เกิดเหตุเครื่องบินเล็กบีชคราฟ-103 สายการบินพุทธแอร์ ซึ่งนำนักท่องเที่ยวไปชมความสวยงามยามเช้าบริเวณยอดเขาเอเวอเรสต์ ตกบริเวณภูเขาใกล้กับกรุงกาฐมัณฑุของเนปาล ช่วงเช้าของวันนี้ ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องบิน เสียชีวิตรวม 19 คน เป็นชาวอินเดีย 10 คน อีก 3 คน เป็นชาวต่างชาติ และชาวเนปาลอีก 3 คน ส่วนลูกเรือ 3 คน เป็นชาวเนปาลทั้งหมด
รายงานข่าว ระบุว่า เครื่องบินต้องเผชิญกับหมอกลงจัดและฝนตกหนักที่บริเวณโกดาวารี ที่อยู่ห่างจากกรุงกาฐมัณฑุประมาณ 10 กิโลเมตร นายบิมเลช ลัล คาร์นา ผู้อำนวยการฝ่ายกู้ภัยของสนามบินนานาชาติ ตรีภูวัน เปิดเผยว่า เครื่องบินลำนี้ เพิ่งจะกลับจากบินชมภูเขา ตอนที่ตกในบริเวณเทือกเขาในกอตตาดา ทำให้คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด
ด้านตำรวจ เปิดเผยว่า ตอนแรกพบผู้รอดชีวิต 1 คน แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และความพยายามกู้ภัยต้องเผชิญอุปสรรคจากสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่วนเจ้าหน้าที่สนามบิน ระบุว่า เครื่องบินได้ขาดการติดต่อไปเมื่อเวลา 07.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 08.45 น. ตามเวลาในไทย ก่อนจะบินชนภูเขาในอีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้น
สถานีโทรทัศน์ อะเวนิว เทเลวิชั่น ของเนปาล รายงานอ้างผู้เห็นเหตุการณ์ว่า เห็นเปลวเพลิงที่เครื่องบิน ก่อนจะตก และต้องเดินขึ้นเขาราว 1 ชั่วโมงครึ่งโดยไม่หยุดจึงไปถึงจุดที่เครื่องบินตกและเห็นชิ้นส่วนมนุษย์กระจัดกระจาย
สายการบินพุทธแอร์ เป็นสายการบินเอกชน มีสำนักงานอยู่ที่กาฐมัณฑุ ซึ่งเสนอแพ็คเกต " เอเวอเรสต์ เอ็กพีเรียนซ์ " สำหรับลูกค้า เป็นมูลค่า 8,240 รูปีต่อหัว หรือราว 4,200 บาท ในการพานักท่องเที่ยวจากกาฐมัณฑุ ไปชมรอบ ๆ ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก รวมถึงยอดเขาใกล้เคียง และระบุในเว็บไซท์ด้วยว่า เครื่องบินบีชคราฟ เป็นเครื่องบินที่ปลอดภัยที่สุดที่ให้บริการในประเทศ
ทั้งนี้ การเดินทางทางอากาศ ได้รับความนิยมอย่างมากในเนปาล เนื่องจากเครือข่ายการเดินทางโดยถนนกระทำได้อย่างจำกัด ชุมชนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างพวกที่อยู่บริเวณภูเขา จะสามารถเข้าถึงได้เพียง 2 ทาง คือ ทางเท้าและอากาศ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 25 กันยายน 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น