รวมข่าว

'ข่าวข้น' ที่หล่นหาย
โดย : ทีมข่าวจุดประกาย @กรุงเทพธุรกิจ

กว่า 3 อาทิตย์ที่ "ดารา-นักร้อง" ยึดพื้นที่ข่าว เราพลาดข่าวสำคัญอะไรไปบ้าง ที่ทั้งใกล้ตัวและควรรู้มากกว่า ใครคือพ่อเด็ก

'เอเชีย' จนน้อยลงแต่ยังอดอยาก

ผลสำรวจโดยสหประชาชาติระบุว่า ทวีปเอเชียมีคนจนน้อยลง โดยจำนวนคนที่ประทังชีวิตด้วยเงินจำนวนเพียง 1.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ลดลงจาก 1,500 ล้านคน ในปี 2533 เหลือ 947 ล้านคนในปี 2548
แต่แม้ว่าจำนวนคนจนจะน้อยลง แต่ว่าเอเชียก็ยังเป็นที่อยู่ของคนยากจนและหิวโหยมากถึง 2 ใน 3 ของโลก


อเมริกาเตรียมออก พรบ.คุ้มครองผลงานนักออกแบบ

วันที่ 22 กันยายน 2553 กรมส่งเสริมการส่งออกเผยว่า ทางสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก แจ้งว่า อเมริกาเตรียมออกพรบ.คุ้มครองผลงานนักออกแบบ โดยวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต เสนอพระราชบัญญัติ Innovation Design Protection and Privacy Prevention Act 2010 ให้การคุ้มครองและป้องกันด้านการออกแบบและดีไซน์เครื่องแต่งกาย โดยคุ้มครองผลงานของนักออกแบบเป็นเวลา 3 ปี กฎหมายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกเสื้อผ้าแฟชั่นดีไซน์ของผู้ ผลิต/ส่งออกเสื้อผ้าในต่างประเทศรวมทั้งประเทศไทยซึ่งส่งสินค้าเสื้อผ้าไป จำหน่ายยังสหรัฐฯ

กรมควบคุมโรคขยายซีแอลยา

วันที่ 23 กันยายน 2553 กรมควบคุมโรคลงนามขยายประกาศการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร หรือซีแอล กรณียาต้านไวรัสเอชไอวี 2 ชนิด คือ ยาต้านไวรัสเอชไอวีสูตรพื้นฐานยาเอฟฟาไวเรนซ์ และ ยาต้านไวรัสเอชไอวีสูตรผสม โลพินาเวียร์กับริโทนาเวียร์


โดยมีสิทธิคงเดิมทุกประการ ซึ่งจะครอบคลุมหลักประกันทั้งหมด คือ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ข้าราชการและประกันสังคมเพียงแต่ขยายระยะเวลาให้ครอบคลุมจนกว่าจะหมดสิทธิ บัตรเท่านั้น โดยยาเอฟฟาไวเรนซ์จะหมดอายุซีแอลวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ขณะที่สิทธิบัตรยาจะหมดวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 ส่วนยาโลพินาเวียร์กับริโทนาเวียร์สิ้นสุดซีแอลวันที่ 31 มกราคม 2555 แต่สิทธิบัตรหมดอายุปี 2564



ตัดต้นไม้ขึ้นเขาใหญ่ผิด

วันที่ 24 กันยายน 2553 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการตัดต้นไม้ขยายถนนขึ้นเขาใหญ่ของกรมทางหลวง มีข้อสรุปว่า กรมทางหลวงมีความผิดจริง กรณีไม่ได้ขออนุญาตก่อนที่จะทำการตัดต้นไม้เพื่อขยายพื้นถนน โดยตามระเบียบของกรมป่าไม้ได้มอบอำนาจในการอนุญาตไว้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งในกรณีนี้กรมทางหลวงไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาตผู้ว่าฯ แถมยังมีรายงานอีกด้วยว่า มีการลักลอบนำไม้ที่ตัดออกมาไปขายด้วย



ค่าต๋งกดเอทีเอ็มธนาคารลงตัว

วันที่ 27 กันยายน 2553 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เข้าหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทย โดยได้ข้อสรุปเกี่ยวกับโครงสร้างค่าธรรมเนียมการให้บริการทางการเงินผ่าน เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์ใหม่ คือ


การโอนเงินในธนาคารเดียวกันข้ามเขตไม่คิดค่าธรรมเนียมในครั้งแรก ครั้งต่อไป คิดในอัตราไม่เกิน 15 บาท ส่วนการถอนเงินธนาคารเดียวกันข้ามเขตคิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 15 บาทต่อรายการ จากเดิม หมื่นละ 10 บาท (ขั้นต่ำ 10 บาทสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท) คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในไตรมากแรก 2554

สำหรับการทำธุรกรรมถอน-ถามยอดผ่านตู้เอทีเอ็มต่างธนาคาร ในจังหวัดเดียวกันเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะไม่คิดค่าธรรมเนียมใน 4 ครั้งแรก ส่วนครั้งต่อไปจะคิดไม่เกิน 10 บาท ส่วนการถอนเงินต่างธนาคารข้ามเขตคิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 20 บาทต่อรายการ โดยคาดว่าจะสามารถบังคับใช้ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 54

อย่างไรก็ตาม ในการคิดอัตราค่าธรรมเนียมการทำรายการข้ามธนาคารผ่านระบบเอทีเอ็มธนาคารจะ ต้องแสดงเงื่อนไขบนหน้าจอเอทีเอ็มทุกครั้ง เพื่อให้ลูกค้าทราบก่อนตัดสินใจทำรายการ



'คิม' เปิดตัวทายาท

วันที่ 28 กันยายน 2553 คิม จองอิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเปิดตัวทายาทสืบทอดบัลลังก์ต่อสาธารณะอย่างเป็น ทางการครั้งแรก ก่อนการประชุมพรรคกรรมกรครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี โดยประกาศชื่อ คิม จองอุน ลูกชายคนสุดท้องวัยไม่ถึง 30 ขึ้นเป็นนายพล 4 ดาว ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่โลกภายนอกไม่ทราบรายละเอียดส่วนตัวของเขามากนัก นอกจากว่าจบการศึกษาจากสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นลูกชายคนโปรดของพ่อ


ตลาดการเงินคาดเดาผลลัพธ์ของประชุมพรรคครั้งนี้ว่าจะเป็นการสืบสานระบบ และภาวะที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพไว้ได้ต่อไป ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศนี้ใกล้จะพังพินาศเต็มทน ปัญหาที่น่ากลัวที่สุด คือเกาหลีเหนือถึงกาลล่มสลาย และก่อให้เกิดคลื่นผู้อพยพออกนอกประเทศหรือการสู้รบบนคาบสมุทร ที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านทั้งเกาหลีใต้, จีน และญี่ปุ่นอย่างหนัก มีโอกาสที่จะเกิดการต่อสู้แย่งชิงกันในช่วงที่คิมคนลูกก้าวขึ้นสู่อำนาจ



ลอกผลงาน โดนถอนใบปริญญา

วันที่ 28 กันยายน 2553 หลังการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมทางวิชาการในระบบอุดม ศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้สรุปบทลงโทษการกระทำของนิสิต นักศึกษา คณาจารย์ ในการคัดลอกผลงานทางวิชาการของผู้อื่น สภามหาวิทยาลัยสามารถพิจารณาเอาผิดได้ทันที โดยสามารถถอดถอนปริญญาบัตรนิสิตนักศึกษา


ส่วนการลงโทษคณาจารย์ สามารถนำประกาศคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) พ.ศ.2550 มาใช้ได้ ซึ่งกำหนดโทษตั้งแต่ตักเตือนภาคทัณฑ์ งดขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ งดขอตำแหน่งทางวิชาการระยะเวลาหนึ่ง หรือลงโทษตามแต่กรณี โดยในเดือนตุลาคมนี้ สกอ.จะจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่ง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับทราบ เข้าใจ และยอมรับบทลงโทษที่สร้างขึ้นร่วมกัน



สธ. ดีเดย์ บัตรประชาชนแทนบัตรทองรักษาฟรี(เกือบ) ทุกโรค

วันที่ 29 กันยายน 2553 กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวโครงการ "รักษาฟรี 48 ล้านคน แค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว" แทนบัตรทอง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ตุลาคม 2553 นี้ ที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับ ที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ออนไลน์ระหว่างหน่วยบริการกับ สปสช.เพื่อตรวจสอบสิทธิการรักษา ส่วนกรณีอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถรับบริการที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ



พบ ดาวเคราะห์ดวงใหม่ คล้ายโลกมากที่สุด

วันที่ 30 กันยายน 2553 เว็บไซด์เดลี่เมล์ รายงานว่า นักดาราศาสตร์ออกมาแถลงที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในเมืองซานตาครูส ว่าได้ค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ ซึ่งสิ่งมีชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้ โดยดาวดวงนี้มีที่ตั้งอยู่ใจกลางเขตที่เรียกกันว่า เขตมีชีวิต หรือ โกลดิล็อคโซน (Goldilocks zone) ที่ต่างจากดาวเคราะห์ทั่วไป อีกทั้งมีระยะห่างที่ไม่ไกลจากดาวฤกษ์ที่ชื่อ กลีซ 581 (Gliese 581) ซึ่งอาจจะมีน้ำในสถานะที่เป็นของเหลว ที่จะก่อกำเนิดมหาสมุทร แม่น้ำต่างๆ และภูมิอากาศก็ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป ซึ่งดาวดวงนี้มีมวลมากกว่าโลกประมาณ 3 เท่า โคจรรอบดาวแม่ในเวลา 37 วัน


............................................................................


ปล่อยให้ข่าว...หายไป


ในฐานะผู้ตรวจการข่าว ธาม เชื้อสถาปนศิริ ผู้จัดการกลุ่มงานวิชาการโครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม และเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ หรือ มีเดียมอนิเตอร์ บอกอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่ได้เฝ้าดูหรือทำสถิติข่าวแอนนี่-ฟิล์ม เพราะไม่ใช่เรื่องเป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมและไม่อยู่ในนโยบายการทำงาน ของโครงการฯ

แต่กับ "ข่าวที่หายไป" จากพื้นที่ปกติ ธามเผยว่ามีมาก ไม่ว่าจะเป็นข่าวพระปราโมทย์ คลิปสีกากี นายกฯ เยือนต่างประเทศ เลือกตั้งซ่อมที่สุราษฎร์ธานี กระทั่งความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง


กระทั้งแง่มุมที่หายไปในข่าวแอนนี่-ฟิล์ม...

"เข้าใจว่ามันเริ่มจากข่าวบันเทิง แต่มุมที่น่าจะมีอย่างกฎหมายครอบครัว สิทธิเด็ก กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ การเสนอข่าวเรื่องสุขภาวะทางเพศ กระทั่งความเท่าเทียมกับในฐานะมนุษย์ กลับไม่มี"

80-90 เปอร์เซ็นต์ของข่าวชิ้นนี้ คือ เรื่องส่วนตัว และ ผลประโยนช์ทางธุรกิจและการตลาด ซึ่งธามบอกว่า ทำให้มูลค่าข่าว เบาหวิว

แต่กลับไปหนักในแง่ ความรู้สึกและมีอารมณ์ร่วม เพราะข่าวดังกล่าว ครบคุณสมบัติ "ข่าวฉาว" ทุกประการ


"หนึ่ง มนุษย์สนใจเรื่องบุคคลสาธารณะเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว สอง เรื่องนี้มีประเด็นลึกลับซ่อนเงื่อน สามมีมิติเรื่องเพศ (ฟิล์ม-แอนนี่) กับทุจริตคอร์รัปชั่น(พระปราโมทย์-ฐิตินาถ)" แต่ข้อต่างอยู่ที่ คู่กรณีหลังไม่มีการทำธุรกรรมผ่านสื่อ การตรวจสอบเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ที่สำคัญ แหล่งข่าวไม่ปรากฎตัวต่อสื่อ

เมื่อมีข่าวทุกวัน พล็อตเพิ่มทุกวัน ตัวละครใหม่เพิ่มขึ้น ผู้รับชมรับฟังจึง "อิน" ไปกับข่าวในฐานะละครชีวิตจริงเรื่องหนึ่ง

ธาม อธิบายต่อว่า ช่วงนี้เป็นข่าวระยะที่ 3 คือ "การประกอบสร้างความจริง" ผสมกันระหว่าง 2 ส่วนคือ ความจริงกับ การอยากรู้ความจริง

"ต้องแยกให้ออกว่า อะไรคือ true อะไรคือ reality ต้องไม่ลืมว่าความจริงในละครไม่เหมือนความจริงในข่าว"
คน ดู คนฟัง มีผลอย่างมากต่อข่าวชิ้นนี้ โดยเฉพาะต่อการตั้งคำถามของนักข่าว และ การไปเปลี่ยนทิศทางข่าว นำไปสู่ การเปลี่ยนผลบั้นปลายของเรื่องนี้ ตามความเห็นธาม ข่าวนี้ไม่ได้ดำเนินไปด้วยข้อเท็จจริงแต่ดำเนินไปด้วยการคลี่คลายทางอารมณ์ ของคนดู

"ต้องตั้งคำถามกับสื่อว่า บรรทัดสุดท้ายของข่าวนี้ จะเป็นอะไร ระหว่าง 'เรื่องนี้จะจบลงตรงไหน' หรือ 'อยากให้เรื่องนี้จบอย่างไร' " กรณีเช่นนี้ เคยมีตัวอย่างในต่างประเทศมาแล้ว ซึ่งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ การเงียบที่สุด

เพราะถ้ายังดังอยู่อย่างนี้ ผลระยะยาวก็คือ การเสพข่าวแบบฉาบฉวย ไม่มีสติคิดไตร่ตรองเพื่อทำความเข้าใจ

"คนดูคนฟังถูกสปอยล์ สังคมก็เสพติดความเมามันในละครชีวิตเรื่องนี้ พูดง่ายๆ คือ หาความบันเทิงจากโศกนาฏรรมมนุษย์"

ส่วนผลระยะสั้น คือ การสร้างแรงกดดัน ทำให้บุคคลในข่าวเครียด และอาจจะทำให้เขาหรือเธอคิดทำอะไรที่เกินคาดเดาได้

"น่าสงสารที่สุดคือเด็ก ส่วนคนดูเองก็น่าสงสารพอกันแต่เขาไม่รู้ตัว"