หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

“ลิเวอร์พูล” ปลายทางของความรื่นรมย์

โดย : กาญจนา หงษ์ทอง
เที่ยวนี้ขอเล่า @คมชัดลึก


คงเหมือนกับแมนเชส เตอร์ ที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องฟุตบอล แต่ ลิเวอร์พูล (Liverpool) โดดเด่นทั้งเรื่องศิลปะ ดนตรี และประวัติศาสตร์ ลิเวอร์พูลจึงเป็นเมืองที่ปลายทางมีความรื่นรมย์รอทุกคนอยู่ที่นั่น
มุมช็อปปิ้งใจกลางเมือง

จากกรุงเทพฯ บินไปลงที่เมืองแมนเชสเตอร์ด้วยสายการบินเอทิฮัด (0-2253-0099) จากนั้นนั่งรถไฟ (www.raileurope.fr) ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงลิเวอร์พูล เพราะใช้เวลาไม่นาน แต่ละวันจึงมีรถไฟวิ่งไปมาวันละหลายเที่ยว

สถานีรถไฟประจำเมือง

จะว่าไปแล้ว ลิเวอร์พูล ก็ไม่ใช่เมืองประเภทโนเนม ไล่มาตั้งแต่ปี 2004 ก็ได้ป้ายเมืองมรดกโลกมาประดับเมือง พอปี 2007 ก็ฉลองครบรอบ 800 ปีอย่างเอิกเกริก แต่สำหรับคอศิลปวัฒนธรรม เป็นอันรู้กันว่า ที่นี่ถูกเชิดชูให้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมของยุโรปประจำปี 2008 หลังจากนั้นมา ลิเวอร์พูลยิ่งเนื้อหอมหนักกว่าเดิม

ที่จริงลิเวอร์พูลก็ เหมาะสมแล้วกับตำแหน่งเมืองวัฒนธรรม เพราะเป็นเมืองที่ทั้งโรงละคร พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์ตั้งเรียงรายอยู่แน่นเมือง ทั้งคนรักสุนทรีย์และรักกีฬาลูกหนัง จึงเดินปะปนกันในลิเวอร์พูล ไม่น้อยไปกว่ากัน นอกจากสนามแอนด์ฟิลด์ที่เป็นมุมเนื้อหอมประจำเมือง ลิเวอร์พูลยัง มีอีกหลายมุมที่น่าสนใจ หนึ่งในมุมที่อัดแน่นไปด้วยสุนทรีย์ คือ แถวท่าเรืออัลเบิร์ต ด็อก ท่าเรือเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์เอาไว้อย่างดีจนกลายเป็นแหล่งมรดกโลก

ในอาณาบริเวณของท่าเรือที่เป็นกลุ่มอาคารอิฐสีแดง เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์และร้านอาหาร ร้านขายของ ไปจนถึงมุมแฮงก์เอาท์ของคนหนุ่มสาว นี่อาจเป็นมุมหนึ่งของลิเวอร์พูลที่ ทำให้คุณลืมเรื่องฟุตบอลไปชั่วคราว อาจจะมีหลายมุมในท่าเรืออัลเบิร์ต ด็อกที่น่าสนใจ แต่ที่นักท่องเที่ยวพากันมุ่งหน้าไปหา ก็คงจะเป็น บีทเทิลส์ สตอรี
ละแวกอัลเบิร์ต ด็อก

ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงลิเวอร์พูล เพราะด้านในจะพาคุณย้อนไปตามรอยดูชีวิตของบอยแบนด์วงแรกของโลก ที่กลายเป็นวงดนตรีระดับอภิมหานิรันด์กาลอย่างวงสี่เต่าทอง ที่นี่จะทำให้คุณรู้ว่า เดอะบีทเทิลส์ เป็นอะไรมากกว่าวงดนตรี เพราะพวกเขาคือตำนานแห่งวงการเพลง

เพราะไม่รีบร้อนไปไหน จึงไปเดินเล่นแถวท่าเรือเยลโลว์ ดั๊ก มารีน ท่าเรือเก่าแก่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เวลาอากาศดีๆ จะเห็นคนออกมาปั่นจักรยานกันบนถนนเลียบทะเล หรือไม่ก็มีหนุ่มสาวมานั่งจิบอากาศดีๆ ด้วยกันบนม้านั่งริมทาง และอีกไม่น้อยที่หาโอกาสนั่งเรือออกไปล่องแม่น้ำเมอร์ซีย์
ลิเวอร์พูลก็มีชิงช้าสวรรค์

หรือใครจะนั่งชิงช้าสวรรค์ของเมืองสูง 60 เมตร ที่เรียกว่า The Echo Wheel of Liverpool ก็ได้ เขามีอยู่ 42 กระเช้า คิดค่าขึ้นคนละ 6 ปอนด์ นี่เป็นของเล่นชิ้นใหม่ของชาวลิเวอร์พูล เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อต้นปี 2010 ที่ผ่านมานี่เอง อยู่ใกล้กับ Echo Arena เขาว่า วันไหนอากาศดีๆ ขึ้นไปแล้วก็จะเห็นวิวได้ทั้งเมือง รวมถึงแม่น้ำเมอร์ซีย์และเทือกเขาเวลช์ หลายคนที่เคยขึ้นบอกว่าขึ้นกลางคืนจะสวยกว่ากลางวัน

ในอัลเบิร์ต ด็อกก็มีร้านรวงให้ช็อปอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าใครยังไม่จุใจ จะไปเดินช็อปในย่านใจกลางเมืองก็ได้ โดยเฉพาะในย่าน Queen Square ที่มีร้านค้าให้เลือกช็อปมากหน้าหลายตา รวมถึงห้างดังอย่าง Liverpool One ช็อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ ที่ภายในบรรจุแบรนด์เนมชื่อดังเอาไว้อย่างคับคั่ง อีกย่านหนึ่งที่สาวนักช็อปไม่ควรพลาดคือ ย่าน Met Quarter แหล่งช็อปปิ้งที่จะทำให้สาวๆ ขลุกอยู่ได้ทั้งวัน เวลาเดินช็อปแถวนี้ก็จะมองเห็นหอวิทยุ St’John Beacon ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง
ย่านกินดื่มใจกลางเมือง

ลิเวอร์พูลนี่ ครบเครื่องจริงๆ เขามีทั้งถนนสายช็อปปิ้ง ถนนสายบันเทิงที่เรียงรายไปด้วยผับ บาร์ คาเฟ่ และถนนสายโบสถ์ ที่นั่นคือ ถนนโฮป (Hope Street) นักท่องเที่ยวหลายคนอาจใช้ถนนสายนี้เป็นจุดเริ่มต้นการเดินเท้าทำความรู้จัก กับลิเวอร์พูล เพราะเป็นถนนมีวิหารสำคัญของเมืองถึง 2 แห่งตั้งอยู่ สถานที่แรกที่แวะไปชมคือ วิหารเมโทรโปลิทัน ออฟ ไครส์ เดอะ คิง ซึ่งเป็นอาคารที่มีความโดดเด่นและมีหลังคาประดับด้วยกระจกสี

อีกด้านหนึ่งของถนนโฮปเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารลิเวอร์พูล ซึ่งบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเป็นมหาวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ที่นี่จัดว่าเป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ยิ่งใหญ่และอลังการมาก

วิหารทั้งสองแห่ง ทำให้ถนนโฮปกลายเป็นถนนน่าเดิน เพื่อทอดสายตามองความอลังการและความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมของศาสนสถานทั้ง 2 แห่ง นอกจากนี้ยังมีถนนอีกหลายสายในลิเวอร์พูล ที่ล้วนแต่มีความน่าสนใจอยู่ในตัวแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นถนนแมธธิว และถนนวู้ด ที่เป็นแหล่งบันเทิงเริงใจของชาวเมือง
หนุ่มสาวหน้าป้ายเมือง

เป็นวันที่ได้เห็นลิเวอร์พูลที่แปลกไป ด้านที่ไม่ใช่ลูกกลมๆ กลิ้งไปมา แต่เป็นด้านฉ่ำสุนทรีย์ที่ห่มคลุมอากาศเหนือท้องฟ้าเมืองหงส์แดงเอาไว้

ไม่มีความคิดเห็น: