มะกันโชว์ออฟคลิปภาพ 'บิน ลาเดน' นั่งกดรีโมตเพื่อเช็กภาพในจอสำหรับการบันทึกด้วยกล้องวิดีโอ ดูแลภาพลักษณ์ตัวเอง เพื่อนำออกเผยแพร่ในการโฆษณาชวนเชื่อให้กับสาวกกลุ่มก่อการร้าย แต่โดนดูดเสียงเกรงส่งข่าวให้พวกเดียวกัน เผยยังไม่แน่ใจเช่นกันว่า เบอร์สองหมอศัลยฯจะขึ้นครองอำนาจต่อหรือไม่ ด้านปากีสถานชาวบ้านชักไม่ปลื้มกองทัพไร้น้ำยา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ว่า ภาพจากกล้องวิดีโอใหม่ล่าสุดที่นำออกเผยแพร่เป็นภาพของนายโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย “อัล-กออิดะห์” ซึ่งบันทึกไว้จากบ้านพักในเมืองอับบอตตาบัต ประเทศปากีสถาน สถานที่หลบซ่อนตัวของเขา จนในที่สุดก็ถูกสหรัฐอเมริกาส่งหน่วยรบพิเศษ หน่วยซีล เข้าไปปฏิบัติการจับตายเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
ภาพจากวิดีโอดังกล่าวนั้นหน่วยข่าวกรองของสหรัฐนำออกเผยแพร่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าหน่วยซีลได้สังหารหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายที่สหรัฐต้องการตัวมากที่สุดในโลกไว้ได้แล้ว และเป็นส่วนหนึ่งของพยานหลักฐานที่สหรัฐยึดมาได้จากบ้านพักของนายบิน ลาเดน ซึ่งมีทั้งข้อมูลไฟล์ดิจิทัล ไฟล์เสียง ไฟล์ภาพวิดีโอ เอกสารสิ่งพิมพ์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์บันทึกภาพวิดีโอ และเอกสารเขียนด้วยลายมือ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐระบุด้วยว่า เป็นการยึดเอกสารจากบุคคลระดับอาวุโสได้มากที่สุดเท่าที่เคยทำมาของกลุ่มก่อการร้าย และอาจเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของงานด้านข่าวกรองด้วยก็ได้
หนึ่งในภาพวิดีโอ 5 ชุดที่นำออกเผยแพร่นี้ชุดหนึ่งที่มีลักษณะพิเศษกว่าภาพอื่น คือ นายบิน ลาเดน นั่งถือรีโมตคอนโทรลอยู่หน้าโทรทัศน์ ใช้ผ้าห่มคลุมตัวเพื่อดูตัวเองในภาพจากจอโทรทัศน์ ซึ่งบันทึกไว้ด้วยกล้องวิดีโอจากห้องพักโล่ง ๆ ห้องหนึ่ง เชื่อว่าเป็นการบันทึกวิดีโอไว้เพื่อนำออกเผยแพร่สำหรับการโฆษณาชวนเชื่อให้กับกลุ่มก่อการร้ายของเขา สังเกตที่เคราของเขานั้นมีการย้อมให้เป็นสีดำ อย่างไรก็ตามเสียงจากภาพวิดีโอดังกล่าวถูกตัดออกไป เพราะเกรงว่าจะเป็นการส่งสารไปถึงพวกก่อการร้ายด้วยกัน
ภาพจากวิดีโอชุดหนึ่งจัดทำออกมาในรูปแบบของ “สารถึงประชาชนอเมริกัน” สันนิษฐานว่าบันทึกไว้เมื่อเดือน ต.ค. หรือไม่ก็ พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะนายบิน ลาเดน แต่งกายเรียบร้อย และฝึกพูดตามบทที่เขียนไว้ ส่วนอีก 3 ชุดที่เหลือเป็นการฝึกซ้อมตามบทพูด เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐ ระบุว่า ภาพจากวิดีโอเหล่านี้แสดงถึงการบอกบทที่ขาดหายไป และปัญหาเรื่องแสง นอกจากนั้นตัวหัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย อัล-กออิดะห์ยังสนใจภาพลักษณ์ของตนเอง จึงต้องพยายามดูแลในเรื่องนี้
ดังนั้นจึงเป็นคำถามเปิดกว้างว่า ต่อไปใครจะขึ้นมาทำหน้าที่แทนนายบิน ลาเดน ซึ่งตามที่คาดหมายกันนั้นน่าจะเป็นนายอัยแมน อัล-ซาวาฮิรี ศัลยแพทย์ชาวอียิปต์ ซึ่งทำหน้าที่ผู้นำหมายเลข 2 มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม กลุ่มอัล-กออิดะห์ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับแล้วว่า นายบิน ลาเดน เสียชีวิตไปแล้วจริง แต่ยังไม่ประกาศชื่อหัวหน้าคนใหม่ เพราะคาดว่ายังต้องจัดการกับเรื่องการเสียชีวิตของนายบิน ลาเดนก่อน
รายงานข่าวระบุว่า มีสัญญาณบ่งบอกว่า นายซาวาฮิรีผู้นี้ไม่เป็นที่นิยมมากนักในกลุ่มคนวงในของกลุ่มอัล-กออิดะห์ ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าเป็นคำถามเปิดกว้างว่าใครจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าคนใหม่ โดยนายซาวาฮิรีผู้นี้ก็เหมือนกับนายบิน ลาเดน คือ หลบซ่อนตัวมาโดยตลอดนับตั้งแต่สหรัฐถูกโจมตีในเหตุวินาศกรรม เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ที่นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 หรือที่เรียกกันว่าเหตุการณ์ 9/11 แหล่งข่าวระบุว่า มีผู้พบเห็นเขาครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน ต.ค. 2544 บริเวณภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน ซึ่งมีพรมแดนติดกับปากีสถาน แต่ก็เคยเผยแพร่วิดีโอจากที่หลบซ่อนตัวมาแล้วหลายครั้ง เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนการก่อการร้ายทำสงครามกับชาติตะวันตก
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญพิเศษของสำนักงานข่าวกรองแห่งรัฐบาลกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า นายบิน ลาเดน เสียชีวิตแล้วจริง หลังการตรวจดีเอ็นเอและหลักฐานอื่น ๆ ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบภาพศพ ได้ข้อสรุปออกมาอย่างแน่ใจ และหากผิดพลาดก็มีความเป็นไปได้แค่ 1 ใน 11.8 พันล้านล้านเท่านั้นที่จะตรวจสอบว่าผิด ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาว่า หน่วยซีลสามารถสังหารนายบิน ลาเดน ได้จริง
ส่วนที่ประเทศปากีสถานมีรายงานว่า ชาวบ้านได้ออกมาเรียกร้องเพิ่มขึ้นให้ผู้นำรัฐบาลระดับสูงลาออก หลังจากปล่อยให้หน่วยรบพิเศษของกองทัพสหรัฐเข้าไปบุกสังหารนายบิน ลาเดน ทำให้ประเทศชาติอับอายขายขี้หน้า เท่ากับเป็นการฉีกหน้ากองทัพปากีสถานว่า ไม่รู้เลยหรือว่า นายบิน ลาเดน ซ่อนตัวอยู่ที่เมืองอับบอตตาบัตนานถึง 6 ปี เพราะเป็นเมืองที่ตั้งค่ายทหาร ห่างจากเมืองหลวงกรุงอิสลามาบัด แค่ขับรถ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ขณะเดียวกันกระแสต่อต้านอเมริกันก็สูงขึ้นเช่นกัน เพราะแสดงให้เห็นว่ากองทัพไม่มีประสิทธิภาพที่จะยับยั้งการบุกของทหารอเมริกัน
กระทรวงการต่างประเทศของปากี สถาน แถลงว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลปากีสถานยังควบคุมตัวภรรยาและลูก ๆ ของนายบิน ลาเดน เอาไว้สอบปากคำต่อไป ซึ่งก็ยังไม่มีประเทศใดต้องการตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน แต่เจ้าหน้าที่ของปากีสถานไม่สามารถเปิดเผยสถานที่ควบคุมตัวภรรยาและลูก ๆ เพียงแต่เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะส่งตัวพวกเขาเหล่านี้กลับไปประเทศภูมิลำเนา
หนังสือพิมพ์อัชฮาร์ก อัล-เอาแซต ฉบับภาษาอารบิคที่มีสำนักงานอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า นางนาบิห์ อัล-กาห์เนม อายุประมาณ 70 ปี แม่ของนางนัจวา ภรรยาคนแรกของเขา เสียชีวิตเพราะอาการเส้นโลหิตในสมองตีบหลังทราบข่าวการเสียชีวิตของนายบิน ลาเดน เพราะหน่วยรบพิเศษของสหรัฐบุกเข้าไปสังหารที่ประเทศปากีสถาน แม้ว่าแม่ยายของนายบิน ลาเดน จะถูกนำส่งโรงพยาบาลทางเหนือของประเทศซีเรีย แต่แพทย์ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น