จากการที่เกมหยุด เพราะนักเตะเจ็บเยอะในเกมนี้ ทำให้มีการทดเวลาบาดเจ็บถึงแปดนาที และ อาร์เซน่อล ก็บุกหนัก และได้จุดโทษในนาทีที่หกของการทดเวลาเมื่อ เจย์ สเพียริ่ง ไปเกี่ยว เชส ฟาเบรกาส ล้มในกรอบเขตโทษ และ ฟาน เพอร์ซี่ สังหารไม่เหลือ ให้ ปืนใหญ่ นำ 1-0

เลยช่วงทดเวลาบาดเจ็บมาแล้วถึงนาทีที่ 11 ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกบนเส้นประตู ซัวเรซ ยิงไปติดกำแพงเหมือนไม่มีอะไรแล้ว แต่ลูกไปเข้าทาง ลูคัส เลว่า และ เอบูเอ้ ดันไปผลักดาวเตะแซมบ้าหน้าตาเฉย ผู้ตัดสินให้จุดโทษแก่ทีมเยือนทันที และ เค้าท์ อาสาสังหารตุงตาข่าย จบเกมทั้งสองทีมเสมอกันเหลือเชื่อ 1-1 อาร์เซน่อล ชวดบี้ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างน่าเสียดาย โดยตามหลังอยู่หกแต้ม และแข่งเท่ากัน ส่วน ลิเวอร์พูล อยู่อันดับหก มี 49 คะแนน ตามหลังอันดับห้า สเปอร์ส สี่แต้ม แต่แข่งมากกว่าถึงสองเกม


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


อาร์เซน่อล : วอจเซียจ เชสนี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โยฮัน ฌูรู, กาแอล กลิชี่, อาบู ดิยาบี้, แจ็ค วิลเชียร์, ธีโอ วัลค็อตต์, เชส ฟาเบรกาส, ซามีร์ นาสรี่, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

สำรอง : เยนส์ เลห์มันน์, อเล็กซ์ ซง, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, อังเดร อาร์ชาวิน, คีแรน กิ๊บบ์ส, มารูอาน ชามัคห์, นิคลาส เบนท์เนอร์


ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, จอห์น ฟลานาแกน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เดิร์ค เค้าท์, เจย์ สเพียริ่ง, ลูคัส เลวา, ราอูล เมยเรเลส, หลุยส์ ซัวเรซ, แอนดี้ แคร์โรลล์

สำรอง : ปีเตอร์ กูลากซี่, โจ โคล, โซติริออส คีร์เกียคอส, มักซี่ โรดริเกซ, ดาวิด เอ็นก๊อก, จอนโจ เชลวี่ย์, แจ็ค โรบินสัน

ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์

ไม่มีความคิดเห็น: