หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

“ฤกษ์งาม...ดวงชะตา” ปี 2555 มุ่งทำดี...สร้างเสริมสุขทางใจ

ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่เข้ามา หลายคนคงอยากรู้ว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นบ้าง ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ เกริ่นนำว่า ในการพยากรณ์ดวงเมืองจะใช้ดวงพระฤกษ์ฝังเสาหลักเมือง เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2325 เวลา 06.45 น. เรียกว่า ดวงกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งถือเป็นความเชื่อเพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขในบ้านเมือง โดยในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2555 ดวงเมืองจะมีอายุครบ 230 ปีเต็ม จะมีอายุย่างเข้าปีที่ 231

สำหรับในปีพ.ศ. 2555 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า ดวงดาวที่โคจรในปี พ.ศ.2555 มีดาวพระเคราะห์สำคัญที่น่าพิจารณา ดาวเสาร์กับดาวพฤหัสบดี ในส่วนของดาวพฤหัสบดี ในขณะนี้โคจรถอยหลังอยู่ในราศีเมษ ซึ่งถือว่าดี โดย ดาวพฤหัสบดีจะโคจรทับอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวคู่มิตรในดวงเมือง และทับลักขณาเมือง แต่ด้วยเหตุที่ดาวพฤหัสบดีโคจรถอยหลัง ก็เลยคุ้มชะตาเมืองไม่ค่อยได้ โดยจะถอยหลังไปถึงวันที่ 3 มกราคม 2555 จากนั้นก็จะเดินหน้ามาทับอาทิตย์

โดยดาวพฤหัสบดีกับอาทิตย์ถือเป็นดาวคู่มิตรกันเมื่อมาทับกันก็ให้คุณ ซึ่งจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้ ความคิด ฉะนั้น วงการในดาวพฤหัสบดีจะดี เช่น วงการการศึกษา การแพทย์ การสาธารณสุข วงการกฎหมาย การท่องเที่ยว การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้ง เรื่องผลประโยชน์ของชาติจะดี การค้า และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ


ดาวพฤหัสบดี นอกจากอยู่ในราศีเมษแล้วยังทับลักขณาเมือง จึงถือว่าคุ้มชะตาเมือง คือ เมื่อมีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรงเกิดขึ้นดาวพระพฤหัสบดีก็จะช่วยคุ้มครอง โดยจะอยู่ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2555 จากนั้น ก็จะยกเข้าสู่ราศีพฤษภจนกระทั่งถึงปีพ.ศ.2556 แต่มีบางช่วงที่ดาวพระพฤหัสเดินถอยหลัง นั้นหมายถึงไม่ได้คุ้มชะตาเมือง โดยจะเดินถอยหลังตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555 ไปถึงสิ้นปี ฉะนั้น ในช่วงนี้หากเกิดปัญหาขึ้นค่อนข้างที่ควบคุมได้ลำบาก

ส่วนดาวที่ให้โทษ คือ ดาวพระเสาร์ โดยในปีพ.ศ. 2555 ดาวเสาร์จะโคจรย้ายจากราศีกันย์เข้าสู่ราศีตุลย์ ในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 แล้วโคจรในราศีตุลย์เดินหน้า ถอยหลังอยู่ถึงวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 จากนั้น ก็จะถอยหลังเข้าราศีกันย์อีกครั้งหนึ่ง แล้วจะอยู่ในราศีกันย์จนถึงวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555 จากนั้น จะโคจรเข้าราศีตุลย์อีกครั้ง
ตรงนี้มองได้เป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่พระเสาร์อยู่ในราศีตุลย์ นับว่า เป็นพระเสาร์ที่ได้มาตรฐาน เรียกว่า มหาอุตม์ แปลว่า สูงส่ง แสดงว่า ดาวเสาร์ให้อิทธิพลมาก ซึ่งพระเสาร์ คือ เจ้าเรือนภพที่ 10 ของดวงเมือง คือ คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารราชการแผ่นดิน นายกรัฐมนตรี นอกจากนั้น พระเสาร์ อาจจะหมายถึงเรื่องแรงงานก็เป็นได้

แต่เมื่อดาวเสาร์อยู่ในตำแหน่งราศีกันย์ ถือว่า เป็นพิทุบาทว์ โดย พิทุ แปลว่า จุด ส่วนคำว่า บาทว์ แปลว่า อุบาทว์ นั้นหมายความว่า เกิดจุดเสีย จุดช้ำอาจมองได้ว่า รัฐบาลเข้มแข็งเกินไป แรงเกินไป ทำให้เกิดปัญหา เกิดจุดแตก จุดเสียเกิดขึ้นอีกทั้งดาวเสาร์ยังเล็งกับดาวพระอาทิตย์ ซึ่งหมายถึงผู้นำ เรียกว่า มหาอุตม์เล็งกัน ด้านหนึ่งแรง อีกด้านก็แรง ทำให้เกิดจุดช้ำ จุดแตก เกิดขึ้น นั้นหมายถึงจะมีปัญหาในเรื่องของผู้นำ ในเรื่องของความศรัทธา ความเชื่อถือ คะแนนนิยมของผู้นำบางคนอาจจะเสื่อมถอยลง แล้วนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

ดาวเสาร์ยังเล็งกับดาวพฤหัสบดี โดยพระเสาร์เป็นประธานฝ่ายบาปเคราะห์ที่รุนแรงมักจะให้โทษมากกว่าคุณ ส่วนดาวพฤหัสบดีเป็นประธานฝ่ายศุกร์เคราะห์ เป็นดาวฝ่ายประธานที่ดี เมื่อมาเล็งกัน ก็จะดัน ดึงกัน ระหว่าง 2 ฝ่าย เรียกว่า จะเกิดความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยขึ้น ซึ่งดาวพระพฤหัสบดี เป็นเรื่องของกฎหมาย โดยกฎหมายรัฐธรรมนูญจะเกิดปัญหา มีการร่างกฎหมาย มีการยกเลิกกฎหมาย ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาขึ้น นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง

“เป็นการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย จากยุคหนึ่งมาสู่ยุคหนึ่ง เช่น จากเดิมใช้รัฐธรรมนูญฉบับหนึ่งก็จะเปลี่ยนมาใช้ฉบับใหม่ หรือ มีการเปลี่ยนในเรื่องของผู้มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่องของระเบียบ วิธีปฏิบัติต่างๆ กติกาสังคมจะถูกเปลี่ยนแปลง เป็นการปฏิรูปจากรูปแบบหนึ่งไปสู่อีกแบบหนึ่งเรียกว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือ ในช่วง เมษายน- พฤษภาคม พ.ศ.2555”

เมื่อดาวเสาร์เล็งกับดาวพฤหัสบดี ในคัมภีร์อสีติธาตุ กล่าวไว้ว่า โลกจะเกิดโกลาหล ซึ่งนอกจากสังคมจะโกลาหลแล้วจะหมายถึงเรื่องของแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องแผ่นดินไหว รวมทั้ง เรื่องการสมรสจะมีความเปลี่ยนแปลง คนในชาติจะจดทะเบียนสมรสกันน้อยลง มีการหย่าร้างกันมากขึ้น หรืออาจเกิดปัญหาในครอบครัวมากขึ้น มีการแตกแยกในครอบครัว

มาที่ดาวที่น่าจับตามอง คือ ดาวอังคาร โดยจะโคจรวิปริตคืออยู่ในราศีสิงห์เป็นเวลานาน โดยโคจรเข้ามาอยู่ในราศีสิงห์ตั้งแต่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2554 แล้วก็เดินหน้า ถอยหลัง อยู่ในราศีสิงห์ถึงวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2555 โดยจะเริ่มโคจรถอยหลังตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2555 เข้ามาอยู่ในราศีสิงห์ นาน 8 เดือน ในตำราพระอภิธรรมอรรถสาลินีกล่าวไว้ว่า “ ....อังคารพักร์มีศึกต่างเมืองมา อังคารเสริดนั้นว่าจะเกิดยุคเข็ญ ความทุกข์ยากในมนุษย์สิ้นทั้งหลาย พระเสาร์และพระอังคารท่านภิปราย พักร์ในราศีร้ายจำเพาะมี คือ พฤษภ สิงห์ มีน ธนู พักร์ว่าร้ายนักทำนายไว้สี่ราศี จะเกิดความเสียหายวายชีวี พระธรณีดูดกินซึ่งเลือดคน ...อังคารพักร์ในเมษราศี ธนู สิงห์ สามนี้ร้ายหนักหนา เป็นนิมิตแก่แผ่นพสุธา จะแยกเป็นสองว่าอัศจรรย์ อีกจะเกิดลมพายุวิปริต จะเกิดไข้ทรพิษเป็นมหันต์ มหาชนจะพินาศลงดาษครัน อังคารนั้นมนต์อยู่เกิดไข้ตาย...”

ภิญโญ อธิบายให้ฟังว่า จะมีเรื่องไม่ดี 4 เรื่อง เรื่องแรก คือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศที่รุนแรง หากแก้ไขไม่ได้จะพัฒนาเป็นสงครามได้ เรื่องต่อมาโรคภัยไข้เจ็บ จะเกิดโรคระบาดขึ้น โดยมากับอากาศและน้ำที่รุนแรง เรื่องที่ 3 ความเสียหาย นอกจากจะเกิดกับทรัพย์สิน แผ่นดินแล้ว คนจะเสียชีวิตมากขึ้นจากอุบัติภัยที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ หรือความขัดแย้งที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ รวมทั้ง ที่มนุษย์ทำร้ายธรรมชาติ เพราะมนุษย์ปฏิบัติตนไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ ขัดขวางธรรมชาติ ทำร้ายธรรมชาติ

สุดท้าย การแตกแยก อาจจมองได้ในเรื่องของดินแดน ไม่ว่าจะเป็นทางภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคเหนือ ต้องระวัง อีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ ความแตกแยกของคนในชาติ เพราะเรื่องทำนองนี้อาจเกิดขึ้นอีกได้ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เช่น กลุ่มของสถาบันต่างๆ กลุ่มคณะรัฐมนตรี กลุ่มการเมือง แต่เป็นไปในลักษณะของความขัดแย้งที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งค่อนข้างรุนแรง

นอกจากนี้ เมื่อดาวอังคารโคจรออกจากราศีสิงห์แล้วจะโคจรมาไล่ทันกับดาวเสาร์ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2555 ในช่วงนี้จะต้องระวังอุบัติเหตุให้มาก หลังจากนั้น อังคารจะเข้าราศีตุลย์ ซึ่งเป็นราศีธาตุลม ในช่วงนี้จะต้องระวังเรื่องลม อาจเกิดลมพายุวิปริตหลายลูก แต่ห้วงเวลาที่ต้องระวังให้มากที่สุด คือ ช่วงวันที่ 25 กันยายน – 8 พฤศจิกายน 2555 เพราะดาวอังคารจะโคจรสวนกับราหู หรือดาวเสาร์ตรงราศีพิจิก ซึ่งราศีพิจิกเป็นราศีธาตุน้ำ ส่วนอังคารกับราหู เป็นพระเคราะห์คู่ธาตุลม ฉะนั้น อุบัติภัยที่รุนแรงน่าจะเป็นช่วงเวลานี้ ต้องระวังวาตภัย อุทกภัย รวมทั้ง เรื่องอัคคีภัย และแผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด แผ่นดินถล่มด้วยอาจเกิดขึ้นได้ ทั้งหมดนี้เกิดจากลีลาของดาวอังคารในปี พ.ศ.2555
ในปี พ.ศ.2555 จะการเกิดอุปราคาทั้งหมด 4 ครั้ง โดยจะเกิดตรงราศีพฤษภ 2 ครั้ง เกิดในราศีพิจิก 1 ครั้ง และเกิดในราศีตุลย์ 1 ครั้ง การเกิดในราศีพฤษภ ซึ่งเป็นธาตุดิน ทางโหราศาสตร์ เรียกนี้ว่า เป็นราชาแห่งแผ่นดินไหว โดยจะเกิดแผ่นดินไหวมากขึ้นกว่าปกติในโลก และอาจจะเล็งมาที่ราศีธาตุน้ำ และธาตุลมด้วย

ฉะนั้น ในปีหน้าเรื่องอุบัติภัยจะมีหลายด้าน มีทั้ง ไฟ ดิน ลม และน้ำ โดยจะเกิดเป็นช่วงๆ ถ้าเป็นเรื่องแผ่นดินไหวต้องระวังในช่วงเดือน พฤษภาคม – มิถุนายน และเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2555 แต่ถ้าเป็นเรื่องไฟ ให้ระวังช่วงเดือนเมษายน และช่วงสิงหาคม- กันยายน พ.ศ.2555 ส่วนเรื่อง ลมกับน้ำ ให้ระวังช่วงกันยายน- พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ยังมี อีกดาวพระเคราะห์หนึ่งที่สำคัญ คือ ดาวศุกร์ เมื่อดวงเมืองอายุย่างเข้าปีที่ 231 ดาวพระเสาร์จะโคจรอยู่ต้นราศีตุลย์ปลายราศีกันย์ซึ่งจะเล็งพระศุกร์ในดวงเมือง ซึ่งดาวพระศุกร์กับดาวพระเสาร์เป็นดาวคู่ศัตรูกัน จึงต้องดูแลเรื่องการเงิน การคลังของประเทศให้ดีอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ โดยดาวเสาร์เป็นดาวมหาชน อาจมองได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องรอบคอบมากกว่าปกติ หยุดการฟุ้งเพ้อหันมาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่หลงระเริงในแสง สี เสียง จนเกินไป ถ้าอยู่แบบที่เคยอยู่มาได้ก็จะอยู่ต่อไปได้อย่าไปฟุ้งเพ้อจนเกินตัว
เสาร์เล็งศุกร์ มองได้อีกว่า ความสุขของคนจะน้อยลง ฉะนั้น ทางออกในการสร้างความสุขให้เพิ่มขึ้น คือ การหันไปหาสุขทางใจมากกว่าความสุขทางกายให้มากขึ้น จะต้องเน้นในเรื่องนามธรรม จิตใจ อารมณ์ มากกว่ารูปธรรม ทรัพย์สิน เงินทอง เพราะถึงแม้ด้านรูปธรรม ทางด้านเศรษฐกิจอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นบ้าง แต่ถ้านามธรรม คือ จิตใจ อารมณ์ของยังดี ก็จะทำให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป

“เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ผู้คนในชาติจะหันมาสนใจในเรื่องของจิตใจ หลักธรรมของชีวิตกันมากขึ้น ด้วยการใช้ชีวิตอย่างสันโดษ รู้จักพอ ไม่ฟุ้งเฟ้อจนเกินไป และหันเข้าหาการบำเพ็ญจิตใจให้มีสมาธิ มีสติสัมปชัญญะ มีจิตใจที่มั่นคง คิด ทำแต่สิ่งที่ดีงาม เพราะคนที่ศึกษา รู้จักฝึกจิตใจก็จะรู้จักหักห้ามจิตใจไม่กระทำในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ไปตามอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง ซึ่งจะทำให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข

ปีหน้านี้ คงต้องหันมาสำรวจตัวเองและทำความเข้าใจว่า สถานภาพความเป็นอยู่ของเราเป็นอย่างไร มีรายได้เท่าไร ต้องใช้จ่ายอย่างไรถึงจะอยู่ได้ พอใช้ ต้องดำเนินชีวิตอย่างไรถึงจะไม่เดือดร้อน โดยไม่เอาเปรียบ เบียดเบียนผู้อื่นให้เกิดบาป เกิดกรรมกับตนเอง แล้วปีหน้าจะเป็นปีที่ทุกคนผ่านพ้นไปได้อย่างไม่เดือดร้อน” ภิญโญ กล่าวทิ้งท้าย

ฤกษ์มงคลสมรส

มกราคม 9 10 12 14 21 31

กุมภาพันธ์ 3 6 13

มีนาคม 5 16 19 22 28 31

เมษายน 3 11 27

พฤษภาคม 5 9 18 19 31

มิถุนายน 2 9 12 29

กรกฎาคม 7 12 28 31

สิงหาคม 2 4 7 9 10 11 31

กันยายน 5 6 8 20 22 28

ตุลาคม 2 4 9 12 23 25

พฤศจิกายน 2 29

ธันวาคม 6 18

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่

มกราคม 4 9 17 21

กุมภาพันธ์ 3 6 13

มีนาคม 3 5 12 19 31

เมษายน 3 11 24 27

พฤษภาคม 5 9 19 31

มิถุนายน 2 9 12 22 27 29

กรกฎาคม 4 6 7 12 13 17 28 31

สิงหาคม 2 4 7 9 10 11 14 16 21 31

กันยายน 5 6 8 12 19 21 28

ตุลาคม 2 4 9 12 23 25

พฤศจิกายน 2 21 27 29

ธันวาคม 6 12 18

ฤกษ์ออกรถใหม่

มกราคม 4 6 17 27

กุมภาพันธ์ 2 18 24

มีนาคม 3 5 9 23 30

เมษายน 4 6 19

พฤษภาคม 3 8 18 26

มิถุนายน 12 16 22

กรกฎาคม 13 28 31

สิงหาคม 4 10 11 16 21 31

กันยายน 8 12 14 21 28

ตุลาคม 6 9 12 18

พฤศจิกายน 2 9 21 30

ธันวาคม 6 7 12 15

ทีมวาไรตี้
@เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น: