หน้าเว็บ

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พายุทราย อริโซน่า


พายุทรายจำนวนมหาศาลที่พัดเข้ามายังบริเวณ ตัวเมืองฟินิกซ์ รัฐอริโซนา คืน 05-07-2011  ทำให้ต้นไม้ใหญ่โค่นล้มเป็นจำนวนมาก ในบางจุด กำแพงฝุ่นกว้างถึง 80 กิโลเมตร


ที่มา : pranot@twitter


“พายุฝุ่นยักษ์” กลืนเมืองในสหรัฐฯ!!
7 กรกฎาคม 2554


เอเอฟพี/เดลิเมล์ - พายุฝุ่นลูกมหึมากลืนเมืองฟีนิกซ์ มลรัฐแอริโซนา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร (5) ตามเวลาท้องถิ่น บดบังท้องฟ้าจนมืดมิดหักโค่นต้นไม้และเสาไฟฟ้าระเนระนาด


สำนักข่าวเอบีซีนิวส์รายงานว่า พายุหมุนดำทะมึนขนาดกว้าง 60 ไมล์ สูง 10,000 ฟุต พัดด้วยความแรงลม 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติเปิดเผยว่า มันเริ่มก่อตัวเป็นพายุในพื้นที่ทูซอนในช่วงบ่าย จากนั้นเคลื่อนพายุฝุ่นขนาดยักษ์ก็เคลื่อนมาทางเหนือและข้ามทะเลทรายก่อนโหมกระหน่ำเมืองฟีนิกซ์


ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ยืนยันว่า พายุลูกดังกล่าวเป็นพายุฝุ่นขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคลื่อนผ่านพื้นที่นี้


ขณะที่พายุฝั่นลูกดังกล่าวพัดโค่นต้นไม้ล้มระเนระนาด เสาไฟฟ้าหักโค่นทำประชาชนหลายพันคนไม่มีไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้ เที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่เมืองฟีนิกซ์ก็ต้องเลื่อนกำหนดการบินออกไปก่อน เนื่องจากพายุฝุ่นบดบังทัศนวิสัย


“พายุฝุ่นยักษ์” กลืนแอริโซนาระลอกสอง
20 กรกฎาคม 2554


เดลิเมล์ - มลรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ถูกพายุฝุ่นลูกมหึมาโจมตีเป็นลูกที่สองในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์เมื่อวันจันทร์ (18) ตามเวลาท้องถิ่น อิทธิพลของมันแแปรเปลี่ยนท้องฟ้าเป็นสีน้ำตาล ต้องดีเลย์เที่ยวบินจำนวนมาก ก่อความโกลาหลแก่ผู้ขับขี่ และด้วยทัศนวิสัยที่เลวร้ายทำให้รถบรรทุกหลายคันประสบอุบัติเหตุ


พายุฝุ่นลูกนี้ก่อตั้งที่ปินัล เคาน์ตี และมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อนพัดเข้ากลืนเมืองฟินิกซ์ ณ เวลาประมาณ 17.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 07.30 น.เช้าวันอังคาร) โดยกำแพงฝุ่นยักษ์นี้มีความสูงราว 3,000 ฟุต พัดด้วยความแรงลม 40 ถึง 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ออสติน จามิสัน นักพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าว


“คุณได้เจอกับทัศนวิสัยเลวร้ายอย่างกะทันหันซึ่งมาพร้อมๆ กับฝุ่นที่หนาทึบในอากาศ” เขากล่าว “ด้วยทัศนวิสัยที่เลวร้าย จึงเป็นอันตรายต่อการขับขี่”


รายงานข่าวระบุว่า ทัศนวิสัยที่เลวร้ายเป็นสาเหตุให้รถบรรทุก 8 คนประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันบนถนนสายอินเตอร์เสตท8 โดยคนขับ 3 รายถูกนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินส่งสถานพยาบาลแห่งหนึ่งในฟินิกซ์ ขณะที่คนอื่นๆอีก 7 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดเลนฝั่งตะวันตกเพื่อเปิดทางให้หน่วยกู้ภัยเคลียร์รถออกจากถนน


ขณะเดียวกัน มีรายงานพายุฝุ่นยังทำให้เที่ยวบินจำนวนหนึ่ง ณ ท่าอากาศยานฟินิกซ์ สกาย ฮาร์เบอร์ ต้องเดินทางล่าช้า โดยทางโฆษกของสนามบินบอกว่าเที่ยวบินขาเข้าจากเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงรวมไปถึงลอสแองเจลินถูกระงับไว้จนกว่าพายุจะคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ระบุถึงจำนวนเที่ยวบินที่ต้องดีเลย์หรือถูกยกเลิก


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา พายุฝุ่นลูกมหึมากลืนเมืองฟีนิกซ์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ไปแล้วรอบหนึ่ง โดยคราวนั้นมันดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกได้อย่างมาก


พายุฝุ่นลูกดังกล่าวบดบังท้องฟ้าจนมืดมิด หักโค่นต้นไม้และเสาไฟฟ้าระเนระนาด ทำประชาชนหลายร้อยคนต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้า สระว่ายน้ำเต็มกลายเป็นบ่อโคลนและต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยว


อย่างไรก็ตาม จามิสันบอกว่า พายุฝุ่นลูกล่าสุดนี้ไม่รุนแรงและมีขนาดใหญ่เท่าลูกแรก แถมมันยังใช้เวลาดูดกลืนเมืองสั้นกว่าด้วย ขณะที่โฆษกสนามบินบอกว่าทัศนวิสัย ณ ท่าอากาศยานในวันจันทร์ (18) ดีกว่าเมื่อเหตุการณ์วันที่ 5 กรกฎาคม โดยหนนั้นพายุฝุ่นสูงกว่า 5,000 ฟุต ส่งผลกระทบให้ต้องระงับเที่ยวบินนานกว่า 45 นาที หักโค่นต้นไม้ เสาไฟฟ้าระเนระนาดและบดบังวิสัยทัศน์ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 ไมล์เลยทีเดียว

เมืองฟีนิกซ์เผชิญพายุทรายใหญ่เป็นครั้งที่ 3
วันเสาร์ ที่ 20 สิงหาคม 2554

สภาพอากาศโลกแปรปรวน ส่งผลให้เกิดพายุทรายขนาดใหญ่เข้าถล่มเมืองฟีนิกซ์ ประเทศสหรัฐฯ เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 สัปดาห์


เมื่อวันที่ 20 ส.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฟีนิกซ์ รัฐอาริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างฟีนิกซ์ รัฐอาริโซน่า ต้องพบกับความอกสั่นขวัญแขวนอีกครั้ง หลังจากพายุทรายขนาดใหญ่พัดเข้าถล่มเมืองเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ในรอบ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทั่วท้องฟ้าซึ่งปกคลุมด้วยละอองทรายกลายเป็นสีน้ำตาล และทุกสิ่งในเมืองถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นทราย สำหรับพายุทรายลูกนี้มีความสูง 300 เมตร เคลื่อนตัวเป็นระยะทางประมาณ 80 กม.เข้ามาสู่เขตใจกลางเมือง และเขตพินัล ที่อยู่ใกล้กันตั้งแต่เย็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก่อนที่จะอ่อนกำลัง และสลายตัวลงในที่สุด

นายเคน วอเตอร์ส เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พื้นที่แถบนี้เคยเผชิญกับพายุทรายมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่สำหรับปีนี้ต่างกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งขนาด และความรุนแรง โดยพายุทรายลูกแรกของปีที่พัดถล่มเมืองฟีนิกซ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา มีความสูงถึง 1.6 กิโลเมตร ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าขัดข้อง ประชาชน 10,000 คน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยวบิน เพื่อความปลอดภัย ส่วนพายุทรายลูกที่สองนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา มีความสูง 1.2 กิโลเมตร ทำให้ต้องเลื่อนเที่ยวบิน และประชาชน 2,000 คน ไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นกัน.

ไม่มีความคิดเห็น: