หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

โสมแดงผลัดแผ่นดิน

ทั่วโลกกำลังจับตามองสถานการณ์การเมืองและความมั่นคง ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หรือ เกาหลีเหนือ หลังการอสัญกรรมอย่างปัจจุบันทันด่วนของ นายคิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุดของประเทศ ด้วยโรคหัวใจวาย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ขณะอายุได้ 70 ปี

แต่กว่าทางการเปียงยางจะป่าวประกาศให้ประชาชนส่วนใหญ่และโลกภายนอกทราบ ก็ปิดเรื่องเงียบกว่า 2 วัน ไม่มีใครรู้ระแคะระคาย แม้แต่ นายวอน ไซ-ฮูน ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ ซึ่งเพิ่งจะรู้ตอนมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ วอนเลยถูกคณะกรรมาธิการรัฐสภาในกรุงโซล เรียกสอบปากคำเป็นการด่วน


เรื่องนี้นักวิเคราะห์ข่าวกรองชาติตะวันตก มองว่า รัฐบาลเกาหลีเหนืออาจจะยังคงตื่นตระหนก ต่อการจากไปอย่างกะทันหันของผู้นำ และต้องใช้เวลาถกหารือกันรอบด้าน เกี่ยวกับผลกระทบหลังการประกาศข่าว

ตอน คิม อิล-ซุง ผู้นำคนก่อนและพ่อของ คิม จอง-อิล ถึงแก่อสัญกรรม รัฐบาลเกาหลีเหนือใช้เวลา 34 ชั่วโมง ก่อนประกาศข่าวให้โลกรู้ แต่กรณีของ คิม จอง-อิล ใช้เวลานานกว่าคือ 52 ชั่วโมง นับจาก 08.30 น. เช้าวันเสาร์

คิม จอง-อิล ครองอำนาจต่อจากผู้เป็นพ่อตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 2537 มาเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วสัญญาณมรณะเริ่มเตือน จากอาการป่วยด้วยโรคเส้นเลือดเลี้ยงสมองอุดตัน ถึงขั้นวูบหมดสติเป็นข่าวสู่โลกภายนอกหลายครั้ง จึงได้เริ่มวางตัวทายาททางการเมือง ซึ่งได้แก่ คิม จอง-อุน ลูกชายคนที่ 3 และคนเล็กวัย 27 ปี

สถานการณ์หลังการจากไปของ คิม จอง-อิล ถึงวันพฤหัสบดียังราบรื่น ยังไม่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติใด ๆ จากกองทัพโสมแดง ขณะที่เกาหลีใต้และกองกำลังสหรัฐในภูมิภาค สั่งเตรียมพร้อมระดับสูง

การสื่อสารที่ชัดเจนที่สุด ต่อชาวเกาหลีเหนือและโลกภายนอก เห็นจะเป็นจากหนังสือพิมพ์หลักของประเทศ โรดอง ซินมุน ซึ่งในบทบรรณาธิการได้เรียกร้องให้ประชาชน ให้การสนับสนุนและมอบความไว้วางใจ ต่อสหายผู้ยิ่งใหญ่ คิม จอง-อุน ในฐานะ “ผู้นำดีเด่น” คนใหม่

เสร็จพิธีฝังศพ คิม จอง-อิล ในวันที่ 28 ธ.ค. ที่จะถึง สายตาชาวโลกจะหันไปมองผู้นำเกาหลีเหนือคนใหม่ คิม จอง-อุน พร้อมกับคำถาม “คิมน้อย” มีศักยภาพมากพอจะเป็นผู้นำประเทศต่อไปได้หรือไม่? เพราะอ่อนด้อยทั้งอายุ และประสบการณ์ ยังไม่เคยผ่านการทดสอบความเป็นผู้นำ

เท่าที่ปรากฏ คิม จอง-อิล มีภรรยา 4 คน และบุตร 4 คน ชาย 3 หญิง 1 ลูกชายคนโต คิม จอง-นัม วัย 40 ปี เกิดกับภรรยาที่ชื่อ ซอง เฮ-ริม คนที่ 2 ลูกสาวชื่อ คิม ซุล-ซอง วัย 37 ปี เกิดกับภรรยาที่ชื่อ คิม ยัง-ซุค ลูกคนนี้มีตำแหน่งระดับสูงในหน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ และวัฒนธรรม ลูกชายคนที่ 3 คิม จอง-ชุล วัย 30 ปี และ คิม จอง-อุน วัย 28 ปี เกิดกับภรรยาที่ชื่อ โค ยัง-ฮี

ตอนแรก ลูกชายคนโต คิม จอง-นัม ส่อเค้าจะได้เป็นทายาททางการเมือง แต่นิสัยออกทางเพลย์บอย ตกเป็นข่าวหนีเที่ยวต่างแดนบ่อย ทำให้พ่อไม่พอใจ เพราะความฟุ้งเฟ้อ ขัดกับภาพความยากจนของประชาชนในประเทศ เดือน พ.ค. 2544 คิม จอง-นัม ถูกจับฐานใช้หนังสือเดินทางปลอมเข้าญี่ปุ่น เพื่อพาครอบครัวไปเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ พ่อเลยตัดสินใจยกเลิกความคิดที่จะให้สืบทอดอำนาจตั้งแต่นั้น

เหลือลูกชายอีก 2 คน แต่คนกลาง คิม จอง-ชุล จริตนิสัยออกทางแนว “น้ำหวาน” พ่อไม่ปลื้มอย่างแรง หวยเลขออกที่ลูกชายคนเล็ก ที่บังเอิญรูปร่างหน้าตาและนิสัย ยังกะถอดแบบจากผู้เป็นพ่อ

คิม จอง-อุน เกิดวันที่ 8 ม.ค. แต่ปีเกิดยังเป็นปริศนา ระหว่างปี 2526 กับ 2527 หน่วยข่าวกรองสหรัฐเชื่อว่าปี 2527 ส่วนใหญ่จะยึดตามนี้ ตอนเด็กคิมน้อยใช้ชื่อ คิม จอง-วูน เปลี่ยนเป็น คิม จอง-อุน หรือ คิม จอง-อึน ในตอนหลัง บางกระแสข่าวระบุว่า เคยเรียนชั้นมัธยมที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยใช้ชื่อ ปัค อุน ทำให้เก่งภาษาอังกฤษและเยอรมันระดับใช้งานได้ และภาษาฝรั่งเศสอีกพอประมาณ

คิมน้อยเรียนจบปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยคิม อิล-ซุง และการทหารจากโรงเรียนนายร้อยทัพบกคิม อิล-ซุง แรกเริ่มได้รับการวางตัวเป็นทายาทสืบทอดอำนาจ หลังพ่อรู้ตัวสุขภาพไม่ดีเมื่อ 3 ปีก่อน ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่รักษาการประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติ แทนพ่อ

พอเปิดตัวเป็นทายาทอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย. 2553 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงประมาณ 20 ตำแหน่ง ทั้งในกองทัพประชาชน และพรรคคนงาน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ในจำนวนนี้รวมถึง แดจาง ซึ่งเทียบเท่ากับยศ พล.อ.

คิม จอง-อิล เรียนรู้งานหลังได้รับการวางตัวเป็นทายาทการเมืองนานถึง 14 ปี ก่อนจะครองอำนาจในปี 2537 ขณะอายุได้ 53 ปี ขณะที่คิมน้อยเรียนรู้งานแค่ไม่ถึง 3 ปี และครองอำนาจด้วยวัย 27 ปี

แหล่งข่าววงในระดับสูง ที่ใกล้ชิดทั้งรัฐบาลเกาหลีเหนือและรัฐบาลจีน เผยว่า ช่วง 3 ปีหลังสุด คิม จอง-อิล ปูทาง วางหมากฐานครองอำนาจให้ลูกชายคนโปรดไว้หมดแล้ว โดยจะปรับโครงสร้างจากอำนาจรวมศูนย์ที่ผู้นำสูงสุดเพียงคนเดียว เป็นระบบผู้นำร่วม 3 ฝ่ายคือ คิม จอง-อุน – กองทัพ – จาง ซอง-แต๊ค อาเขยของคิมน้อย

จาง ซอง-แต๊ค เป็นสามีของ คิม ยอง-ฮุย น้องสาวของ คิม จอง-อิล ทั้งสองอายุ 65 ปีเท่ากัน และมีอำนาจอิทธิพลสูงทั้งคู่ในรัฐบาลคือพรรคคนงาน และในกองทัพ จางเป็นตัวหลักในการประสานความสัมพันธ์และประโยชน์ ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ

อาสาวและอาเขยคู่นี้คือ “เสาหลัก” ที่ได้รับมอบหมายให้ปกป้องคิมน้อย คอยประคับประคองอยู่เบื้องหลัง หนึ่งในภาพถ่ายชุดสุดท้ายของ คิม จอง-อิล ที่สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ นำออกเผยแพร่ แสดงให้เห็น คิม จอง-อิล และคณะ ขณะกำลังลงบันไดเลื่อน ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งของกรุงเปียงยาง โดยคิมนำหน้า ตามหลังไม่ห่างสูงขึ้นไปคือ คิม ยอง-ฮุย น้องสาวคู่กับจางน้องเขย และ
คิมน้อยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน

กองทัพเกาหลีเหนือ ซึ่งมีกำลังพล 1.2 ล้านคน คิม จอง-อิล ให้ พล.อ.ต.รี ยอง-โฮ หนึ่งในคนสนิทใกล้ชิดไว้ใจได้ที่สุดควบคุม ปัจจุบันรีดำรงตำแหน่งประธานคณะเสนาธิการทหาร และรองประธานคณะกรรมาธิการกลางกองทัพ

หลังการเสียชีวิตของ คิม จอง-อิล กองทัพเกาหลีเหนือออกประกาศ พร้อมให้การสนับสนุน คิม จอง-อุน ว่าที่ผู้นำคนใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาณที่แหล่งข่าววงในปักกิ่ง-เปียงยาง และนักวิเคราะห์อีกจำนวนมากเชื่อว่า สถานการณ์เกาหลีเหนือมั่นคง ไม่มีแนวโน้มการก่อรัฐประหารยึดอำนาจ ตามที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้

สอดคล้องกับมุมมองของ สตีฟ เฮอร์แมน ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันของวิทยุเสียงอเมริกา ที่ประจำอยู่ที่เกาหลีใต้ได้ 20 เดือนแล้ว และมีประสบการณ์ทั่วเอเชียกว่า 20 ปี ซึ่งเชื่อว่า การปฏิวัติรัฐประหารไม่น่าจะเกิดขึ้น เหตุผลหลักคือบรรดาผู้นำในกองทัพเกาหลีเหนือ มีความสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวของ คิม จอง-อิล หลังจากคิมดำเนินนโยบาย ยกกองทัพให้อยู่ใน “สถานะพิเศษ” เพื่อแลกกับความจงรักภักดี

นโยบายที่ว่าคือ “ซอนกุน” คือ กองทัพต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด และคาดว่า คิมน้อยจะดำเนินนโยบายนี้ ตามรอยพ่อต่อไปเช่นกัน

เฮอร์แมน เผยอีกว่า จากการสอบถามหลายคนที่เคยพบและพูดคุยกับคิมน้อย ผู้นำคนใหม่โสมแดงพูดจานุ่มนวล มีลักษณะเป็นผู้ฟังที่ดี ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า คิมน้อยอาจมีความโหดร้ายซ่อนอยู่ใต้สีหน้าเรียบเฉยเหมือนคิมผู้พ่อ และพร้อมจะกำจัดนายทหารระดับสูงบางคนของกองทัพ ที่มองว่าทำตัวเป็นศัตรู และเพื่อดึงอำนาจมาไว้ในมือ เหมือนที่พ่อเคยทำตอนเข้ารับตำแหน่งผู้นำใหม่ ๆ.

สุพจน์ อุ้ยนอก

ไม่มีความคิดเห็น: