หน้าเว็บ

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ลาจาก "เดอแรม"

โดย : อนันต์ ลือประดิษฐ์
@กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


คุ้นชื่อเมือง เดอแรม (Durham) กันมั้ยครับ เมืองเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ


มีประชากรอาศัยอยู่กันเพียงไม่กี่หมื่นคนเท่านั้น กับสถาปัตยกรรมเก่าแก่อายุหลายร้อยปี



หลายท่านอาจรู้จักเมืองนี้อยู่บ้าง เพราะที่นี่ มีคนดังเกิดและเติบโตหลายคน อย่าง เทรเวอร์ ฮอร์น แห่ง อาร์ต ออฟ นอยส์ , เกม อาร์เชอร์ แห่งโอเอซิส ในสายดนตรี หรือจะเป็น โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งแม้จะเกิดที่เมืองเอดินเบอระห์ แต่เขาติดตามพ่อที่มาสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยที่นี่ จึงเติบโตและคุ้นเคยกับเมืองนี้เป็นอย่างดี


อีกทั้ง โรงเรียนคอริสเตอร์ ของที่นี่ ก็ถือเป็นสถาบันเก่าของหลายๆ คน นอกจาก โทนี แบลร์ แล้ว มิสเตอร์บีน หรือ โรแวน แอทคินสัน ก็เป็นศิษย์เก่าที่นี่ด้วยเช่นกัน


บางท่านที่เกิดและเติบโตมาในยุคซิกซ์ตีส์-เซเวนตีส์ อาจจะคุ้นเคยกับเพลง Durham Town (The Leavin') ซึ่งพลอยทำให้เมือง เดอแรม อยู่ในใจขึ้นมา ยามที่มีใครเอ่ยถึงชื่อๆ นี้ เพียงแต่เพลงนี้มันประหลาดอยู่สักหน่อยตรงเนื้อร้องที่ซ้ำไปซ้ำมา ราวกับจะสะกดจิตคนฟัง


"I've gotta leave ol' Durham town. I've gotta leave ol' Durham town. I've gotta leave ol' Durham town and that leavin's gonna get me down.


"Back in 1944, I remember Daddy walking out the door. Mama told me he was going to war, he was leaving. Leavin', leavin', leavin', leavin' me.


"Now I've gotta leave ol' Durham town, I've gotta leave ol Durham town. I've gotta leave ol' Durham town and that leavin's gonna get me down.


"When I was a boy, I spent my time sitting on the banks of the River Thyme. Watching all the ships going down the line. They were leavin'...leavin', leavin', leavin', leavin' me.."


น่าแปลกตรงคนที่แต่งเพลง Durham Town (The Leavin') กลับไม่ได้เกิดที่นี่ เพราะ โรเจอร์ วิทเทเกอร์ นักร้องนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ ดันเกิดที่ประเทศเคนยา หลังจากพ่อแม่ของเขาอพยพโยกย้ายไปทำฟาร์มอยู่ที่นั่น จนกระทั่งเมื่อมีโอกาสกลับมาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเวลส์ สายเลือดศิลปินที่สืบทอดมาจากคุณปู่และคุณพ่อ ทำให้วิทยาศาสตรบัณฑิตอย่าง โรเจอร์ หันมาเป็นนักร้องในที่สุด


แน่นอน โรเจอร์ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มศิลปินสายร็อค เหมือนนักร้องนักดนตรีอังกฤษคนอื่นๆ ร่วมยุคสมัยเดียวกัน แนวทางของเขาจึงค่อนข้างเชย เหมาะสำหรับแฟนเพลง สว. (สูงวัย) เพราะเน้นบทเพลงที่ฟังง่าย ดนตรีบรรเลงเนียนๆ แบบสบายหู และไม่มีดิสทอร์ชั่นมาสร้างความระคายเคือง


เช่นเดียวกับเสียงฟลุ้ทใสๆ จังหวะง่ายๆ กับเครื่องสายที่เป็นแบ็คกราวด์ ในเพลง Durham Town (The Leavin') เป็นซิงเกิลที่ออกในปี 1969 ไต่ขึ้นถึงอันดับ 12 ในยูเคชาร์ท นับว่าไม่เบาสำหรับศิลปินหน้าใหม่ในเวลานั้น ถัดจากนั้นอีก 7 ปีต่อมา เพลงนี้ยังกลับมาดังอีกครั้ง (รี-เอนทรี) ถึงอันดับ 23 ของยูเอสชาร์ทในกลุ่มชาร์ทเพลงเอซี ในสหรัฐอเมริกา


เนื้อหาของเพลง (หากจะมีอยู่บ้าง) พูดถึงการลาจากเมืองเดอแรม โดยบทเพลงสะท้อนถึงอิทธิพลของสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการระบุปี ค.ศ.1944 ที่พ่อไปรบในสงคราม มีการระบุถึงแม่น้ำไทน์ ซึ่งที่จริงน่าจะแม่น้ำแวร์มากกว่า นอกเหนือจากนั้น มิได้มีการระบุถึงสถานที่ที่เกี่ยวข้องในเมืองแต่อย่างใด


ครั้งหนึ่งในการให้สัมภาษณ์ทางรายการวิทยุ โรเจอร์ บอกว่า เดอแรม เป็นเมืองที่เขาปรารถนาจะเกิดที่นี่ แต่มิได้ระบุชัดเจนว่าทำไมเขาถึงหลงเสน่ห์เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสูงๆ ต่ำๆ เพราะประกอบด้วยเนินเขาถึง 7 เนินแห่งนี้ จนนำมาเขียนขึ้นเป็นเพลง


สำหรับนักเดินทาง เดอแรม เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมโบราณที่น่าศึกษา และส่วนใหญ่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิหารแห่งเดอแรม ที่ได้รับการขึ้นทำเนียบมรดกโลกของยูเนสโกเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ปราสาทเดอแรมที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันก็เป็นมหาวิทยาลัยเดอแรม จนทำให้ที่นี่มีบรรยากาศเป็นเมืองแห่งการศึกษาไปโดยปริยาย.

Song : Durham Town (The Leavin')
Composer : Roger Whittaker
Place : Durham City
Population : 29,091 (2001)
Country : England

ไม่มีความคิดเห็น: