หน้าเว็บ

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

หนีอุทกภัย ไปโอ๊คแลนด์

โดย : มานพ จันทรฯ
@กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


บนแผ่นดินเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์นั้น เมืองโอ๊คแลนด์ (Auckland) คือประตูด่านแรกที่จะไปสู่เมืองอื่นบนเกาะแห่งนี้

โอ๊คแลนด์ มีตัวเมืองตั้งอยู่บน ภูเขาไฟที่ดับแล้ว จะเห็นว่าภูมิประเทศเป็นเนินเขาและหลุมปล่องภูเขาไฟอยู่ทั่วไป และกลายเป็นเสน่ห์ของเมืองที่ไม่มีที่อื่นเทียบได้ แถมยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของนิวซีแลนด์อีกด้วย




ตัวเมืองตั้งอยู่ระหว่างอ่าวไวเตมาตา และอ่าวมานูเกา เป็นศูนย์กลางธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ เนื่องจากเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นเมืองแห่งการเล่นเรือใบ มีฉายาว่าเมืองแห่งเรือใบ (The City of Sails) มีแม่น้ำไวกาโต ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในนิวซีแลนด์ไหลผ่าน


บางครั้งเมืองนี้ก็อาจมีชื่อเรียกว่า"เมืองราชินี" เพราะความเป็นมหานครขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางธุรกิจ อุตสาหกรรม และยังเป็นศูนย์กลางการศึกษา มีนักเรียนต่างชาติมาพักอาศัยอยู่ในเมืองนี้จำนวนมาก


การเป็นเมืองแห่งการแล่นเรือทำให้โอ๊คแลนด์มีท่าเรือจอดเรือใบหลายแห่ง แต่ละแห่งมีเรือจอดเรียงรายอย่างหนาแน่น ใกล้ๆกันนั้นมีร้านกาแฟ ภัตตาคาร แหล่งบันเทิงยามค่ำคืนไว้รองรับนักแล่นเรือ โดยเฉพาะที่ท่าเรือเวสต์ทาเวน มารีน่า (Westhaven Marina)


ในเขตใจกลางเมืองส่วนใหญ่เป็นอาคารสำนักงาน ที่ตั้งของบริษัท ศูนย์กลางของธุรกิจ มีทางด่วนเชื่อมต่อไปยังอ่าว มีหอคอยระฟ้า (Sky Tower) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคม วิทยุ โทรทัศน์ มีความสูงที่สุดในโอ๊คแลนด์ ภายในเปิดเป็นภัตตาคาร ร้านกาแฟ และยังมีมุมสำหรับผู้ที่ชอบกีฬาท้าทายความตื่นเต้น "บันจี้จัมพ์" ซึ่งที่นี่เรียกว่า "สกายจัมพ์" นั่นเอง


บนถนนควีน (Queen Street) มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมีความเก่าแก่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี นั่นคือศาลากลางของเมือง (Auckland Town Hall) เป็นที่ทำการของราชการ และส่วนหนึ่งยังใช้เป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ตอีกด้วย


หนึ่งในสถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์สำคัญของนิวซีแลนด์ที่ควรไปสัมผัสก็คือ พิพิธภัณฑ์รำลึกสงคราม (Auckland War Memorial Museum) เป็นอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะใจกลางของมหานคร


สถานที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ ขั้วโลกใต้จำลองและโลกใต้น้ำของเคลลี ทาร์ลตันส์ (Kelly Tarlton's Antarctic Encounter & Underwater World) เปิดให้สัมผัสชีวิตขั้วโลกใต้ทวีปแอนตาร์กติกและจำลองการดำรงชีวิตของนักสำรวจขั้วโลกใต้ ชมฝูงนกเพนกวินเดินเล่นและว่ายน้ำอย่างใกล้ชิดซึ่งอยู่ในห้องโถงแก้ววจำลองบรรยากาศและสภาพอากาศ อุณหภูมิ -7 องศาเซลเซียส โดยนั่งรถรางคันเล็ก Snowcat ride เข้าไปชม


นอกจากนี้ยังมีส่วนจัดแสดงสัตว์น้ำ (Underwater World) มีปลาทะเลนานาชนิดว่ายอยู่ในอุโมงแก้วขนาดใหญ่ให้ชมอีกด้วย


ในภาพยนตร์ In My Father's Den (2004) เล่าเรื่องของ "พอล" (แมทธิว แม็คฟาเดน) ช่างภาพข่าวสงครามเดินทางจากลอนดอนกลับไปบ้านเกิดในชนบทเล็กๆแห่งหนึ่งในนิวซีแลนด์หลังจากมา 17 ปี ภายหลังบิดาเสียชีวิตลง เพื่อไปจัดการกับเอกสารบางอย่าง


พอลตัดสินใจที่จะพักอยู่ที่นั่นสักระยะ และที่โรงเรียนเก่าของเขาก็เสนองานเป็นครูสอนเด็กนักเรียนที่นั่น ภาพเก่าๆในความทรงจำกลับมาอีกครั้ง ทั้งคนรู้จัก ครอบครัว และเพื่อนเก่า รวมทั้งคนรักเก่าที่แต่งงานมีลูกสาวอายุ 16 ปี ชื่อ "เซเลีย" (เอมิลี บาร์เคลย์) ซึ่งเป็นนักเรียนที่พอลสอนอยู่ จนวันหนึ่งเซเลียหายตัวไป ทุกคนต่างสงสัยในตัวเขาอย่างมาก และแล้วทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยขึ้นทีละนิด


In My Father's Den สร้างจากนิยายชื่อเดียวกันของ มัวริช จี ผู้กำกับ แบรด แม็คแกน ลงมือเหมาเขียนบทเอง มีการเดินเรื่องเนิบนาบเนิ่นนานไปสักหน่อย แต่ก็ชวนให้ติดตามอยากรู้ว่าจะลงเอยเช่นไรซึ่งผลงานชิ้นนี้ได้รับรางวัลจากเวทีเทศกาลภาพยนตร์ในปี 2005 หลายเวที รวมทั้งการประกวดภาพยนตร์ในบ้านเกิด หลักๆแล้วปักหลักถ่ายทำกันที่โอ๊คแลนด์ และเมืองอื่นของนิวซีแลนด์ในบางฉาก


ในนิวซีแลนด์มีปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติอยู่บ้าง ที่ปรากฏบ่อยก็คือเหตุแผ่นดินไหว แต่ก็ไม่กระทบกระเทือนถึงโอ๊คแลนด์ ส่วนใหญ่เกิดในเมืองอื่น ทั้งความเจริญ สิ่งอำนวยความสะดวก อากาศ ทำให้โอ๊คแลนด์มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นมากกว่าเมืองเวลลิงตัน ซึ่งเป็นหลวงเสียอีก


หากต้องลี้ภัยสักพัก ”โอ๊คแลนด์”ก็อยู่ไม่ไกลจนเกินไป


…………….
City : Auckland
Country : New Zealand,
Population : 1,462,000
Film : In My Father's Den (2004)
Director : Brad McGann
Cast : Matthew Macfadyen, Miranda Otto, Emily Barclay

ไม่มีความคิดเห็น: