หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

เบอร์มิงแฮม 0 -3 อาร์เซน่อล

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2554
สนาม : เซนต์ แอนดรูว์ส


คู่สุดท้ายของวันขึ้นปีใหม่ เบอร์มิ่งแฮมเปิดรังเซนต์ แอนดรูว์สปะทะกับอาร์เซน่อลโดยใช้งานขุนพลชุดเดิมที่เฝ้าบ้านเจ๊ากับแมนฯ ยูไนเต็ด 1-1

ฝ่ายทีมปืนใหญ่โรเตชั่นนักเตะแปดรายจากนัดเสมอกับวีแกน 2-2 อันเป็น 11 ผู้เล่นชุดขยี้เชลซี 3-1 เป๊ะโดยได้เชส ฟาเบรกาสคืนมาหลังชดใช้โทษแบนหนึ่งเกมจากการสะสมใบ เหลืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เริ่มบู๊กันมาได้แค่ 8 นาที โรเจอร์ จอห์นสันก็ได้ใบเหลืองตั้งแต่หัววันโทษฐานเปิดปุ่มยันใส่หน้าแข้งฟาเบรกา สน่าเกลียด ยังดีที่กองกลางสแปนิชลุกขึ้นมาเล่นต่อได้

ถัดมาในนาทีที่ 11 ผู้ตัดสินก็เป่าให้ทีมเยือนได้ลูกฟรีคิกสองจังหวะในกรอบเขตโทษเมื่อเบน ฟอสเตอร์ใช้มือรับบอลที่สก็อตต์ แดนน์ส่งคืนหลัง และจากการเขี่ยเปลี่ยนจุด โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ก็วิ่งเข้าแประยะ 17 หลาถูกฟอสเตอร์ทิ้งตัวตะครุบได้

อย่างไรก็ดี อีกสองนาทีต่อมาแดนน์วิ่งไล่กวดตามไปดึงฟาน เพอร์ซี่ล้มจึงเสียลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านขวา และฟาน เพอร์ซี่ลุกขึ้นมาเข่นเองจาก 20 หลาแฉลบลี โบวเยอร์ที่ยืน เป็นกำแพงทำให้บอลหลุดเข้าปะทะตาข่ายที่เสาแรก จึงเป็นอันว่าเดอะ กันเนอร์สนำหน้า 1-0

ทีมตราลูกโลกเปิดเกมรุกทันทีหลังเสียความบริสุทธิ์ และเกือบได้เฮในนาทีที่ 17 จากจังหวะที่ฟาเบรกาสทำฟาวล์เคร็ก การ์ดเนอร์พร้อมเสียลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา และเป็นเซบา สเตียน ลาร์สสันอดีตขุนพลอาร์เซน่อลที่วิ่งเข้าปั่นเกือบเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ลูคัซ ฟาเบียนสกี้โชว์ฟอร์มหนึบบินไปปัดได้เยี่ยม

เกมของเบอร์มิงแฮมเริ่มน่ากลัวมากขึ้นทุกที แต่นาทีที่ 29 เลียม ริดจ์เวลล์กองหลังเจ้าบ้านมารับใบเหลืองไปอีกรายในจังหวะทำฟาวล์ธีโอ วัลค็อตต์

ถัดมาในนาทีที่ 34 โยฮัน ฌูรูกองหลังอาร์เซน่อลไปขวางทางวิ่งเข้าหาบอลของคาเมร่อน เจอโรมทำให้ได้ใบเหลือง

ทีมเยือนน่าจะหนีไปอีกเม็ดในนาทีที่ 36 เมื่อฟาเบรกาสเลื้อยขึ้นทางซ้ายแล้วป้ายเข้ากลางให้ซามีร์ นาสรี่แทงเข้าเขตโทษโดยฟาน เพอร์ซี่หลุดเดี่ยว แต่กองหน้าดัตช์ทำเสียของชิพบอลจากแปดหลาแป๊กทำให้ฟอสเตอร์รับสบาย

จากนั้นอีกนาทีเดียว ทีมตราลูกโลกก็ได้ลูกฟรีคิกแถวกลางสนามจึงวางยาวเข้าเขตโทษโดยเจอโรมโขกต่อ ไปหน้าปากประตู แต่จอห์นสันปราดเข้าซัดระยะหกหลาโด่งข้ามคาน

ท้ายครึ่งแรก ทีมเยือนกลับมากดดันเจ้าบ้านเป็นระลอก แต่ก็ได้แค่เสียว ครบ 45 นาทีท๊อปกันจึงนำหน้า 1-0

เปิดครึ่งหลังมาเป็น เบอร์มิ่งแฮม ที่ดูคึกคักกว่าเมื่อเปิดเกมรุกเข้าใส่ อาร์เซน่อล หมายจะตีเสมอให้ได้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ถนัด

แต่ก็เกือบเป็น อาร์เซน่อล ที่เกือบได้ประตูที่สองในนาทีที่ 53 เมื่อ ธีโอ วัลคอตต์ ได้บอลทางด้านขวาก่อนเลี้ยงไปถึงสุดเส้นหลัง แล้วโยนยาวไปที่เสาสองถึง ซามีร์ นาสรี่ แต่ นาสรี่ ไม่ยิงกลับแตะให้ แจ็ค วิลเชียร์ ยิงแต่ วิลเชียร์ ดันยิงไม่ดีบอลข้ามคานออกไป

ถัดมาไม่ถึงนาที นาสรี่ ก็พลาดทำประตูที่สองอีกครั้ง เมื่อหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เบน ฟอสเตอร์ แต่ นาสรี่ ตัดสินใจไม่ดี เมื่อจังหวะยิงบอลไปติดมือ เบน ฟอสเตอร์ พลาดโอกาสทองไปอีกครั้ง

คราวนี้ไม่พลาดแล้ว นาทีที 58 อาร์เซน่อล ก็มาได้ประตูที่สองหนีห่างออกไป เมื่อ เชส ฟาเบรกาส ได้บอลบริเวณกลางสนาม ก่อนพาบอลขึ้นไปข้างหน้าแล้วจ่ายให้ นาสรี่ ทำชิ่งกันสองครั้ง บอลาอยู่ที่ นาสรี่ เลี้ยงจี้เข้าไปหน้าประตูก๋อนหลอกว่าจะจ่ายแล้วยิงยัดเข้าไปที่เสาหนึ่ง ทันที หมดสิทธิ์เซฟสำหรับ เบน ฟอสเตอร์ อาร์เซน่อลหนีไปแล้วเป็น 2-0

ไปกันใหญ่เมื่อ อาร์เซน่อล มาได้ประตูที่สามทิ้งห่างออกไปอีก เมื่อ เชส ฟาเบรกาส ครองบอลตรงมุมกรอบเขตโทษก่อนจ่ายให้ นาสรี่ แล้ววิ่งไปรับบอลคืน ก่อนจ่ายกลับให้ นาสรี่ ที่วิ่งอ้อมหลังมายิงยัดเข้าไปเต็มข้อ แต่ เบน ฟอสเตอร์ เซฟเอาไว้ได้แต่ด้วยความแรงของบอลทำให้ บอลกระเด็นไปโดน สกอตต์ แดนน์ ก่อนกระเด็นไปโดน โรเจอร์ จอห์นสัน เข้าประตูตัวเองไปทำให้อาร์เซน่อลทิ้งห่างไป 3-0 ในนาทีที่ 65

นาทีที่ 79 อาร์เซน เวนเกอร์ เริ่มเก็บนักเตะเพื่อรักษาความสด โดยส่ง เดนิสสัน กับ อังเดร อาร์ชาวิน ลงมาแทน แจ็ค วิลเชียร์ กับ ธีโอ วัลค็อตต์ ส่วน เบอร์มิ่งแฮม ก็ส่ง ศูนย์หน้าจอมเก๋า อย่าง เควิน ฟิลลิปส์ ลงมาแทน คาเมรอน เจอโรม

ก่อนหมดเวลา 10 นาที อาร์เซน่อล ก็ยังไม่ผ่อนเกมและก็ยังหวังจะยิงเพิ่ม คราวนี้เป็น อังเดร อาร์ชาวิน ตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงมาได้ซัดเต็มข้อด้วยขวาบอลพุ่งเรียดเข้าเสาหนึ่ง แต่ เบน ฟอสเตอร์ ก็ล้มตัวปัดเอาไว้ได้

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบอร์มิ่งแฮม เกือบตีไข่แตกได้ เมื่อ นิโกล่า ซิกิซ ได้โหม่ง บอลย้อยไปชนคานก่อน กาแอล กลิชี่ จะเคลียร์ออกไปได้

จบเกม อาร์เซน่อล บุกมาพิชิต เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ถึงถิ่น 3-0 ขั้นไปรั้งอันดับ 3 โดยมี 39 ตามหลัง แมนฯยูฯ จ่าฝูง 2 แต้ม แต่แข่งมากกว่า แมนฯยูฯ 1 นัด ส่วน เบอร์มิ่งแฮม หล่นไปอยู่รองบ๊วยมีแต้มมากกว่า วูล์ฟส์ ทีมบ๊วยแค่ 1 แต้มเท่านั้น


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ : เบน ฟอสเตอร์, สกอตต์ แดนน์, โรเจอร์ จอห์นสัน, เลียม ริดจ์เวลล์, สตีเฟ่น คาร์, ลี โบวเยอร์ (นิโกล่า ซิกิซ น.69), แบร์รี่ เฟอร์กูสัน, ฌอน โบเซชูร์ (อเล็กซานเดอร์ คเล็บ น.59), เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คาเมรอน เจอโรม (เควิน ฟิลลิปส์ น.79), เคร็ก การ์ดเนอร์

สำรองไม่ได้ใช้ : ไมค์ เทย์เลอร์, มาร์ติน จิราเน็ค, คีธ ฟาฮีย์, แมตต์ ดาร์บี้เชียร์

อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซาญ่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โยฮัน ฌูรู, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, แจ็ค วิลเชียร์ (เดนิสสัน น.79), ธีโอ วัลค็อตต์ (อังเดร อาร์ชาวิน น.79), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ซามีร์ นาสรี่

สำรองไม่ได้ใช้ : วอจเซียค เซคเซสนี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โทมัส โรซิชกี้, เซบาสเตียง สกิลลาชี่, นิคลาส เบนท์เนอร์

ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ วอลตัน

ที่มา : สยามสปอร์ต

ไม่มีความคิดเห็น: