สถานการณ์ในอ่าวเปอร์เซีย เริ่มร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่า ต้องสั่นคลอนเสถียรภาพของโลกอย่างปฏิเสธไม่ได้ เมื่ออิหร่านของประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด เล่นบท “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” พร้อมเปิดหน้าสู้เต็มตัว ยอมรับเร่งเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในโรงงานนิวเคลียร์แห่งใหม่ ที่ไปซุ่มสร้างไว้ใต้ดินในภูเขา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเตหะราน เพื่อป้องกันความเป็นไปได้จากการโจมตีทางอากาศของศัตรู ทำให้กิจกรรมนิวเคลียร์ของอิหร่านไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไปแล้วทั่วโลก โดยเฉพาะชาติตะวันตกเลิกสงสัยเสียที เพราะมันเป็นความจริงอย่างไม่มีอะไรเคลือบแคลง และนับจากนี้ไปอีก 1 ปี มีความเป็นไปได้ว่า อิหร่านอาจผงาดขึ้นมาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์อีกประเทศหนึ่งก็ได้
เรื่องการเดินเครื่องเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่โรงงานแห่งใหม่ในโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ที่อ้างหนักแน่นว่า มีจุดประสงค์เพื่อสันติ กลายเป็นเรื่องขึ้นมาก็เพราะการเปิดเผยของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ หน่วยงานตรวจสอบนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทาย และไม่ยี่หระต่อมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐ ทั้งยังพิสูจน์ให้เห็นด้วยว่า มาตรการคว่ำบาตรไม่ได้ไปสะเทือนโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเลย อิหร่านยังเดินหน้าต่อไปได้ ซ้ำยังมีความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย
การประกาศของไอเออีเอ ถูกสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี หยิบยกขึ้นมาโจมตีอิหร่านว่า ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างที่ไม่สามารถยอมรับได้ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า เหตุผลการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่โรงงานแห่งใหม่ของอิหร่าน ฟังไม่ขึ้น และเรียกร้องอีกครั้งให้อิหร่านยุติงานดังกล่าวทั้งหมด ขณะที่จีน ซึ่งปฏิเสธใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านก็เตือนว่าจะเกิดหายนะ หากข้อพิพาทเรื่องนิวเคลียร์อิหร่านบานปลายกลายเป็นความขัดแย้ง ส่วนรัสเซีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอิหร่าน ก็แสดงความกังวลกับโรงงานนิวเคลียร์แห่งใหม่
อิหร่านบอกว่า ขณะนี้สามารถเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมความบริสุทธิ์ที่ร้อยละ 20 ที่โรงงานแห่งใหม่ที่ชื่อ ฟอร์โด ใกล้เมืองคอม เพื่อจัดหาเชื้อเพลิงให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ด้านการวิจัยในกรุงเตหะราน ที่อ้างว่าเพื่อผลิตไอโซโทปทางการแพทย์ สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง
สถานการณ์ดังกล่าว นักวิเคราะห์บอกว่า ไปกระตุกต่อมกลัวของชาติตะวันตก แต่นักวิเคราะห์ก็บอกด้วยว่า อิหร่านมีแร่ยูเรเนียมมากเกินกว่าจุดประสงค์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และมีที่สะสมไว้ใช้งานได้นานถึง 5 ปีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ข้อสงสัยก็คือว่า อิหร่านมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่ในใจสำหรับการผลิตแร่ยูเรเนียม ซึ่งเป็นแร่ที่ใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ และหากอิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองก็จะเป็นสัญญาณเตือนภัยไม่เพียงแต่ต่อชาติตะวันตกเท่านั้น แต่ยังมีอิสราเอลและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคด้วย
แน่นอนว่า ขณะนี้อิหร่านมีสำรองแร่ยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะที่ระดับความบริสุทธิ์ร้อยละ 3.5 ค่อนข้างมาก แต่อิหร่านก็สามารถที่จะเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่ระดับความบริสุทธิ์ได้ถึงร้อยละ 20 ซึ่งจะทำให้ขยับเข้าใกล้ความบริสุทธิ์ที่ร้อยละ 90 ระดับที่ต้องการในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทูตอิหร่านประจำไอเออีเอ นายอาลี อัสการ์ กล่าวว่า ไอเออีเอติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง และคณะผู้ตรวจสอบอาวุธก็เดินทางไปตรวจสอบอยู่เป็นประจำ แต่สิ่งที่หวาดหวั่นกันก็คือ หากอิหร่านตัดสินใจเนรเทศคณะตรวจสอบอาวุธของไอเออีเอออกนอกประเทศ เช่นเดียวกับที่เกาหลีเหนือเคยทำ อะไรจะเกิดขึ้น อิหร่านก็จะสามารถเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเพื่อให้ได้ความบริสุทธิ์ในระดับที่จะผลิตนิวเคลียร์ได้โดยใช้โรงงานผลิตแร่ยูเรเนียมแห่งใหม่เพียงชั่วระยะเวลาอันสั้น
แร่ยูเรเนียมที่มีการเสริมสมรรถนะแล้ว เป็น 1 ใน 3 สิ่งสำคัญที่จำเป็นต่อการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านจะต้องผลิตแร่ยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะแล้ว เพื่อให้พร้อมสำหรับการผลิตอาวุธเพื่อใช้ติดหัวรับ และผลิตขีปนาวุธเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้รายงานของไอเออีเอ ที่เผยแพร่
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว แสดง “ความวิตกกังวลอย่างยิ่ง” ว่า อิหร่านกำลังดำเนินการวิจัยนิวเคลียร์กระจายในหลายพื้นที่ และโรงงานฟอร์โดใต้ดิน ที่ยากต่อการทำลายแห่งนี้ เป็นโรงงานลับ ซึ่งถูกกำหนดขึ้นจากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก เพื่อใช้ผลิตแร่ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะระดับสูง หรือเอชอียู
ก่อนหน้านี้ อิสราเอล ซึ่งเคยเตือนอิหร่านไปแล้วว่า อาจใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน มีความวิตกกังวลอย่างมาก อิสราเอลกำลังให้ความสนใจดินแดนที่อันตรายแห่งนี้ แม้ว่าโลกได้รับรู้เกี่ยวกับโรงงานฟอร์โดก่อน แต่การเริ่มดำเนินการผลิตแร่ยูเรเนียมที่โรงงานแห่งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียดสูง ท่ามกลางชาติตะวันตกที่เดินหน้าใช้มาตรการคว่ำบาตรรุนแรงยิ่งขึ้นต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านก็ออกมาขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญในอ่าวเปอร์เซีย ส่วนสหรัฐได้ฟังคำขู่ดังกล่าว ถึงกับควันออกหู ตอบโต้ว่า หัวเด็ดตีนขาดจะไม่มีวันปล่อยให้อิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซเด็ดขาด
อิสราเอลประกาศขัดขวางอิหร่านไม่ให้มีนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองตลอดมา ไม่เว้นแม้กระทั่งการใช้กำลังทหารโจมตี เลยทำให้อิหร่านเชื่อว่า อิสราเอลและสหรัฐสุมหัวกันเพื่อหาวิธีหยุดยั้งโครงการนิวเคลียร์ของตน รวมทั้งแผนการกำจัดนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ที่ถูกสังหารไปแล้วหลายคนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเมื่อไม่กี่วันนี้เอง นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านอีกคนหนึ่ง คือนายมอสตาฟา อาห์มาดี โรซาน รองผู้อำนวยการโรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ซึ่งทำงานที่โรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมนาทันซ์ ก็ถูกโจมตีด้วยระเบิดแม่เหล็ก เสียชีวิตพร้อมกับคนขับรถ ซึ่งอิหร่านก็ยังคงปักใจเชื่อว่า เป็นฝีมือของอิสราเอลและสหรัฐ
มหาอำนาจตะวันตก ก็ได้แต่หวังว่า รัสเซีย และจีน จะเกลี้ยกล่อมอิหร่านไม่ให้เดินหน้าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม และหันหน้าเจรจากับไอเออีเอ
การเผชิญหน้าของอิหร่านกับชาติตะวันตกนำไปสู่คำเตือนว่า กรณีพิพาทครั้งนี้ กำลังดำดิ่งเข้าสู่พื้นที่อันตราย นานาชาติต่างเตือนกรณีโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมแห่งใหม่ของอิหร่านว่า เป็นการเพิ่มความเสี่ยง ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงที่เจือด้วยกลิ่นอายของสงคราม.
สันติ สร้างนอก @เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น