หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เมืองแห่ง MICE

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


เสียงกู่ร้องยินดีตามมาพร้อมเสียงชนแก้วในงาน Welcome Party ของการประชุม Jeju International Green MICE Week ครั้งที่ 3 ที่โรงแรม Jeju Grand Hotel บนเกาะเชจู


หลายเมืองของโลกมุ่งสู่ความเป็น MICE ศูนย์กลางการประชุมและนิทรรศการ เกาะเชจูก็เช่นกัน


การประชุม Green Mice Week ครั้งนี้ มีหลายประเทศได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเชิญเป็นคณะใหญ่ที่สุดของงานกว่า 20 ชีวิต นอกเหนือจากจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ฯลฯ ในจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 130 คน จากนานาประเทศ



MICE มาจากคำว่า Meeting,Incentive,Conference,และ Event เป็นอนาคตใหม่ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สร้าง High Valued ทางเศรษฐกิจซึ่งเกาหลีใต้พยายามผลักดัน


อุตสาหกรรม MICE ในเชจู เติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิด ศูนย์ประชุมนานาชาติเชจู (Jeju International Convention Center หรือ ICC Jeju) ซึ่งเป็นศูนย์จัดการประชุมนานาชาติที่สำคัญในปี 2546


นอกจากนี้ ยังมีอีก 24 โรงแรมและรีสอร์ทที่สามารถรองรับการจัดประชุมสัมมนา โดยมีห้องพักรวมกันบนเกาะเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 3 หมื่นห้อง มี 21 สายการบินระหว่างประเทศ และ 13 สายการบินภายในประเทศที่พร้อมจะนำผู้โดยสารกว่า 5 ล้านคน จาก 18 เมืองใหญ่ทั่วโลกมายังเชจู และ ท่าเรือ Cruise


สำหรับจุดเด่นของศูนย์ประชุมนานาชาติเชจู ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณสถานที่ตากอากาศชุงมุน นอกจากเป็นศูนย์ประชุมขนาดใหญ่รองรับได้ 4,300 คน ทั้งการจัดการประชุมทั่วๆ ไป การอบรม และคอนเสิร์ตแล้ว ที่นี่ยังมีทิวทัศน์ของมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่อยู่ด้านหน้า และภูเขาฮัลลาซันอยู่ด้านหลัง ศูนย์การประชุมมีทั้งหมด 7 ชั้น แบ่งเป็นชั้นใต้ดิน 2 ชั้น และชั้นบนอีก 5 ชั้น ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากบริเวณรายรอบเกาะเชจู ตัวอาคารกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม นอกจากจะจัดการประชุมและเทศกาลต่างๆ แล้ว ยังมีการจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ ตลอดปี


ยาง ยัง กึน ประธานองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะเชจู (Jeju Tourism Organization หรือ JTO) ซึ่งให้เกียรติต้อนรับคณะจากเมืองไทยด้วยตนเอง ให้ข้อมูลในภาพรวมของการเติบโตอุตสาหกรรม MICE ของเชจู ซึ่งก้าวกระโดดมาอยู่อันดับที่ 27 ของสถานที่จัดการประชุมระดับโลก ด้วยมีทำเลที่ตั้งซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถเชื่อมต่อกับมหานครใหญ่ๆ ของจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน โดยการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงจากเครื่องบิน


กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนและญี่ปุ่นเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเชจูมากที่สุด ขณะที่ตลาดไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตลาดที่เชจูมีนโยบายขยายตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ซึ่งมองว่ามีศักยภาพสูง


ปัจจุบัน ยอดนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะเชจูทะลุกว่าปีละ 8 ล้านคน นอกจากการได้รับประกาศให้เป็นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว ล่าสุดจากการติดอันดับ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งใหม่ของโลกทำให้การท่องเที่ยวที่นี่น่าจะยิ่งทวีความคึกคักขึ้นไปอีก โดยปี 2556 คาดว่าจะมียอดนักท่องเที่ยวทะลุ 10 ล้านคน


“มีนักกอล์ฟจำนวนมากที่เดินทางมาเล่นกอล์ฟที่เกาะเชจู ที่นี่เรามีสนามกอล์ฟมาตรฐาน 26 แห่ง มีกิจกรรมกีฬากลางแจ้งหลายอย่างรองรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีกาสิโนอีก 8 แห่ง และดิวตี้ฟรีชอปปิงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว”


ประธานการท่องเที่ยวเกาะเชจู มองว่า MICE จะเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโลก โดยเป้าหมายของเชจูไม่เพียงต้องการเป็นเพียงจุดหมายปลายทางหนึ่งของที่พักตากอากาศสำหรับ MICE แต่ต้องการมุ่งสู่การเป็นฮับของ MICE ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ จากพื้นฐานที่แข็งแกร่งของแหล่งท่องเที่ยวทรัพยากรทางธรรมชาติ กีฬากลางแจ้ง การล่องเรือ ชอปปิง และบันเทิง ด้วยแนวคิดการพัฒนาแบบ Creative innovation


“ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นมากมาย อากาศดี อาหารอร่อย เชจูอาจไม่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวอุดมสมบูรณ์เหมือนกับเมืองไทย สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเกาหลี ไอเดียจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะการแข่งขันในยุคนี้ซึ่งข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ครีเอฟทีไอเดียของเราจึงไม่ใช่แค่ชูจุดขาย MICE อย่างเดียวแต่ต้องบวกเรื่องธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นจุดแข็งที่เมือง MICE อื่นๆ ในโลกไม่มี” ไอเดียแมนของเกาะเชจูบอกเช่นนั้น สอดคล้องกับสโลแกนในงานประชุมที่บอกไว้ว่า Your Mice in Jeju, Beyond Your Imagination

ไม่มีความคิดเห็น: