หน้าเว็บ

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

สเปอร์ส 1 - 4 อาร์เซน่อล [คาร์ลิ่งคัพ]

วันอังคารที่ 21 กันยายน 2553
ฟุตบอลคาร์ลิ่งคัพ รอบสาม
สนาม : ไวท์ ฮาร์ทเลน



เกมลอนดอนดาร์บี้ที่ไวท์ ฮาร์ทเลน สเปอร์สประเดิมใช้งานซานโดรกองกลางแซมบ้าลงบู๊เช่นเดียวกับนายประตูสติเป้ เปลติโกซ่า และสตีเว่น คัลเกอร์กองหลังวัย 18 ปีตามที่ได้รับการคาดหมาย

ด้านอาร์เซน่อลไม่มีอาร์แซน เวนเกอร์คุมทีมที่ข้างสนาม ต้องขึ้นไปดูเกมบนอัฒจันทร์หลังยอมรับโทษแบนหนึ่งเกมข้อหาจวกผู้ตัดสินในศึก พรีเมียร์ลีกที่เสมอกับซันเดอร์แลนด์ แพ็ท ไรซ์เจ้านายเบอร์สองจึงรับภาระตามระเบียบ


ในส่วนของการจัดวางขุมกำลัง โทมัส โรซิชกี้ที่ยิงลูกโทษพลาดในนัดเจ๊ากับแมวดำได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันโดยมีซา มีร์ นาสรี่ , เดนิลสัน , เอ็มมานเอล เอบูเอ้ และแจ็ค วิลเชียร์ร่วมบู๊ อีกทั้งมารูอาน ชามัคและอังเดร อาร์ชาวินมีชื่อเป็นตัวสำรองแสดงให้เห็นถึงการเอาจริงอย่างชัดเจน

หลังจากมีการยืนไว้อาลัยให้กับบ๊อบบี้ สมิธอดีตกองหน้าเจ้าบ้านในยุค 60 ที่ล่วงลับเมื่อวันเสาร์ เกมก็ออกสตาร์ตโดยทีมปืนใหญ่เริ่มเขี่ยบอล และผ่านมา 10 นาทีก็มีจังหวะปัญหาเมื่อเฮนรี่ ลันส์บิวรี่ลากบอลหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วถูกเบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ตามไปยกแขนกระแทกล้มจากด้านหลัง แต่ผู้ตัดสินเฉย ไม่เป่าให้เป็นลูกโทษของทีมเยือน

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 15 อาร์เซน่อลก็ต่อบอลขึ้นกราบซ้ายได้อันตรายโดยโรซิชกี้ไหลขึ้นไปที่สุดเส้น หลังให้วิลเชียร์ปาดไปหน้าประตูแล้วลันส์บิวรี่ปรี่เข้าฮอสสามหลาตุงตาข่าย โดยที่แผงหลังสเปอร์สไม่ทันระวัง จึงเป็นอันว่าท๊อปกันขึ้นนำ 1-0

เกมของอาร์เซน่อลยังไหลรื่นเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด และนาทีที่ 21 เจค ลิเวอร์มอร์ดาวเตะตราไก่ก็รับใบเหลืองในจังหวะรวบวิลเชียร์จากด้านหลัง

นาทีที่ 27 ทีมตราไก่ได้เสียวบ้างเมื่อโรมัน พาฟลิวเชนโก้กระชากบอลขึ้นกราบซ้ายแล้วโยกหลบโยฮัน ฌูรูหาจังหวะสับไกหน้าเขตโทษ แต่บอลเฉี่ยวเสาแรกออกไป

จากนั้นในนาทีที่ 38 พาฟลิวเชนโก้ก็เข้าสอยฌูรูจากด้านหลังจึงโดนจดชื่อจนได้ กระทั่งนาทีที่ 43 ไคล์ นอห์ตันกองหลังไก่ก็เข้าปะทะใส่โรซิชกี้ช้าเลยได้ใบเหลืองตามมาอีกราย จบครึ่งแรกท๊อตแน่มซึ่งเล่นได้แย่กว่าจึงตกเป็นฝ่ายตามหลัง 0-1

ครึ่งหลังสเปอร์สแก้เกมด้วยการเปลี่ยนร็อบบี้ คีนกับอาร่อน เลนน่อนลงไปแทนโจวานี่ โดส ซานโต้สกับลิเวอร์มอร์

และแค่สี่นาที นอห์ตันก็แทงบอลทะลุให้คีนหลุดเดี่ยวโดยล้ำหน้าชัดเจนเนื่องจากแผงหลังปืนโต เช็คเอาไว้แล้ว แต่ไลน์แมนพลาดไม่ยกธง กองหน้าไอริชจึงแปจาก 18 หลา แม้จะไม่รุนแรงแต่ลูคัส ฟาเบียนสกี้ปัดไม่หลุดปล่อยให้บอลทะลักเข้าสัมผัสตาข่ายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ของเจ้าถิ่น

หลังเสียหาย อาร์เซน่อลก็ต้องกลับมาเปิดเกมรุกกันใหม่ และกดดันทีมตราไก่ได้อย่างต่อเนื่อง ขาดก็แต่โอกาสสอยตาข่ายเท่านั้น

ในที่สุดนาทีที่ 73 ทีมปืนใหญ่ก็เปลี่ยนชามัคกับอาร์ชาวินลงไปแทนโรซิชกี้กับคาร์ลอส เวล่าโดยมีนาสรี่เป็นกัปตัน

ถึงกระนั้น อาคันตุกะก็เผด็จศึกเจ้าบ้านไม่สำเร็จ ครบ 90 นาทีเกมจึงจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ต้องบู๊กันต่ออีกครึ่งชั่วโมงเพื่อหาผู้ชนะ

เริ่มเขี่ยบอลกันใหม่ได้แค่ 30 วินาที อาร์เซน่อลก็ได้ลูกโทษเมื่อวิลเชียร์ตักบอลเข้าไปแล้วเซบาสเตียง บาสซงกัปตันไก่ใช้มือรั้งเอวนาสรี่ล้ม กองกลางฝรั่งเศสจึงลุกขึ้นมาสังหารเองตุงตาข่ายพาเดอะ กันเนอร์สนำอีกหน 2-1

เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 96 จากจังหวะที่อาร์ชาวินจ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ชามัคหลุดเข้าไป คาลเกอร์ก็ใช้แขนรั้งกองหน้าโมร็อคโกล้มเช่นกันจึงเป็นลูกโทษซ้ำสองตาม ระเบียบ และนาสรี่เปลี่ยนมุมยิงไม่พลาดทำให้อาร์เซน่อลนำห่าง 3-1

ถึงตรงนี้ เจ้าบ้านจำต้องส่งนิโก้ ครานชาร์ลงไปแทนซานโดร และเกือบพังประตูได้ในนาทีที่ 100 จากลูกที่นอห์ตันสาดบอลจากกราบขวามาเสาไกล แต่เดวิด เบนท์ลีย์ที่ยืนอยู่โล่งๆโถมโขกระยะหกหลาออกไปเอง

ผ่านมาอีกสองนาที ทีมเยือนจำต้องส่งกาแอล กลิชี่ลงไปแทนคีแรน กิ๊บส์ที่เดินกระเผลกออกไป

อย่างไรก็ดี นาทีที่ 105 อาร์ชาวินก็ได้บอลลากหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปกดตูมเสียบเสาไกลอย่างเด็ดขาดพาทีมปืนโตหนีเป็น 4-1

กระนั้นสเปอร์สยังไม่ยอมง่ายๆ พริบตาเดียวคีนก็ได้วอลเลย์ลูกเตะมุมเหน่งๆระยะ 10 หลา แต่ถูกนาสรี่เคลียร์จากเส้นประตูได้ จบ 15 นาทีแรกอาร์เซน่อลจึงนำ 4-1 โดยสาวกไก่ลุกจากที่นั่งกลับบ้านกันกลุ่มใหญ่

ช่วงที่เหลือ อาคันตุกะเล่นแบบครองบอลเอาไว้ ไม่เปิดโอกาสให้ทีมตราไก่ซึ่งออกจะถอดใจได้ทำอะไรถนัด จวบจนหมดเวลาเดอะ กันเนอร์สจึงผ่านเข้ารอบด้วยชัยชนะ 4-1

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ : สติเป้ เปลติโกซ่า - ไคล์ นอห์ตัน, เซบาสเตียง บาสซง, สตีเว่น เคาเกอร์, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ - เดวิด เบนท์ลี่ย์, เจค ลิเวอร์มอร์, วิลสัน ปาลาซิออส, ซานโดร รานิเอรี่ - โรมัน พาฟลิวเชนโก้, โจวานี่ โดส ซานโต๊ส

สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่ (ผู้รักษาประตู), อลัน ฮัตตัน, ทอม ฮัดเดิลสตัน, อารอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนาส, ร็อบบี้ คีน

อาร์เซน่อล: ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โลร็องต์ กอสซิเอลนี่, โยฮัน ฌูรู, คีแรน กิ๊บส์ - เฮนรี่ ลันส์บิวรี่, เนเวส เดนิลสัน, แจ็ค วิลเชียร์, ซามีร์ นาสรี่ - โทมัส โรซิคกี้, คาร์ลอส เวล่า

สำรอง : มานูเอล อัลมูเนีย (ผู้รักษาประตู), บาการี่ ซาญ่า, กาแอล กลิชี่, อังเดร อาร์ชาวิน, มารูอาน ชามัค, เคร็ก อีสต์มอนด์


ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต


สรุปผลฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบสาม
- เบอร์มิงแฮม ชนะ เอ็มเค ดอนส์ 3-1
- เบรนท์ฟอร์ด เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (ต่อเวลาพิเศษ เสมอ 1-1 เบรนท์ฟอร์ด ชนะจุดโทษ 4-3)
- เบิร์นลี่ย์ ชนะ โบลตัน 1-0
- มิลล์วอลล์ แพ้ อิปสวิช 1-2
- ปีเตอร์โบโร่ แพ้ สวอนซี 1-3
- พอร์ทสมัธ แพ้ เลสเตอร์ 1-2
- สโต๊ค ชนะ ฟูแล่ม 2-0
- ซันเดอร์แลนด์ แพ้ เวสต์แฮม 1-2
- สเปอร์ส เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 (ต่อเวลาพิเศษ อาร์เซน่อล ชนะ 4-1)
- วูล์ฟแฮมป์ตัน เสมอ น็อตต์ เคาน์ตี้ 1-1 (ต่อเวลาพิเศษ วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ 4-2)

ที่มา : สยามสปอร์ต
----------------------------------------
นัดนี้เวนเกอร์ไม่ได้คุมข้างสนาม เพราะสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ตั้งข้อหาประพฤติตัวไม่เหมาะสมในเกมเสมอซันเดอร์แลนด์ เนื่องจาก เวนเกอร์ไม่พอใจผู้ตัดสินมาร์ติน แอตกินสันที่ทดเจ็บเกินจนถูกดาร์เรน เบนท์ ตีเสมอ  .... โทษที่โดนคือการแบนข้างสนามหนึ่งนัดและปรับเงินราว 8,000 ปอนด์

นาสรี่ก็ยิงลูกโทษได้ดีนี่ คราวก่อนทำไมต้องให้โรซิกกี้ยิงแทนด้วย -_-"

ไม่มีความคิดเห็น: