“บาหลี”ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

โดย : กาญจนา หงษ์ทอง
เที่ยวนี้ขอเล่า @คมชัดลึก

เข้มขลังสไตล์บาหลี

นักทัศนศึกษาโลกผู้ ปรารถนาจะเห็นเกาะอันสงบงามที่ทอดตัวอยู่ใต้เส้นศูนย์สูตร พวกเขาต่างมุ่งหน้าไปหาบาหลี เกาะสวรรค์ที่ได้ขึ้นชื่อว่ายังคงมีศรัทธาอันเข้มแข็งเอาไว้อวดชาวโลก เกาะเล็กๆ ของประเทศอินโดนีเซีย ที่วันนี้เนืองแน่นไปด้วยรอยเท้าของแขกเหรื่อจากทั่วมุมโลก 

สีสันของหน้ากาก

เดี๋ยวนี้คนไทยไปเที่ยวบาหลีง่ายและประหยัดขึ้น เพราะสายการบินแอร์เอเชีย (www.airasia.com) เขาบินไปกลับกรุงเทพฯ บาหลีทุกวัน แถมมีโปรโมชั่นตั๋วราคาถูกออกมาให้จองกันอยู่บ่อยๆ เครื่องใหม่ สภาพดี ที่นั่งก็สะดวกสบาย เดี๋ยวนี้มีบริการเลือกที่นั่งได้ก่อนด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการเช็กอินออนไลน์

ไปบาหลีหลายเที่ยวยังไม่เคยไปพักแถวหาดนูซา ดัวเลย ส่วนใหญ่ก็ไปพักแถวหาดคูต้าบ้าง แถวอูบุดบ้าง หรือไม่ก็หาดซานัวร์ แต่คราวนี้จะลงไปพักทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ ที่หาดนูซา ดัว ดูบ้าง เพราะที่พักที่จะใช้เอนหลังในครั้งนี้อยู่ที่คลับเมด (0-22530108) รีสอร์ทที่ตอนนี้เขาบอกว่าใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

จากสนามบินงูราห์ไรไปคลับเมดบาหลีที่หาดนูซา ดัว ถ้ารถไม่ติดใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง ก่อนจะออกไปตะลุยบาหลี เลยเดินสำรวจภายในคลับเมดบาหลี เขาว่าที่นี่มีดีไซน์การตกแต่งที่ทันสมัย แต่ก็ยังคงความโดดเด่นสไตล์บาหลีอยู่เหมือนเดิม

ริมชายหาดนูซาดัว

และจัดว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนที่ถูกแนะปากต่อปากว่า ควรไปพักให้ได้สักครั้ง เพราะจากความสงบเงียบ โอบล้อมด้วยธรรมชาติเขียวชอุ่ม หาดทรายที่ทอดยาวไปกับทะเลสีคราม ทำให้รู้สึกได้ถึงการได้พักผ่อนและเป็นส่วนตัว ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่มีให้เลือกเล่นได้ตามไลฟ์สไตล์ ทุกรูปแบบ คลับเมดเขาสรรหามาให้ได้สนุกสนานและผ่อนคลายรวมเอาไว้ในที่แห่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสทั้งวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของบาหลี การผจญภัย และการพักผ่อนแบบใหม่ๆ เสมือนรวมทั้ง 2 โลก ให้มาอยู่ที่นี่ที่เดียว

ริ้วขบวนไปทำบุญที่วัด

สนุกสนานกับการทำกิจกรรมในคลับอยู่นานสองนาน แต่พอออกมาตะลุยบาหลีก็เห็นอะไรหลายอย่างทั้งที่คงอยู่และเปลี่ยนไป

อย่างไม่อคติใดๆ ขนาดของเกาะเท่าเดิม แต่จำนวนรถคงเพิ่มขึ้นเยอะ รถราเลยติดหนึบกันแน่นถนน จะไปไหนมาไหนต้องเผื่อเวลาเอาไว้เยอะๆ แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ที่นี่ยังคงเป็นเกาะที่คนทั้งโลกอยากพารอยเท้ามาประทับกันทั้งนั้น

จากหาดนูซา ดัว ฉันเช่ารถไปตั้งต้นกันที่อูบุด เพราะหลายครั้งหลายคราที่เวียนไปเวียนมาบาหลี ทำให้รู้ใจตัวเองแล้วว่ามุมโปรดอยู่ที่อูบุด

ก็หวังว่าอูบุดจะเหมือนเดิม ยังคงเป็นมุมเล็กๆ อยู่ใจกลางเกาะที่เก๋ๆ ฮิพๆ วิธีเดียวที่จะรู้ว่าอูบุดเปลี่ยนไปหรือไม่ เลยเดินตั้งแต่หัวถนนยันท้ายถนนมังกี้ ฟอเรสท์

อาจจะมีโรงแรมหน้าใหม่ยิ้มรับ คาเฟ่หน้าตาไฉไลก็รู้สึกจะเยอะขึ้นกว่าเดิม แต่ที่เหมือนเดิมคือพวกข้าวของที่วางขายตลาด อูบุดตรงหัวมุมถนนยังแน่นขนัดไปด้วยสินค้าหัตถกรรม ผ้าบาติก เครื่องสาน เครื่องหนัง รองเท้าสาน กระเป๋า ตะกร้าเทนกานัน ผ้าซุมบ้า และพวกเครื่องหอม แต่เดินช็อปที่นี่อย่ามัวเดินดูข้าวของเพลินจนไปเหยียบกระทงเครื่องหมู่บูชา ของทางร้านเข้าล่ะ เพราะชาวบาหลีเขาจะวางกระทงไว้ตามทางเดินหน้าร้าน อย่างที่รู้กันว่า นอกจากชาวบาหลีจะปฏิบัติศาสนกิจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแล้ว ในตอนเช้าผู้คนจะนำดอกไม้ใส่กระทงน้อย เพื่อบูชาเทพเจ้าทางศาสนาฮินดู

โลตัสคาเฟ่

และที่อูบุดอีกเช่นเคย ที่ตอกย้ำให้เชื่อว่า ศิลปะกับบาหลีนั้นแยกกันไม่ออกเลยทีเดียว ความสัมพันธ์ระหว่างงานศิลปะกับความเป็นอยู่ของชาวบาหลี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและแทรกลึกอยู่ในทุกอณูของวิถีแห่งชาวเกาะ

นั่นจึงไม่น่าแปลก ที่ไม่ว่าเดินเหินไปตามซอกและมุมไหนก็จะเจอะเจองานศิลปะแขนงต่างๆ ไปเสียทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพเขียนอันวิจิตรอันงดงาม ผลงานสีน้ำมันและสีน้ำบนผืนผ้าหรือบนแผ่นกระดาษผลงานทางศิลปะของบาหลีถูก ถ่ายทอดมาจากรากลึกของวิถีชีวิตและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ มีให้เห็นทั้งสไตล์งานแบบเก่าๆ ที่สืบทอดกันมา ตลอดจนศิลปะร่วมสมัย

มีความสุขจริงๆ ที่ได้กลับมาเดินละเลียดชมผลงานศิลปะของชาวบาหลีที่วางโชว์อยู่ตามแกลเลอรี่ แถวอูบุด ไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอ เพราะอูบุดเป็นดงอาร์ตแกลเลอรี่เลย เรียกว่าหาง่ายยิ่งกว่าเซเว่นอีเลฟเว่นในบ้านเราซะอีก มีตั้งแต่ราคาหลักหมื่นรูเปียะห์ไปจนถึงหลักล้านรูเปียะห์ เลือกซื้อได้ตามกำลังทรัพย์ แล้วก็ไม่พลาด ได้ภาพเขียนหิ้วกลับบ้านสมใจนึก

ง่วนอยู่กับงานประจำ

เป็นความรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่ต้องบอกลาบาหลี ก็เชื่ออยู่เสมอว่า นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายในบาหลีแน่นอน น่ารักอย่างบาหลี ต้องเที่ยวแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงจะสาแก่ใจ