หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แสงแดด.น้ำมัน.ทุ่งทะเลทรายใน“กาตาร์”

โดย : กาญจนา หงษ์ทอง

เป็นอีกครั้งที่บอกตัวเองว่า เรื่องเที่ยวเราไม่ควรผลัดวันประกันพรุ่งอย่างเด็ดขาด แล้วทำไมกับปลายทางอย่าง "กาตาร์" ถึงได้อิดอ้อน พิรี้พิไรอยู่ร่ำไป ทั้งที่เมื่อนั่งไร่เรียงดูแล้ว กาตาร์เป็นประเทศในตะวันออกกลางที่ฉันโฉบไปโฉบมาทุกปี เรียกว่าบ่อยที่สุดในอาหรับเลยก็คงไม่ผิด


แต่ที่ผ่านมากลับใช้กาตาร์เป็นแค่ทางผ่าน เพื่อไปหายุโรปบ้าง อเมริกาใต้บ้าง ผัดผ่อนกับกาตาร์มาตลอด ฤกษ์งามยามงงเลยทุบโต๊ะ ประกาศลั่นว่าจะไม่ปล่อยให้กาตาร์เป็นสะพานทอดยาวมุมอื่นของโลกอีกต่อไป


เพราะถึงยังไงในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าตะวันออกกลางเป็นดาวเด่น ที่ไม่ว่าใครอยู่มุมไหนของโลก เป็นต้องเหลียวหันมามองกันทั้งนั้น เพราะเขาเล่นแข่งกันสนั่นลั่นทุ่ง แข่งกันโต แข่งกันพัฒนา แข่งกันเพื่อครองความเป็นสุดยอดในดินแดนอาหรับ

ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่นาทีนี้ตะวันออกกลางจะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่หอมหวานเสมอในสายตานักท่องโลก ไม่ว่าจะเป็นดูไบ อาบูดาบี บาห์เรน หรือมัสกัต ตอนนี้เลยเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยเท้าของนักเดินทาง
ที่จริงอาการหลงใหลได้ปลื้มนครมัสกัตแห่งประเทศโอมานยังไม่ทันสลายตัว ความพร้อมและความอยากในการทำความรู้จักกับกาตาร์ก็ดูเหมือนบรรจบกันพอดี

แน่นอนว่าไปกาตาร์ก็ต้องใช้บริการสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ (0-2259-2701-3) สายการบินห้าดาวที่ทั้งบริการดี ที่นั่งกว้างขวาง สะดวกสบายแถมมีจอทีวีส่วนตัวที่หาความบันเทิงได้อย่างหลากหลาย นั่งดูหนังเพลินๆ แค่ 6 ชั่วโมงกว่าก็ถึงโดฮาแล้ว

สำหรับคนไทยที่จะไปเที่ยวกาตาร์ต้องมีวีซ่าด้วย จะทำที่สถานทูตไทยในกรุงเทพฯ ก็ได้ หรือจะใช้วิธีจองที่พักกับโรงแรมในกาตาร์แล้วให้เขาจัดการวีซ่าก็ได้

เที่ยวนี้เราไปพักกันที่ โรงแรมชาร์ค วิลเลจ(www.sharqvillage.com) โรงแรมริมอ่าวโดฮาที่นอกจากจะตกแต่งอย่างสวยงามในสไตล์อาหรับแล้ว ยังมีความสะดวก สบายคอยปรนเปรอแขกเหรื่อที่มาพักอีกด้วย ข้อสำคัญอยู่ห่างจากสนามบินแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง

กาตาร์จัดว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งในแถบอ่าวเปอร์เซียที่ร่ำรวยน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ โดยเฉพาะแก๊สธรรมชาติถือว่ามีเยอะขนาดเป็นท็อปทรีของโลกรองจากรัสเซียและอิหร่านเลยก็ว่าได้ ซึ่งความมั่งคั่งของกาตาร์ก็สะท้อนได้จากตัวเลขรายได้ของประชากรต่อหัว ถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มอาหรับ

สมัยก่อนกาตาร์ก็ไม่ต่างจากประเทศอื่น เขาก็หามุก หาปลา ทำอาชีพประมงกันซะเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อ 70 กว่าปีที่ผ่านมานี่เองที่เมื่อค้นพบบ่อน้ำมัน เขาใช้น้ำมันและแก๊สธรรมชาติมาเป็นตัวขับเคลื่อนเร่งรัดพัฒนาประเทศไม่ต่างจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ บาห์เรนและชาติอื่นๆในแถบตะวันออกกลาง

ในระหว่างที่พัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ กาตาร์เองก็ไม่ลืมให้ความสำคัญกับด้านท่องเที่ยวด้วย เรียกว่า การท่องเที่ยวกาตาร์ (www.qatartourism.gov.qa) เขาจัดระบบการท่องเที่ยวและมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ดีมาก
ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา กาตาร์จึงเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ถ้าอยู่บริเวณใจกลางเมืองโดฮา เราก็จะเห็นหมู่ตึกระฟ้าตั้งเรียงรายอัดแน่นอยู่ริมอ่าวอาระเบียน

สำหรับคนไทยอาจจะคุ้นหูกับชื่อของกาตาร์เมื่อตอนปี 2006 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ ทั้งที่จริงมีคนไทยหลายพันคนทำงานอยู่ที่นั่น ที่รู้จักประเทศกาตาร์เป็นอย่างดีและเดินทางมาทำงานที่นี่กันนานแล้ว เพราะกาตาร์จัดว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นจุดหมายสำหรับแรงงานต่างชาติ

เวลาเราเดินเหินอยู่ในกาตาร์จะสังเกตว่าเจอแต่คนต่างชาติ ที่เห็นเยอะหน่อยก็มีที่มาจากอินเดีย ปากีสถาน และฟิลิปปินส์ ไม่ใช่เฉพาะเอเชียเท่านั้น แม้แต่ฝรั่งจากฝั่งตะวันตกเดี๋ยวนี้ก็นิยมเข้ามาทำงานในแถบตะวันออกกลางและกาตาร์กันเยอะ เรียกว่า ถ้าเป็นงานบริการเราจะไม่เห็นคนกาตาร์มาทำงานพวกนี้เลย มีแต่ต่างชาติทั้งนั้น ตอนนี้กาตาร์เลยกลายเป็น แหล่งนัดพบของชาวต่างชาติ ไปเลย มีทั้งที่เข้ามาทำงานและเข้ามาท่องเที่ยว แต่ถ้าคำนวนจำนวนพื้นที่และจำนวนประชากร ก็ต้องบอกว่า เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เขาอยู่กันหลวมๆ

สมัยก่อนกาตาร์เป็นแค่ทางผ่านของนักเดินทางที่มีไว้แค่เปลี่ยนเครื่อง แต่ทุกวันนี้กาตาร์ถือว่าเป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่ใครๆ ก็อยากแวะ เพราะชื่อเสียงเรื่องแหล่งท่องเที่ยวของกาตาร์เองก็โด่งดังไม่ใช่น้อย อย่างน้อยก็ที่ พิพิธภัณธ์ศิลปะอิสลาม ที่มีของเก่าและศิลปวัตถุโบราณจากอิหร่าน อิรัก ตุรกี ซีเรีย อัฟกานิสถาน และอียิปต์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 จนถึงช่วงศตวรรษ 17 จำนวนมาก เรียกว่าถ้ามีใจให้พวกของโบราณเก่าเก็บเป็นทุนเดิม เชื่อเถอะว่าคุณจะขลุกอยู่ที่นี่ได้เป็นวัน

และที่ขาดซะไม่ได้ของเมืองอาหรับก็เป็น ซุค หรือ ตลาด โดฮาเองก็มี วาคิบ ซุค เหมือนกัน ซึ่งต้องบอกว่าตั้งแต่ต้นทางวาคิบ ซุคก็ทำให้ตื่นตาตื่นใจเหลือเกิน มีคาเฟ่เก๋ๆ แบบอาหรับมาต้อนรับขับสู้กันตั้งแต่ปากทางเข้าตลาด บรรดาข้าวของที่วางขายก็น่าซื้อซะไม่มี

เคยประทับใจกับมัทรา ซุคในนครมัสกัต และโอลด์ ซุคในดูไบมาแล้ว พอมาเจอวาคิบ ซุคก็เกิดนึกชอบขึ้นมาอีกแล้ว จะว่าไป นี่จัดว่าเป็นตลาดอาหรับที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้

แต่เรามาถึงประเทศที่มีแต่เม็ดทรายอยู่รอบตัวทั้งที จะไม่ออกไปตะลุยทุ่งแล้งและทะเลทรายก็ดูจะเสียเที่ยว นี่จัดว่าเป็นทัวร์อีกประเภทหนึ่งที่ขายดิบขายดีของโดฮา แต่ละวันจะมีรถโฟร์วีลส์พานักท่องเที่ยวออกมาตะลุยทะเลทรายกันไม่รู้เท่าไหร่ บางคณะก็มาเป็นคาราวาน พวกนี้บางทีก็แค้มปิ้งและค้างคืนกันในทะเลทรายเลย

ที่จริงกิจกรรมในทะเลทรายมีหลากหลายรูปแบบ บางพวกก็ยืนหรือนั่งแล้วสไลด์ลงมาจากเนินทรายสูงๆ หรือไม่ก็ขับพวกรถเอทีวีซิ่งไปตามทุ่งแล้งและเนินทราย แต่ถ้าไม่ชอบโลดโผนจะขี่อูฐค่อยๆ ดื่มด่ำบรรยากาศร้อนแล้งของทะเลทรายไปก็ได้ อีกพวกก็เป็นพวกซิ่งรถบนชายหาดที่อยู่ติดทะเลทรายเลย ซึ่งมองไปอีกฟากหนึ่งก็จะเห็นประเทศซาอุดิอาระเบียที่อยู่ไม่ไกลกัน

ไม่น่าเชื่อว่ากาตาร์มีทั้งวัฒนธรรมและธรรมชาติเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสกันอย่างจุใจ แต่ลางสังหรณ์บอกว่า นี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะได้ชิมแดดอันเผ็ดร้อนของกาตาร์อย่างแน่นอน





ไม่มีความคิดเห็น: