หน้าเว็บ

วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กู้ภัย 33 ชีวิตคนงานเหมืองชิลี

โลกร่วมลุ้นระทึก ภารกิจประวัติศาสตร์ 10 โมงตรงวันพุธ "แคปซูล" กู้ภัยนำคนงานชาวเหมืองชิลี 33 ชีวิตขึ้นสู่พื้นดินหลังถูกฝังอยู่ในโลกใต้ดินลึก 622 เมตร ขณะที่คนงานผู้เคราะห์ร้ายเลี่ยงขึ้นแคปซูลเป็นคนแรก ผวาประสบเหตุซ่ำรอย เผยทุกคนสวดมนต์ภาวนาให้ภารกิจประสบความสำเร็จ

ปฏิบัติการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยเทคโนโลยีที่ไม่เคยใช้ มาก่อนกำลังเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่คนทั้งโลกกำลังเฝ้ามอง พร้อมลุ้นระทึกในการช่วยเหลือคนงานเหมืองชิลีจำนวน 33 ชีวิตที่ต้องติดอยู่ในโลกใต้ดินลึกลงไปถึง 622 เมตรอย่างใจจ่ดใจจ่อด้วยความหวังที่จะให้ปฏิบัติการช่วยเหลือดังกล่าวสำเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี หลังจากคนงานเหล่านี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ผินผิวโลกนานเกือบ 70 วัน


ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพนักข่าวทั่วโลกกว่า 1,700 ชีวิตรวมตัวกันที่เหมืองซาน โฆเซ ทางเหนือของชิลี เพื่อรายงานข่าวและบันทึกภาพประวัติศาสตร์ของวินาทีการใช้แท่งแคปซูลเหล็ก เพื่อนำคนงานคนแรกที่รอดชีวิตจากเหมืองใต้ดินหลังจากติดอยู่ในอุโมงค์ลึก 622 เมตรนานเกือบ 70 วัน จากปฏิบัติการกู้ภัยของทางการชิลีที่ มีกำหนดเริ่มต้นในช่วงเที่ยงคืนของคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น (เวลา 10.00 น.วันพุธ ตามเวลาประเทศไทย) โดยประธานาธิบดีเซบาสเตียน พิเนรา ยังมีแผนจะที่ร่วมชมปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานเหมืองเหล่านี้ด้วย

ทั้งนี้ปฏิบัติการกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือชีวิตคนงานชาวเหมืองเป็นไปอย่าง ระมัดระวัง เจ้าหน้าที่จะค่อยๆ กว้านแคปซูลเหล็กบรรจุคนงานเหมืองออกจากใต้ดินทีละคน โดยใช้เวลาประมาณคนละ 15-20 นาทีที่จะนำผู้ประสบภัยขึ้นมาจากความลึกระดับดังกล่าวที่เทียบได้กับการนำหอ ไอเฟลสองหอมาวางซ้อนกันในแนวตั้ง โดยปฏิบัติการช่วยเหลือที่จะมีขึ้นประเมินว่าจะใช้เวลาราว 48 ชั่วโมงในการนำคนงานเหมืองทั้งหมดขึ้นสู่พื้นดิน ซึ่งคนงานจะต้องสวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดกระทบสายตาซึ่งอาจเป็น อันตรายต่อพวกเขาหลังจากที่ต้องอยู่ใต้ดินโดยไม่เห็นตะวันมาตลอดเวลา

นายแอนเดรส ซูการ์เรทท์ หัวหน้าวิศวกรผู้รับผิดชอบปฏิบัติการกู้ภัยยืนยันว่าปล่องช่วยเหลือผู้ประสบ ภัยจะไม่มีสิ่งกีดขวางแม้อาจเกิดหินหรือผนังถล่มในบางส่วน นอกจากนั้นเขาจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านเหมือง 2 คน และแพทย์นาวิกโยธิน 2 นาย ลงไปในเหมืองเพื่อประเมินสภาพและจัดลำดับการให้ความช่วยเหลือแก่คนงานเหมือง ทั้งหมด

เจ้าหน้าที่ได้จัดลำดับการนำคนงานขึ้นจากเหมืองใต้ดินเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะเป็นคนงานที่แข็งแรงที่สุด กลุ่มที่สองจะเป็นคนงานที่มีความดันโลหิตหรือปัญหาการหายใจ ขณะที่คนงานที่มีสุขภาพดีจะขึ้นมาจากเหมืองเป็นกลุ่มสุดท้าย อย่างไรก็ตามในเวลานี้คนงานเหมืองทั้ง 33 คน ต่างเลี่ยงที่จะเป็นคนแรกที่ได้รับความช่วยเหลือออกจากเหมืองลึก เพราะเกรงว่าจะประสบเหตุซ้ำรอยกับเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเองต้องติดอยู่ใต้ดิน ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม

นายอัลแบร์โต เซโกเวีย ผู้สนทนาผ่านวิดีโอ ลิงก์กับน้องชายที่ติดอยู่ในเหมืองคือนายดาริโอ เดซโกเวีย ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บอกว่า น้องชายกับเพื่อนๆ ต่างเริ่มกระวนกระวายใจ รอให้ถึงวันที่พวกเขาจะกลับขึ้นมา และต้องพากันสวดมนต์เพื่อคลายเครียด ขณะเดียวกัน ไม่มีใครต้องการเป็นคนแรก เพราะกลัวความสูงระดับ 700 เมตร ขณะที่ญาติของคนงานเหมืองอีกคนบอกว่า สิ่งที่ต้องประสบในช่วงที่ผ่านมาทำให้พวกเขาเครียด มีอารมณ์ผสมผสานที่ข้างล่างนั่น ทั้งทุกข์ระทมและเบิกบานใจ

อย่างไรก็ตามในบริเวณเหมืองซาน โฆเซ่ กลับมีบรรยากาศที่แตกต่างจากใต้ดินอย่างสิ้นเชิง เพราะบรรดาญาติคนงานเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินทั้ง 33 คน กลับมีความอิจฉาและขัดแย้งกันเอง เพราะไม่ได้รับโอกาสในการให้สัมภาษณ์กับสื่อที่มารอทำข่าว ขณะที่คนในครอบครัวของคนงานเหมืองกลับได้รับโอกาสในการพูดกับสื่อถึงเรื่อง ราวที่ได้พูดคุยกับหัวหน้าครอบครัวที่ติดอยู่ใต้ดิน รวมทั้งได้เงินจากการขายข่าวให้แก่สื่อต่างชาติ บางรายได้รับของขวัญที่มีผู้นำมาบริจาค เช่น ไวน์ ของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ชุดแต่งกายสำหรับวันฮัลโลวีนสำหรับเด็กๆ แม้กระทั่งชุดชั้นในสุดเซ็กซี่สำหรับแม่บ้าน

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว นายอัลเบอร์โต อิเทอร์รา หัวหน้าทีมนักจิตวิทยาได้แนะนำให้คนงานเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินให้เลือกที่จะ พบบุคคลเพียง 1-3 คน โดยคัดเลือกไว้ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือขึ้นมาจากใต้ดิน

ขณะที่กองทัพนักข่าวถูกกันให้อยู่ห่างจากปากหลุมประมาณ 90 เมตร เพื่อป้องกันการชุลมุนระหว่างการทำข่าวคนงานเหมืองที่ได้รับความช่วยเหลือ ขึ้นมาจากใต้ดิน และทันทีที่ขึ้นมาบนผิวดินคนงานเคราะห์ร้ายจะถูกนำตัวไปยังจุดพบญาติเพื่อพบ กับญาติพี่น้องก่อนจะนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลโคเปียโปและจะถูก กักตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 48 ชั่วโมงนับตั้งแต่คนงานคนสุดท้ายได้รับความช่วยเหลือขึ้นมายังผิวดินเพื่อ ตรวจสอบอาการต่างๆ ของร่างกาย



ข่าวคมชัดลึก

ไม่มีความคิดเห็น: