หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่วิกฤติท่วมไนท์บาซาร์1ม.


น้ำท่วมเชียงใหม่ยังวิกฤติ ท่วมไนท์บาซาร์ 1เมตร เจ้าของร้านประเมินสูญเสียโอกาสทางการค้าไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน ชลประทาน แจง น้ำปิง ขึ้นสูงสุด 4.90 เมตร เที่ยงคืน ใกล้เคียงน้ำท่วมใหญ่ปี 49 นายกฯ รับ ระบบเตือนภัย เป็นจุดอ่อน ด้าน ศภช. เตือน 10 อำเภอ 'เชียงใหม่-ลำพูน' รับมือน้ำล้นตลิ่ง 28-29 ก.ย.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ว่า ภายหลังนายวินัย พงษ์จินดา ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 คาดการณ์ว่าระดับแม่น้ำปิงที่ จุด P 1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จะถึงจุดสูงสุดที่ 4.90 เมตร ในเวลาเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ย.นี้ อันจะส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่เพิ่มขึ้นหลายจุด ปรากฎว่าในช่วงค่ำที่ผ่านมา ต่างมีประชาชนชาวเชียงใหม่ เดินทางมาดูป้ายบอกระดับน้ำที่บริเวณเชิงสะพานนวรัฐไม่ขาดสาย

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่สนใจที่จะเกาะสถานการณ์น้ำท่วม ขณะที่บางรายได้มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ทำให้บริเวณทั้งบนสะพานนวรัฐและเชิงสะพานเนืองแน่นไปด้วยประชาชนและรถราที่จอดจนจราจรติดขัดพอสมควร ไม่เว้นแม้แต่พ่อค้าแม่ค้าที่ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างนำอาหารการกินมาค้าขายจนคึกคัก

ขณะที่ทางหน่วยทหารจากค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ ได้นำรถยนต์ขนาดใหญ่ พร้อมกำลังพล และอาหารกล่อง ลุยไปแจกจ่ายนและสำรวจความเดือดร้อน รวมถึงความต้องการของประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ไม่สามารถออกมาจากบ้าน เนื่องจากมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ตลอดเส้นทางตั้งแต่ด้านหน้าโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียน ค่ายกาวิละ ต่อเนื่องหลายกิโลเมตรไปจนถึงสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกันร้านอารหารริมแม่น้ำปิงชื่อดัง ต้องปิดให้บริการโดยปริยาย เนื่องจากน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นเฮือนโบราณ ไวท์เฮ้าท์ ธาราบาร์

ทางด้านไนท์บาร์ซ่าร์ สถานที่ท่องเที่ยวและชอบปิงชื่อดังของเชียงใหม่ ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน หลังจากน้ำเริ่มหลากเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา กระทั้งเวลาประมาณ 23.00 น.ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ร้านค้าต้องปิดบริการโดยปริยาย ไม่เว้นแม้แต่โรงแรมชื่อดังย่านดังกล่าวก็ได้รับผลกระทบ บรรดาลูกค้าไม่สามารถเข้าไปใช้บริการได้อย่างสะดวกสะบาย ทางโรงแรมต้องจัดรถบัสขนาดใหญ่ลุยน้ำเข้าไปส่ง โรงแรมบางแห่งถูกลูกค้ายกเลิกเพราะน้ำท่วม

เช่นเดียวกันถนนช้างคลาน ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจของเชียงใหม่ ก็ถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และระดับน้ำยังไม่แนวโน้มว่าจะลดลงแต่อย่างใด โดยล่าสุดได้มีฝนตกปรอยๆมาเป็นระยะๆ โดยล่าสุดน้ำในคลองแม่ข่ามีระดับสูงและไหลแรง และน้ำได้ดันท่อระบ่ายน้ำเอ่อเข้าท่วมถนนย่านวิทยาลัยนาฎศิลป์แล้ว

น้ำปิงทะลัก!ไนท์บาซาร์สูญ100ล.

นายสิทธิพร เตชะจงจินตนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทเชียงใหม่ไนท์บาซาร์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำปิงได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว โดยอยู่ระดับไม่ต่ำกว่า 50-70เซ็นติเมตร และมีสภาพน้ำที่ขุ่นแดง ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าในย่านไนท์บาซาร์ทั้งร้านค้าที่เป็นรถเข็น และร้านค้าในศูนย์การค้าต่างๆ ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 7-8 แห่งต้องปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว

ทั้งนี้ แม้ว่า บางแห่งจะไม่มีการปิดให้บริการ แต่ก็คาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาในพื้นที่อย่างลำบาก เพราะสภาพน้ำได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ในวันแรกที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นนี้ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียโอกาสทางการค้าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ส่วนความเสียหายทางทรัพย์สินยังไม่มี เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าแล้ว


ชลประทาน แจง น้ำปิงขึ้นสูงสุด 4.90 ม.เที่ยงคืน ใกล้เคียงน้ำท่วมใหญ่ปี 49

นายวินัย พงษ์จินดา ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 กล่าวว่า คาดว่าระดับแม่น้ำปิงที่ จุด P1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จะถึงจุดสูงสุดที่ 4.90 เมตร ในเวลาเที่ยงคืนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่เพิ่มขึ้นหลายจุด รวมทั้งที่ตลาดต้นลำไยย่านเศรษฐกิจที่สำคัญอีกแห่งของจ.เชียงใหม่ จากนั้นน้ำปิงจะเริ่มทรงตัวและในเวลาใกล้รุ่งเช้าของวันที่ 29 กันยายนจะเริ่มลดระดับลง

ส่วนระดับน้ำปิงตอนเหนือที่อ.เชียงดาว ยังมีปริมาณสูงอยู่เพราะมีในตกในพื้นที่ก่อนหน้านี้จึงมีน้ำสะสมอยู่มาก แต่น้ำแม่แตงเริ่มทรงตัวแล้ว คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ซ้ำอีกเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ ( 29 กันยายน) ระดับน้ำในแม่น้ำปิงจะเริ่มลดลง แต่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 - 2 วันจึงจะกลับสู่ภาวะปกติและต่ำกว่าจุดวิกฤติที่ 3.70 เมตร ณ จุด P1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง

นายกฯ รับ ระบบเตือนภัย เป็นจุดอ่อน

เวลา 14.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่หน่วยงานด้านการเตือนภัย ไม่สามารถทำงานไม่มีประสิทธิภาพทำให้ประชาชน จ.เชียงใหม่ ไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงล่วงหน้า ก่อนน้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมืองว่า ได้ประชุมผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผวจ.เชียงใหม่แล้ว ขณะนี้ มีการชี้แจงขั้นตอนการเตือนภัยมีหลายหน่วยงาน อาจจะทำให้เกิดความสับสน ซึ่งม.ล.ปนัดดาได้เร่งชี้แจงข่าวสารให้ถูกต้องแล้ว และจะมีหน่วยงานการเตือนภัยต่าง ๆ ให้มีระบบมากขึ้น

“ยอมรับว่าการเตือนภัยยังเป็นจุดอ่อน เพราะเรามีหลายหน่วยในการประมวล เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดังนั้นทุกอย่างมีกลไกในการบูรณาการรวม เพื่อใช้ประมวลผลให้แม่นยำถูกต้อง ให้ข้อมูลกับประชาชน ที่สำคัญเรายังไม่มีระบบเตือนภัยถาวร ซึ่งจะให้คณะกรรมการบูรณาการและการจัดการเรื่องน้ำดูแล”นายกฯ กล่าว

ลำพูน เตือนปปช. รับมือน้ำกวงหนุน

นายสกล หาญพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.ลำพูน เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.ลำพูน ในวันที่ 28 ก.ย. ตลอดทั้งวัน น้ำในลำน้ำแม่ทามีระดับสูงขึ้น ณ สถานีวัดน้ำ P.77 บ้านแม่สะป๊วด ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน เท่ากับ 4.10 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับวิกฤต

เนื่องจากปริมาณฝนตกในพื้นที่ตอนเหนือของ จ.ลำพูน มีปริมาณมากและตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน จากการตรวจวัดที่สถานี P.76 บ้านแม่แต อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ มีระดับน้ำอยู่ที่ระดับวิกฤต โดยวัดระดับน้ำได้ 4.20 เมตร ปริมาณน้ำ 440 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าปริมาณน้ำดังกล่าวจะเข้าสู่ จ.ลำพูนภายในค่ำคืนวันนี้

ทั้งนี้จังหวัดได้วางแผนการระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำปิง น้ำแม่กวง และน้ำแม่ทา พร้อมด้วยฝายหนองสลีกซึ่งปริมาณน้ำที่ระบายปัจจุบัน 476 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลุ่มต่ำใกล้ลำน้ำ ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เนื่องจากสภาวะฝนตกหนักด้านเหนือของจังหวัดลำพูน ให้เตรียมเก็บทรัพย์สิน สิ่งของต่าง ๆ ไว้ในที่ปลอดภัย และระมัดระวังเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลันด้วย

ศภช.เตือน 10 อำเภอภาคเหนือ รับมือน้ำล้นตลิ่ง 28-29 ก.ย.นี้

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) แจ้งว่า ในวันที่ 28 - 29 ก.ย.นี้ จะเกิดน้ำล้นตลิ่งในบริเวณสองฝั่งลุ่มน้ำแม่กวง ได้แก่ อ.ดอยสะเก็ด อ.สันทราย อ.สันกำแพง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ อ.เมืองลำพูน อ.แม่ทา อ.สารภี อ.บ้านโฮ่ง อ.เวียงหนองร่อง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ นอกคันกั้นน้ำ และริมแม่น้ำสาขาเฝ้าระวังรับสถานการณ์น้ำท่วม ควรเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย และติดตามข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติต่อไป

เชียงราย น้ำป่าดอยห้วยหลวงทะลัก ท่วมบ้าน-วัด-โรงเรียน จมนับพันหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่าหลังจากเกิดฝนตกหนักในช่วงคืนที่ผ่านมาได้ทำให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาห้วยหลวงพื้นที่ อ.พาน จ.เชียงราย ไหลบ่าลงมาจากเทือกเขาเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ ต.ทรายขาว หลายหมู่บ้าน โดยน้ำได้เข้าท่วมหมู่บ้านร่องธารใหม่ บ้านร่องธาร บ้านร่องธารกลาง บ้านท่าอ้อ และ บ้านดงลาน ต.ทรายขาว รวมกันทั้งหมดประมาณ 1,000 หลังคาเรือน โดยน้ำมีความเชี่ยวกรากและลึกตั้งแต่ 30-50 ซ.ม.ขณะที่บางจุดน้ำลึกกว่า 1 เมตร ส่งผลให้ประชาชนประสบความเดือดร้อนอย่างหนักเพราะน้ำไหลเชี่ยวกรากจนขนย้ายข้าวของกันไม่ทัน ต้องช่วยกันเก็บของสำคัญไปไว้บนพื้นที่สูงอย่างอลหม่าน

ขณะเดียวกันน้ำที่ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็วดังกล่าวยังส่งผลกระทบไปยังวัดต่างๆ โดยเฉพาะวัดร่องธารที่น้ำไหลเข้าท่วมทั้งวิหาร กุฏิ ศาลาวัด ชาวบ้านต้องนำเรือท้องแบนเข้าไปช่วยพระสงฆ์และสามเณรขนย้ายข้าวของไปไว้บนพื้นที่สูงอย่างเร่งด่วน เช่นเดียวกันโรงเรียนตามหมู่บ้านต่างๆ ที่ต้องหยุดทำการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีรายงานเรื่องการเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บของประชาชน ซึ่งทางฝ่ายปกครอง อ.พาน และอบต.ทราย ขาวอยู่ระหว่างสำรวจและรวบรวมข้อมูลความเสียหาย

แต่เบื้องต้นได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง อบต.ทรายขาว และทหารจังหวัดทหารบกเชียงราย ค่ายเม็งรายมหาราช นำเรือท้องแบนและรถยนต์เข้าช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายข้าวของไปไว้บนพื้นที่สูงเป็นการชั่วคราว โดยรอจนกว่าระดับน้ำจะลดต่ำลงหรือเข้าสู่ภาวะปกติขณะเดียวกันได้ออกแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มเพราะประชาชนเริ่มเดือดร้อนเนื่องจากไม่สามารถทำมาหากินได้ตามปกติ เพราะมั่ววุ่นกับการขนย้ายข้าวของตลอดทั้งวันด้วย

ทั้งนี้ มีบ้านเรือนจำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มและห่างไกลถนนหรือพื้นที่สูงทำให้ถูกตัดขาดจากภายนอกและต้องอาศัยอยู่บ้านเรือนบนที่สูงตามลำพัง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำเรือท้องแบนเข้าให้การช่วยเหลือตลอดทั้งวันแล้ว

สุโขทัย น้ำป่าหลากท่วมศรีสัชนาลัย เดือดร้อน 100 หลังคาเรือน

กรณีน้ำป่าที่ไหลหลากจากแนวเทือกเขาในอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยและปริมาณน้ำที่เอ่อล้นสปริงเวย์จากอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ท่าแพซึ่งไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่สองตำบลในอำเภอศรีสัชนาลัยเมื่อคืนวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดตลอดทั้งที่ 28 ก.ย.ระดับน้ำที่ท่วมพื้นที่ขยายวงกว้างในหลายหมู่บ้านระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นรวมทั้งยังไหลบ่าสู่พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายจำนวนมาก

โดยชาวบ้านหมู่ที่ 9 บ้านคุกเหนือ และ หมู่ที่ 12 บ้านคุกพัฒนา ต.สารจิต อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดจากกรณีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมโดยล่าสุดวันนี้ระดับน้ำเข้าท่วมพื้นที่สูงถึง 80-1.50 เมตร มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 ครัวเรือน อย่างไรก็ตามระดับน้ำป่าที่ไหลหลากได้ขยายวงกว้างเข้าท่วมพื้นที่รวม 14 หมู่บ้านใน 2 ตำบลคือ ต.สารจิต และ ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย โดยมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 600 ครัวเรือน มีพื้นที่ทางการเกษตรทั้งไร่นาและพืชสวนเสียหายกว่า 2,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นนาข้าว โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่แล้ว

อย่างไรก็ตามในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยตลอดทั้งวัน ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอศรีสัชนาลัยจึงมีการออกประกาศเตือนชาวบ้านสองฝั่งคลองแม่ท่าแพให้ติดตามสถานะการณ์อย่างต่อเนื่องเพราะปริมาณน้ำฝนตกเพิ่มในพื้นที่ให้ประชาชนระมัดระวังภาวะน้ำล้นตลิ่งต่อเนื่องไปตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา : คมชัดลึก
---------------------------------------------------
'น้ำปิง'ละลักท่วมย่านการค้าสำคัญ


น้ำปิงเริ่มทะลักท่วมตลาดวโรรส-ตลาดเมืองใหม่ ย่านการค้าสำคัญ ทน.เชียงใหม่ เปิดศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน


วันนี้ 29 ก.ย.54 ล่าสุดระดับแม่น้ำปิงที่จุดวัด P1 สะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลา 07.00 น.อยู่ที่ 4.93 เมตร ปริมาณน้ำไหล 851 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลดลงจากชั่วโมงก่อนที่ 4.94 เมตร ปริมาณน้ำไหล 856 ลูกบาศก์เมตร/วินาที อย่างไรก็ตามระดับน้ำปิงที่เพิ่มสูงขึ้น ในช่วงเช้าวันนี้ได้ล้นตลิ่งแนวกำแพงบริเวณถนนเลียบแม่น้ำใกล้ตลาดวโรรสกลางเมืองเชียงใหม่ น้ำเริ่มทะลักเข้าท่วมย่านตลาดวโรรส ตลาดต้นลำไย และตลาดเมืองใหม่ รวมทั้งหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่แล้ว

ทางด้านเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่สุสานหายยา ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ โดยนอกจากเป็นศูนย์อำนวยการและให้ความช่วยเหลือประชาชนในเขตเทศบาลที่ได้รับความเดือดร้อน ยังเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุและช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือนด้วย โดยมีนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิด



"ตลาดต้นลำไย-วโรรส-เมืองใหม่" สำลักน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ว่า หลังน้ำแม่น้ำปิงเพิ่มขึ้นและเริ่มล้นตลิ่งก่อนไหลเข้าท่วมตลาดต้นต้นลำไย ตลาดวโรรส ตลาดเมืองใหม่ ถนนเจริญราษฎร์ ถนนเจริญเมือง อเมือง จ.เชียงใหม่ ส่งให้พ่อค้าแม่ค้า ร้านค้า ร้านอาหารต้องปิดไปโดยปริยาย

นางปราณี นาคชัย ร้านต้อยปราณีดอกไม้สด ย่านตลาดวโรส ติดกับแม่น้ำปิง กล่าวว่า น้ำท่วมปีนี้มาเร็วมาก การป้องกันไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมตลาดบางส่วนแล้ว ส่งผลให้ได้รับกระทบ ลูกค้าไม่สามารถเข้ามาซื้อสินค้าได้ทำให้สินค้าที่สั่งมาเสียหาย เพราะส่วนใหญ่เป็นดอกไม้สด จากเดิมขายได้วันละหมื่นกว่าบาท แต่ขณะนี้ 5 พันบา ยังขายไม่ได้

นางนิชรัตน์ แก้วประดิษฐ์ ผู้จัดการ ฝ่ายปฎิบัติการ โรงแรมรรินจินดา ถนนเจิญราษฎร์ ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมาทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้นำรถขยายเสียมาแจ้งเตือน ว่าน้ำจะเริ่มท่วมตั้งแต่ช่วงเที่ยง จึงสั่งการให้พนักงานเร่งย้ายข้าวของจากร้านอาหารเดควัน ที่อยู่ติดริมน้ำปิง ตรงข้ามโรงแรม แต่ก็เก็บไม่ทันทำให้ข้าวของได้รับความเสียหายบางส่วน


นอกจากนี้ในส่วนของโรงแรม ก็ได้รับผลกระทบ เพราะว่ามีลูกค้าไม่สามารถเดินทางเข้ามาพักได้ แม้วาทางโรงแรมจะได้นำรถเข้าไปรับส่งเพื่ออำนวยความสะดวก ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวและลูกค้าได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามและยกเลิกไปแล้ว 3ราย

นางพิสุดา ศิริปัญญา ฝ่ายจัดซื้อและแคชเชียร์ ร้านอาหารริเวอร์ไซด์ ผับและเรสเตอร์รองด์ กล่าวว่า มีการเตรียมตัวเก็บข้าวของทันบางส่วน แต่บางส่วนเก็บไม่ทันเพราะไม่คาดคิดว่าน้ำจะมาถึง ปีนี้น้ำมาเร็ว แม้ว่าทางเทศบาลจะมีการแจ้งเตือนไว้ก่อน โดยน้ำได้เข้าท่วมตั้งแต่บ่ายวานนี้ทำให้ต้องปิดร้านไปโดยปริยาย

น้ำจากลำพานและปาวหลงทะลักท่วมบ้านประชาชนกว่า 80 หลังคาเรือน

สถานการณ์น้ำ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างล่าสุดน้ำจากลำน้ำพานปาวหลงที่ได้รับอิทธิพลจากการเร่งระบายน้ำของเขื่อนลำปาววันละกว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อรักษาสภาพตัวอ่างเก็บน้ำซึ่งเป็นเขื่อนดินทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม 2 หมู่บ้านใน ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยมีบ้านเรือนของราษฎรกว่า 80 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมระดับน้ำสูงกว่า 30 ซม. และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นายนิคม ปัญจวัฒน์ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ด.ต.สมคิด นันทสมบูรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำพาน ได้อพยพชาวบ้านทั้งหมดมาอาศัยยังบริเวณที่พักที่ปลอดภัยแล้ว

นายประหยัด เรเชียงแสน ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยอาสาสมัครปศุสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง โดยมีนายสำนัก กายาผาด เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมลงพื้นที่สอบถามข้อมูลพื้นที่การเกษตร ที่ได้รับความเสียหายจากวิกฤติน้ำท่วม

นายประหยัด กล่าวว่า ผลกระทบจากสถานการณ์พายุที่ตกหนักต่อเนื่องหลายสัปดาห์ นอกจากจะทำให้พื้นที่การเกษตร บ้านเรือน ที่พักอาศัย ของราษฎรใน จ.กาฬสินธุ์ ได้รับความเสียหายแล้ว ด้านสัตว์เลี้ยงก็ได้รับผลกระทบและมีอัตราเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นแฉะทำให้สัตว์ประเภทกีบ เช่น โค กระบือ เสี่ยงกับการเกิดโรคปาก เท้าเปื่อย และสุนัข แมว เป็ด ไก่ เสี่ยงกับการป่วยเป็นโรคพยาธิ

ทั้งนี้ จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครปศุสัตว์ ทั้งระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพสัตว์ให้ครบทุกหมู่บ้าน โดยจะให้คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพสัตว์ ตลอดทั้งแจกยารักษาโรค และมีการตั้งอาสาสมัครเฝ้าระวัง ที่หากเกิดพบเบาะแสการเกิดโรค ก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที

นอกจากนี้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังได้เตรียมการช่วยเหลือเฉพาะหน้า โดยสำรองเสบียงสัตว์เลี้ยงไว้กว่า 140,000 ก.ก.และเวชภัณฑ์จำนวนหนึ่ง


4 จังหวัดอีสาน ชาวบ้านเดือดร้อนจากน้ำท่วมเสียชีวิตแล้ว 6 คน

จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่องตลอดในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งมีปริมาณน้ำเต็มอ่าง ทำให้หลายพื้นที่เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันนั้น

นายวัลลภ เทพภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5นครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งประกอบด้วย นครราชสีมา , ชัยภูมิ , สุรินทร์ และบุรีรัมย์ อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต5 นครราชสีมา มี 2 จังหวัดคือจังหวัดชัยภูมิ และสุรินทร์ ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติรวม 2 จังหวัด จำนวน 20 อำเภอ 114 ตำบล 1,076 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 68,792 ครัวเรือน รวม137,584 คน เสียชีวิตแล้ว 6 ราย

อีกทั้ง จ.ชัยภูมิ ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติจากเหตุอุทกภัย รวม 15อำเภอ 98 ตำบล 987 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 63,487 ครัวเรือน รวม 126,974 คน เสียชีวิต 6 คน ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากเหตุอุทกภัย รวม 5 อำเภอ 16 ตำบล 89 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 5,305 ครัวเรือน รวมผู้เดือดร้อน 10,610 คน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ส่วนพื้นที่การเกษตรที่เสียหายของทั้ง 2 จังหวัดยังอยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหาย

ในขณะนี้ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ได้จัดส่งอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอุทกภัยที่จำเป็นทั้งเรือท้องแบน เต๊นท์ที่พักชั่วคราว และรถผลิตน้ำดื่มออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเป็นการเร่งด่วนแล้ว

นอกจากนี้ได้ระดมอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือที่มีอยู่ภายในศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ส่งไปช่วยเหลือในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศที่กำลังประสบกับปัญหาอุทกภัยอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ ทั้งในจังหวัดสระบุรี ,ชัยนาท , ปทุมธานี , นครสวรรค์ เป็นต้น รวมการส่งอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือทั้งหมด เป็น เรือท้องแบนจำนวน182 ลำ , เครื่องยนต์เรือท้องแบน 28 เครื่อง , เต๊นท์ที่พักชั่วคราว 50 หลัง , สุขาเคลื่อนที่ 20 หลัง และรถผลิตน้ำดื่มอีก 1 คัน



คลองรังสิต เอ่อล้นฝั่งเอ่อท่วมถนนซ่อมสร้าง ทำการจารจรติดขัดหลาย กม.

ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งถนนสายซ่อมสร้าง ม.5 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนรังสิต-ปทุมธานี และถนนติวานนท์ เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กม.ทำ ให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการปิดถนนขาออกจากรังสิตให้รถวิ่งสวนทางในฝั่งขา เข้ารังสิต ทำให้เกิดการติดขัดยาวหลายกิโลเมตร

นางรุ่งฤดี นวลจันทร์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/7 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ระดับน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อท่วมขึ้นมามากตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ซึ่งระดับน้ำได้เอ่อขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน และเก็บข้าวของหนีน้ำไม่ทัน น้ำได้ท่วมเข้าในบ้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำก็เคยเอ่อท่วมขึ้นมาแล้วครั้งหึ่งและเพิ่งลดลงไปจนปกติ เมื่อประมา10 วัน ที่ผ่านมา ที่สำคัญตอนนี้นอกจากถูกน้ำท่วมเข้าบ้านแล้ว ยังต้องมาเดือดร้อนเพราะรถทิ่วื่งลุยน้ำผ่านไปมาทำให้คลื่นซัดเข้าบ้านสร้าง ความเสียหายเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย


ตรวจประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์หวั่นน้ำล้นทะลักตลาดรังสิต


นายธีรวุฒ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองช่างจากเทศบาลนครรังสิต ได้ออกตรวจสอบสภาพประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นประตูน้ำที่กั้นระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะไหลผ่านเข้ามาในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ พร้อมทั้งตรวจสอบระดับน้ำ โดยพบว่าระดับน้ำสูงขึ้นปริ่มแนวคันกั้นกระสอบทรายที่เสริมไว้เหนือประตูน้ำที่ทำไว้แต่เดิม จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเสริมกระสอบทรายเพิ่มสูงขึ้นอีก

สำหรับปริมาณระดับน้ำวันนี้( 29 ก.ย.)เพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา (ระดับน้ำเจ้าพระยาเหนือนกว่าระดับน้ำคลองรังสิต 50 เซนติเมตร) อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมตลาดรังสิต บ้านเรือน หมู่บ้าน และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ในเมืองเศรษฐกิจของปทุมธานี โดยมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบเฝ้าเวรยามประตูระบายน้ำดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง

คมชัดลึก
------------------------------------
น้ำท่วมเชียงใหม่ยังวิกฤต!


น้ำท่วมเชียงใหม่ยังวิกฤตเรือขาดแคลนทำขนย้ายผู้ป่วย-นักท่องเที่ยว ยากลำบาก ศูนย์อุทกฯ เผยน้ำก้อนใหม่จ่อหนุนอีก 17 ชั่วโมง

29 ก.ย.54 สถานการณ์น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ยังไม่คลี่คลาย แม้ระดับน้ำจะเริ่มลดลงเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 เซ็นติเมตร โดยล่าสุดในเวลา 11.00 น. ที่จุดวัดระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ วัดได้ 4.88 เมตร ลดลงจากจุดสูงสุดในช่วงคืนที่ผ่านมาที่ 4.94 เมตร โดยยังคงมีน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง บริเวณย่านชุมชนเลียบสองฝั่งแม่น้ำปิง ทั้ง ถนนเจริญประเทศ ถนนเชียงใหม่-ลำพูน ย่านไนท์บาร์ซ่า และย่านการค้าสำคัญอีกหลายแห่ง

ทั้งนี้ รายงานแจ้งว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเรือ ที่อยู่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากมีผู้สูงอายุ เด็ก รวมทั้งผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ต้องการ ออกจากพื้นที่ นอกจากนี้ยังต้องขนย้ายนักท่องเที่ยวที่ติดค้าอยู่ในโรงแรมย่านถนนช้างคลานอีก จำนวนมาก และยังมีรายงานว่ามีนักเรียนกว่า 100 คน ที่เข้าพักและยังติดอยู่ในโรงแรมเดอะปาร์ค ถนนช้างคลาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งแจกอาหารและน้ำดื่มให้กับประชาชนที่ไม่ยอมออกจาก บ้านให้ทั่วถึงที่สุด โดยล่าสุดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในต่างอำเภอที่ไม่ถูกน้ำท่วมกำลังส่งเรือท้อง แบนเข้าสมทบ ขณะที่โครงการหลวงได้ส่งผักสดหลายชนิดจำนวน 1 รถบรรทุก เพื่อมอบให้กับเจ้า หน้าที่นำไปประกอบอาหารแจกจ่ายผู้ประสบภัย

ด้านศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคเหนือตอนบน คาดการว่า หลังจากนี้ระดับน้ำในแม่น้ำ ปิงจะลดลงต่อเนื่องไปอีก 17 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะมีมวลน้ำจากอำเภอทางตอนเหนืออีกประมาณ 300 คิวบิกเมตร ไหลผ่านจุดวัดระดับน้ำ P67 อ.สันทราย หลังจากนั้นจึงจะประเมินได้อีกครั้งว่า ระดับน้ำปิงใน อ.เมืองเชียงใหม่ จะเพิ่มขึ้นเป็นระลอกสองหรือไม่

ผู้สูงอายุไม่ยอมออกจากบ้าน ห่วงทรัพย์สิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ยังน่าเป็นห่วง โดยน้ำจากแม่น้ำปิงได้ไหลทะลักเข้าท่วมเมืองหลายพื้นที่ ซึ่งหลายหน่วยงานได้ระดมกำลังออกช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) ได้นำรถนำอาหารมาแจกจ่ายให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในย่านชุมชนหนองหอย ชุมชนท่าสะต๋อย ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รวมทั้งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 จ. จ.เชียงหม่ ได้นำเรือท้องแบนนมารับส่งส่งประชาชนที่ติดอยู่ตามตรอก ซอย ซึ่งมีชาวบ้านหลายคนยังติดอยู่ในบ้านเรือน โดยเฉพาะผู้สูงอายุไม่ยอมอออกจากบ้านเพราะห่วงทรัพย์สิน

นางจตุพร โพธิเต็ง อายุ 52 ปี กล่าวว่า วันนี้ได้เตรียมอาหารและเสบียง มาเพื่อขนไปให้นายหลง โพธิเต็ง อายุ 77 ปี บิดา ที่ติดอยู่ในบ้าน เพราะไม่ยอมออกจากบ้านเพราะห่วงทรัพยน์สิน รวมทั้ง บิดาป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน จึงไม่สามารถลุยน้ำออกมาได้ ขณะที่ลูกหลานจะพยายามขอร้องให้ออกมา ก็ไม่ยอมออกมา ทำให้รู้สึกเป็นห่วง ทั้งนี้หากระดับน้ำลดลงจะไปหารถยนต์ขนาดใหญ่ไปรับบิดามาอยู่บ้านญาติข้างนอกแทน เพราะเกรงว่าหากมีน้ำท่วมซ้ำอีกระลอกจะรุนแรงกว่านี้

ที่มา : คมชัดลึก

น้ำท่วมถนนมหิดล via. twitter

ไม่มีความคิดเห็น: