หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

10 เหตุการณ์เด่น 'กีฬาไทย' ปี 2553

หลังเราได้ย้อนความจำเกี่ยวกับ เหตุการณ์เด่นที่ปะทุตลอดขึ้นทั้งปี 2010 ในโลกกีฬาต่างประเทศ กับ "10 เหตุการณ์เด่นกีฬาเทศปี 2010" ไปแล้ว ก็ถึงคราวที่เราจะกลับมาย้อนมองดูกีฬาภายในประเทศของเราเองว่า พุทธศักราช 2553 นั้นมีเรื่องไหนที่น่าสนใจ ควรค่าแก่การจดจำกันบ้าง



01.วิกฤติฟุตบอลทีมชาติไทย
แม้จะเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายปี แต่ความร้อนแรงน่าจะกลบเรื่องอื่นๆ ไปได้ไม่ยาก สำหรับวิกฤตศรัทธาฟุตบอลทีมชาติไทย จากผลงานตกต่ำร่วงรอบแรกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ จนนำมาสู่กระแสขับไล่ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ที่หนักหน่วงที่สุดเท่าที่นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คนใดเคยเผชิญมา



โดยกลุ่มแฟนบอลผู้ต่อต้านนายกลูกหนังไทย เกิดจากการก่อตัวรวมกันผ่านทางโลกอินเตอร์เน็ต ด้วยประเด็นวิพากษ์วิจารณ์การทำงานอันล้มเหลว โดยเฉพาะการที่ทีมชุดซูซูกิคัพ มีเวลาเตรียมตัวเพียงหนึ่งวัน นอกจากนี้เรื่องยังถูกเติมเชื้อเพลิงด้วยความคิดเห็นผ่านทางปลายปากกาของ คอลัมน์นิสต์กีฬาชื่อดัง ส่งผลให้กระแสบอลไทยสุดร้อนแรงนี้ อาจจะไม่หยุดอยู่เพียงปี 2553 เท่านั้น


02.สำเร็จ-ล้มเหลวเอเชียนเกมส์
ถือยังเป็นข้อสงสัยสำหรับผลงานของทัพนักกีฬาในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 "กวางโจวเกมส์" ว่าประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวกันแน่ เมื่อหลายสมาคมกีฬาทำผลงานได้เหนือความคาดหมาย ขณะบางสมาคมกีฬาก็ตกต่ำอย่างน่าใจหายเช่นกัน


แต่ที่ไม่ต้องสงสัยคือ เหล่าฮีโร่เหรียญทองที่ได้สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้ง ชาติ ไม่ว่าจะเป็นทีมนักเทควันโด, ทีมเรือใบ, ทีมตะกร้อ, ทีมวิ่งผลัดสาว รวมถึงพวกที่ไม่ได้เหรียญทอง แต่ผลงานน่าประทับใจอย่างทีมแบดมินตันสาว เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ผลงาน 13 เหรียญทอง ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า "ต่ำ" กว่าเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ในทีแรก และนั่นอาจหมายถึงคำถามที่ว่า วงการกีฬาบ้านเรากำลังหยุดนิ่ง หรือก้าวถอยหลังหรือไม่



03."ซูเปอร์บอล"ภราดร ศรีชาพันธ์ แขวนแร็คเกต
แม้จะไม่ได้ลงสนามโชว์ลีลาหวดแร็คเกตให้คนไทยได้ตามเชียร์เลยในระยะหลัง แต่เชื่อว่าทุกคนคงอดใจหายไปด้วยไม่ได้ เมื่อ "ซูเปอร์บอล"ภราดร ศรีชาพันธ์ นักเทนนิสระดับตำนานที่ดีที่สุดเท่าที่ไทยและเอเชียเคยมีมา ได้ประกาศรีไทร์อย่างเป็นทางการ ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศไทยแลนด์ โอเพ่น

เรียกว่าทุกสิ่งที่ ภราดร ได้ประทับตราลงบนหน้าวงการเทนนิสไทย ล้วนแต่เป็น "ปรากฏการณ์" ทั้งสิ้น และแน่นอนว่าการจากไปของอดีตนักหวดท็อปเทนของโลกคนนี้ ย่อมทิ้งรูโหว่มหาศาลให้กับวงการลูกสักหลาดไทย จนยากที่จะหาใครมาอุดรอยนี้ได้



04.ฟีม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ประสบอุบัติเหตุ
ขณะที่วงการมอเตอร์สปอร์ตไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น เมื่อเรามี "เจ้าฟีม" รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ โลดแล่นลงแข่งในเวทีระดับโลกอย่างโมโตทู แต่ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นปีที่น่าเศร้ากับการสูญเสีย คริสมาส วิไลโรจน์ นักบิดระดับตำนานไปด้วยโรคมะเร็ง ทิ้งไว้เพียงผลงานความสำเร็จมากมายเป็นอนุสรณ์ให้นักแข่งรุ่นหลังได้ระลึก ถึง

เท่านั้นไม่พอ หลังการสูญเสียของครอบครัว วิไลโรจน์ เพียงไม่กี่วัน "เจ้าฟีม" ก็มาประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ถึงขั้นสาหัสเล่นเอาแฟนๆ หายใจไม่ทั่วท้อง ได้แต่ภาวนาให้ศึกโมโตทูฤดูกาลหน้า จะยังคงมีนักบิดไทยหนึ่งเดียวคนนี้อยู่ในสนามระดับโลกต่อไป


05.เมืองทองฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก
ท่ามกลางกระแสตื่นตัวของฟุตบอลไทยที่ช่วยส่งให้ศึกไทยพรีเมียร์ลีก ขับเคี่ยวกันดุเดือดตามไปด้วย และทีมที่พิสูจน์แล้วว่าแข็งแกร่งทั้งผลงานในสนาม รวมถึงแรงสนับสนุนจากนอกสนามอย่าง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ก็สามารถเถลิงบัลลังก์แชมป์เป็นสมัยที่สองติดต่อกันไปได้ตามความคาดหมาย

ถึง แม้ปีนี้โฉมหน้าทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจาก ปีก่อน แต่ด้วยระบบการจัดการภายในสโมสรฟุตบอลที่ก้าวหน้าไปในทางความเป็นมืออาชีพ มากขึ้น อย่างที่เราสามารถเห็นได้ในทีม บุรีรัมย์-พีอีเอ, บางกอกกล๊าส เอฟซี หรือ อินทรี เพื่อนตำรวจ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าปีหน้า ขุนพล "กิเลนผยอง" จะไม่มีทางป้องกันแชมป์เป็นสมัยที่สามของตัวเองได้โดยง่ายอย่างแน่นอน


06.ฮูลิแกนการท่าเรือไทย เอฟซี ในฟุตบอลถ้วย ก.
ขณะที่ลีกฟุตบอลไทยกำลังโตวันโตขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องมามีรอยด่างพร้อยครั้งสำคัญในเหตุความวุ่นวายระหว่างเกม ฟุตบอลนัดชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. เมื่อสาวกทีม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี เปิดฉากไล่ทำร้ายกองเชียร์ของ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ซึ่งส่งผลให้มีทั้งแฟนบอลได้รับบาดเจ็บ และข้าวของเสียหายไปมากมาย

เหตุการณ์วุ่นวายดังกล่่าว ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างสมาคมฟุตบอล ถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัย ที่สุดท้ายแล้วยังถูกตอกย้ำถึงความผิดพลาดอีกครั้ง เมื่อแฟนบอลการท่าเรือเจ้าเดิม ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับแฟนบอลบางกอกกล๊าส เอฟซี ที่สนามลีโอ สเตเดียม คำถามคือ จะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้อีกสักกี่ครั้งกันถึงจะเพียงพอ?



07.อำลาอาลัย "มนุษย์ขาเหล็ก" ปรีดา จุลละมณฑล
เป็นข่าวเศร้าอีกครั้งของวงการกีฬาไทยในรอบปี กับการสูญเสีย ปรีดา จุลละมณฑล อดีตยอดนักปั่นน่องเหล็กที่เคยฝากผลงานสุดยอดคว้าได้ถึง 4 เหรียญทองจากเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพในปี 2509

คอกีฬารุ่นใหม่อาจจะไม่คุ้นหูชื่อของ ปรีดา จุลละมณฑล หรือ "มนุษย์ขาเหล็ก" มากนัก แต่แน่นอนว่าผลงานความยิ่งใหญ่ที่ท่านเคยทำไว้จะอยู่คู่กับวงการกีฬาไทยตลอด ไป เพื่อรอวันถูกเล่าขาน และให้นักจักรยานรุ่นหลังๆ ได้ดำเนินรอยตามต่อไป



08.นักกีฬาแบดมินตันประท้วงสมาคม
แม้อนาคตของทีมนักตบลูกขน ไก่ไทยจะดูสดใส จากที่มีดาวรุ่งถูกดันขึ้นมาแจ้งเกิดกันหลายคน แต่ก็กลับเป็นอีกหนึ่งสมาคมที่ไม่สามารถปัญหาหลุดพ้นความขัดแย้งระหว่าง นักกีฬากับผู้บริหารได้ โดยประเด็นที่เกิดขึ้นจากเรื่องสิทธิประโยชน์กลางของสมาคมฯ หรือ"ทีมคอนแทร็ค" ที่นักกีฬาซึ่งนำโดย "ซูเปอร์แมน" พลศักดิ์ บุญสนะ เห็นต่างว่าควรจะแยกกันเซ็นโดยอิสระมากกว่า ก่อนที่เรื่องดังกล่าวจะบานปลาย เมื่อมีการประท้วงถึงขั้นขู่เลิกเล่นทีมชาติเลยทีเดียว

แต่สุดท้าย เรื่องราวก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เมื่อทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาความกันได้ ก่อนที่แบดมินตัน จะกลายเป็นหนึ่งในกีฬาที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของไทยอีกหนึ่งกีฬาในปีนี้


09.เลือกตั้งนายกสมาคมบาสฯไม่โปร่งใส
ข่าวต่อมายังเป็นปัญหาการบริหารภายในสมาคมกีฬาเช่นเคย โดยเที่ยวนี้เป็นคราวของสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยที่มี นายสุเทพ เบญจโภคี นั่งครองเก้าอี้นายกสมาคมมาหลายสมัย แต่ภายหลังการเข้าตรวจสอบการเลือกตั้งโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ก็พบว่ามีการทุจริต หลายสโมสรที่ลงคะแนนเป็นเพียง"สโมสรผี" ส่งผลให้บอร์ดสมาคมดังกล่าวถูกโละยกชุดทันที


โดยปัญหาสโมสรผีของสมาคมบาสฯ ยังทำให้เกิดกระแสการตื่นตัวไปยังสมาคมอื่นๆ เมื่อมีการกำชับจาก กกท. ว่า จะโยงไปตรวจสอบในสมาคมอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการเปิดเผยของ "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่ากกท. ได้ยอมรับว่ามีหลายสมาคมที่ยังมีปัญหาในเรื่องนี้อยู่ และจะต้องดำเนินการจัดการขั้นเด็ดขาดโดยทันที


10.ตั้ง สมบัติ คุรุพันธ์ นั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงกีฬา
ข่าวสุดท้าย แม้อาจจะไม่ใช่ข่าวที่เรียกเสียงฮือฮา หรือเรียกความสนใจได้มากนัก แต่ถือเป็นหนึ่งในข่าวที่มีความสำคัญ และมีผลกระทบกับวงการกีฬาไทยอย่างมาก สำหรับการโยก นายสมบัติ คุรุพันธ์ มานั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา


โดย นายสมบัติ เคยสร้างผลงานในฐานะเจ้าโปรเจ็กต์ต่างๆ สมัยยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ หรือกรมพลศึกษา ไว้มากมาย ก็ต้องรอดูว่า วงการกีฬาไทยภายใต้ยุคของ "ปลัดสมบัติ" คนนี้จะเดินหน้าไปในทิศทางใดต่อไป.


ที่มา : ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น: