หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

หัวใจ(นักช็อป)กระเพื่อมที่”นิวยอร์ก”

นอกจากลอนดอนคือเมืองที่ไม่มีใครเบื่อโลก นิวยอร์กเองก็เช่นกัน เป็นมหานครที่ไม่เคยมีใครนึกเบื่อ คงจะคล้ายกับที่นักเขียนอย่างไมนาร์ ลอยกล่าวไว้ว่า ถ้าคุณเบื่อนิวยอร์ก ก็โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง

ส่วนฉันถ้าเบื่อนิวยอร์กคงไม่นั่งเรือบินห้อมาไกลขนาดนี้ แต่บอกแล้วว่ามานิวยอร์กช่วงเทศกาลปีใหม่ เรื่องที่พักอาจจะขลุกขลักไปนิด คืนเคานท์ดาวน์โรงแรมแพงเท่าไหร่ก็ต้องยอมจ่าย แต่คืนนี้ขอย้ายไปนอนโรงแรมอื่นที่ราคาไม่บั่นทอนจิตใจ เลยลองคลิกเข้าไปสำรวจในเว็บไซต์อโกดา(www.agoda.co.th) เพราะเขามีห้องพักให้เลือกเยอะมาก แถมห้องพักแบบราคาย่อมเยาก็มี พอเจอปุ๊บ รีบคลิกเข้าไปตะครุบแล้วออกไปตะลุยนิวยอร์กต่อ


ที่จริงยังไม่ต้องไปไหนไกลรอบๆ ไทม์สแควร์มีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง อย่างเมดิสัน สแควร์ ก็ตั้งอยู่บนถนนสาย 32 เดินขึ้นไปอีกนิดบนถนนสาย 34 ตรงนี้ก็คึกคัก เขาเรียกย่านเฮอรัลด์ สแควร์ ในอดีตที่นี่คือศูนย์กลางย่านโรงละคร ทุกวันนี้เต็มไปด้วยร้านรวงให้ช็อปละลานตา แต่ที่สาวนักช็อปทุกคนพุ่งสายตาไปหาคงเป็นห้างเมซี่ ห้างขวัญใจชาวอเมริกันที่เขาบอกว่าเป็นมากกว่าห้าง เมซี่เป็นห้างใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ อายุ 109 ปี มีสาขาทั่วอเมริกา 850 แห่ง แต่ที่นิวยอร์กเนี่ยถือว่าคลาสสิกที่สุดแล้ว

เดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้เนี่ย ใครๆ ก็ทำหน้ากำลังเพลิดเพลินอยู่ในป่าคอนกรีตผืนใหญ่ รอบตัวเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นตึกของจีอี ไครสเลอร์ บิวดิ้ง ตึกวูลเวิร์ธแต่คงไม่มีตึกไหนที่โดดเด่นเท่าเอ็มไพร์ สเตทอีกแล้ว

นี่คือสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในมหานครนิวยอร์ก และเคยครองตำแหน่งสูงที่สุดในโลกอยู่ถึง 40 ปี ตึก 102 ชั้น สไตล์อาร์ตเดคโคแห่งนี้มีส่วนสูงเกือบ 450 เมตร เรียกว่าสูงจัด แต่ก็เคยเสียแชมป์ให้ตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ตอนที่ยังไม่ถูกถล่ม แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาต่อคิวยาวเหยียดเพื่อขึ้นไปชมวิวของนิวยอร์กบนชั้น 86 ของตึกนี้มากกว่า 4 ล้านคน

ถึงแม้ตอนนี้จะมีตึกทั่วโลกที่ทำสถิติสร้างสูงกว่าเอ็มไพร์ สเตทเยอะแยะไปหมด แต่เชื่อว่า ตึกเอ็มไพร์ สเตทก็ยังคงโด่งดังและคุ้นหูนักท่องโลกอยู่ดี

สำหรับคนที่มองหาตึกเอ็มไพร์ สเตทก็ไม่ยาก ถ้าไปไม่ถูกให้ถามหาถนนหมายเลขห้าเอาไว้ก่อน แต่เตือนไว้ซะก่อน ว่ามองจากถนนนี้แหงนกันเมื่อยคอ แต่ไม่เป็นไร ถ้าเมื่อย ถนนสายห้ามียาแก้เมื่อยไว้แจกจ่ายทุกคน ได้ช็อปปิ้งระบายเงินดอลลาร์ออกจากกระเป๋าบ้าง นี่แหละยาแก้เมื่อยขนานดี เพราะถนนสายห้าหรือฟิฟธ์ อเวนิวคือถนนสายช็อปปิ้งชื่อดังของนิวยอร์กที่คนมานิวยอร์กทุกคนห้ามพลาด

ที่จริงถ้าจะเดินจากไทม์ สแควร์มาหาถนนสายห้านี่ก็ไม่ไกล แค่บล็อกสองบล็อกก็ถึงแล้ว แต่การเดินบนถนนสายห้าต่างหากที่คุณต้องใช้เวลา เพราะตลอดระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตรของถนนสายนี้ ช่างมากมายไปด้วยสิ่งน่าสนใจ

ฟิฟธ์ อเวนิวตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เรียกกันว่าย่านมิดทาวน์ สมัยก่อนสองฟากฝั่งของถนนสายนี้เต็มไปด้วยคฤหาสน์ของพวกผู้มีอันจะกิน เรียกว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของพวกสังคมชั้นสูง แต่ต่อมาพอร้านค้าเริ่มเปิด บรรดาเศรษฐีก็พากันอพยพไปอยู่แถวอัพทาวน์ ย่านนี้ก็เริ่มกลายสภาพเป็นโรงแรม แหล่งช็อปปิ้ง และอาคารสำนักงานของบริษัทชั้นนำ

นอกจากเอ็มไพร์ สเตทที่เป็นนางเอกประจำถนน คนมาแถวนี้โดยมากอันดับแรกจะถามหาร็อคกี้ เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์กันก่อน เพราะตรงนี้เป็นกลุ่มอาคารที่แม้จะสร้างได้ไม่นานแต่เป็นเหมือนแหล่งศูนย์กลางย่านมิดทาวน์ที่รวมความบันเทิงทำให้คึกคักได้ทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากจะเป็นแหล่งช็อปชั้นดี ยังมีคาเฟ่เอาไว้ให้นั่งแฮงเอาท์ ในตึกสูงมีแกลเลอรี่ที่อุดมไปด้วยงานศิลปะ

เยื้องๆ กับร็อกกี้เฟลเลอร์ เป็นโบสถ์เซนต์แพททริค วิหารสไตล์โกธิกที่สร้างตั้งแต่ปี 1878 โดยเจมส์ เรนวิก นี่คือโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่ในอเมริกา ตอนที่มีแนวคิดจะสร้างเมื่อปี 1850 ก็โดนต่อต้านเยอะ หลายคนบอกว่าไกลจากตัวเมือง เพราะตอนนั้นถนนสายห้ายังไม่ได้โด่งดัง แต่พอมาถึงตอนนี้ เรียกว่าคนคิดมีวิสัยทัศน์มาก เพราะนี่ถือโบสถ์ที่อยู่ใจกลางมหานิวยอร์กมากที่สุด หรือจะบอกว่าอยู่ใจกลางเกาะแมนฮัตตันเลยก็ว่าได้

บนถนนสายห้ายังมีห้างและร้านรวงเอาไว้ดักนักช็อปตลอดทาง ห้างดังอย่างแซคส์อเวนิว ลอร์ด & เทย์เลอร์ที่อยู่บนถนนสายห้ามาตั้งแต่ปี 1914 หรือห้างมีสไตล์ทาคาชิมายา และห้างสุดหรูตั้งแต่ปี 1928 ที่ชื่อเบิร์กดอร์ฟ กู๊ดแมน ก็ล้วนแต่อยู่ละแวกนี้ทั้งสิ้น

จริงอยู่นิวยอร์กอาจจะมีมุมให้ช็อปปิ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านโซโหที่เป็นเหมือนสยามสแควร์ของนิวยอร์ก ที่เป็นทั้งแหล่งช็อปของวัยรุ่นและมีกองทัพแบรนด์เนมเอาไว้รอเงินจากคนวัยทำงาน หรือใครที่ชอบของชิคของเก๋ของไปย่านนอร์ท ออฟ ฮุสตัน แต่จุดที่กูรูนักช็อปยกให้เป็นไฮไลท์ของการช็อปปิ้งในมหานครนิวยอร์กก็อยู่บนถนนสายห้าและย่านมิดทาวน์นี่แหละ

เดินเหินอยู่แถวนี้แล้วชวนให้รู้สึกว่านิวยอร์กไม่ได้เป็นแค่เมืองใหญ่ของอเมริกา แต่ยังเป็นเมืองหลวงในโลกแห่งการช็อปปิ้งได้สบายๆ หรือบางทีคุณก็อาจจะพบว่าสวรรค์ของนักช็อป ไม่ได้จำกัดอยู่แค่มิลาน ลอนดอน หรือปารีส แต่นิวยอร์กก็ไม่เป็นรองที่ไหนในโลก เรียกว่าทำหัวใจสาวนักช็อปกระเพื่อมมานับไม่ถ้วนแล้ว

โดย : กาญจนา หงษ์ทอง
เที่ยวนี้ขอเล่า @คมชัดลึก
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554
--------------------------------------
คัดลอกเนื้อหามาจากเว็บ แต่ดูภาพประกอบแล้วไม่ใช่ New York  เป็นเมือง Jaipur India เมืองสีชมพู
Hawa Mahal หรือ Palace of the Winds 






ไม่มีความคิดเห็น: