หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

นั่งรถไฟไปฮอกไกโด

โดย : นิภาพร ทับหุ่น
@กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศในโลกที่ได้ชื่อว่า การคมนาคมแสนสะดวกสบาย โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถไฟที่มีความไวติดอันดับ Top 5 ของโลกอย่าง Shinkansen


Shinkansen มีความเร็ว 442.89 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น


แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจะมีแค่ Shinkansen ที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1964 เท่านั้นที่ชนะใจผู้ใช้บริการ รถไฟธรรมดาอย่าง Limited Express, Rapid Train หรือ Local Train ที่ให้บริการโดย การรถไฟของญี่ปุ่น หรือ JR Groups (Japan Railways Groups) ก็ถือว่าตรงเวลาและสะดวกไม่แพ้กัน แน่นอนว่า การเดินทางโดยรถไฟกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของคนญี่ปุ่นไปแล้ว



รถไฟญี่ปุ่นได้รับการพัฒนาให้เป็นคมนาคมหลักของประเทศ ทุกวันนี้มีเครือข่ายรถไฟครอบคลุมและเชื่อมต่อถึงกันแทบทุกพื้นที่ของญี่ปุ่น อย่างเกาะฮอกไกโดก็เชื่อมต่อกับเกาะฮอนชูของญี่ปุ่นด้วยอุโมงค์ใต้ทะเลเซคัง (Seiken Tunnel) ซึ่งสามารถนั่งรถไฟ JR ผ่านได้โดยใช้เวลาเพียง 23 นาที (ข่าวว่ากำลังมีการพัฒนาให้รถไฟ Shinkansen วิ่งผ่านด้วย)


การเดินทางโดยรถไฟ JR สะดวกสบายก็จริง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยากเดินทางโดยรถไฟอาจต้องถอยห่างไปเพราะสู้ราคาไม่ไหว การรถไฟของญี่ปุ่น จึงพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยออกบัตรโดยสารแบบเหมาจ่าย หรือ Japan Rail Pass หรือ JR Pass ให้กับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางเชื่อมต่อไปยังเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่น


ด้วยความใหญ่ของญี่ปุ่น ทำให้ JR Groups ต้องมีบริษัทลูกดูแลบริหารการรถไฟในพื้นที่ต่างๆ อย่างในเกาะฮอกไกโดก็มี JR Hokkaido เป็นผู้ดูแล ที่นี่มีตั๋วรถไฟแบบเหมาจ่ายให้บริการด้วยเช่นกัน แต่จะอยู่ในชื่อของ JR Hokkaido Rail Pass มีตั๋วนี้แล้วจะนั่งรถไฟขบวนไหน หรือไปต่อ JR Bus ที่ให้บริการจากบริษัทเดียวกัน ก็สามารถเดินทางได้อย่างไม่จำกัด ขอเพียงใช้บริการอยู่ในเกาะฮอกไกโดเป็นพอ


ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวฮอกไกโดแนะนำให้ใช้บริการ JR Hokkaido Rail Pass น่าจะสะดวกและประหยัดที่สุด จะซื้อจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเช่นบริษัททัวร์ไปก่อนก็ได้ หรือจะไปซื้อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในสถานีรถไฟที่อยู่ตามเมืองต่างๆ ของฮอกไกโดก็สะดวกพอๆ กัน แต่ถ้าใครนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบิน New Chitose ให้ลงไปที่ชั้น 1 จะมี JR Information Desk ให้บริการอยู่ พนักงานที่นี่น่ารัก สามารถให้บริการเป็นภาษาต่างๆ ได้ เช่น ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี แค่ยังไม่มีภาษาไทยเท่านั้น


สำหรับราคาตั๋วรถไฟแบบเหมาจ่าย จะแยกตามจำนวนวันและประเภทของรถไฟ เช่น ตั๋ว 3 วัน รถไฟธรรมดา (Ordinary Car) ราคา 15,000 เยน รถไฟเร็ว (Green Car) ราคา 21,500 เยน, ตั๋ว 5 วัน รถไฟธรรมดา (Ordinary Car) ราคา 19,500 เยน รถไฟเร็ว (Green Car) ราคา 27,000 เยน หรือตั๋ว 7 วัน รถไฟธรรมดา (Ordinary Car) ราคา 22,000 เยน รถไฟเร็ว (Green Car) ราคา 30,000 เยน หรือถ้าใครอยากวางโปรแกรมพิเศษเฉพาะตัวแบบไหนก็ลองปรึกษาพนักงานที่นั่นได้


เสน่ห์ของรถไฟคือความช้า ง่าย งาม จึงมีคนจำนวนไม่น้อยที่หลงรักการเดินทางรูปแบบนี้ คนญี่ปุ่นเองแม้จะมีวิถีที่ติดอยู่กับความรวดเร็ว แต่เมื่อได้ขึ้นรถไฟก็เหมือนชีวิตพวกเขาช้าลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเมื่อขึ้นรถไฟพวกเขาก็จะใช้ชีวิตเงียบๆ อยู่กับเบาะแคบๆ ของตัวเอง อาจจะเอาอาหารกล่อง (เบนโตะ) ขึ้นมาเปิดกิน หรืออ่านหนังสือเล่มเล็กๆ ไป แต่ที่น่ารักและสังเกตได้คือ ไม่มีชาวญี่ปุ่นคนไหนคุยโทรศัพท์หรือใช้สมาร์ทโฟนบนรถไฟเลย เพราะเขาถือว่านั่น เป็นพฤติกรรมสาธารณะที่ไร้มารยาท


เห็นแล้วมันน่านำมาปรับใช้กับการใช้พื้นที่สาธารณะของคนไทยบ้างจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น: