หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

ซอกแซกเมืองเก่าในดินแดนฝอยทอง

เมืองเก่าก็เป็นเมือง เก่าอยู่วันยังค่ำ มีแต่ความเก่า ขลัง คลาสสิก โบราณ วางตัวอยู่อย่างนิ่งขรึม เมืองเก่าของลิสบอนก็เหมือนกัน ไล่ไปตั้งแต่ย่านไบชา-ชิอาโด ไบโร-อัลโต รอสซิโอ และอัลฟามา จิ๋วแต่แจ๋วและคุณภาพคับแก้ว

ก่อนจะออกท่องเมืองเก่า คลิกไปสำรวจเว็บไซต์อโกดา (www.agoda.co.th) อีกรอบ เพื่อเตรียมจองโรงแรมของเมืองปอร์โต เขาว่านักท่องเที่ยวแห่แหนไปเที่ยวที่นั่น ขืนไม่จองก่อนอาจไม่มีที่ซุกหัวนอนได้ แต่อโกดาก็ช่วยให้เรื่องยากกลายเป็นง่ายได้เสมอ


ทั่วทั้งเมืองเก่าอาจจะมีคาเฟ่ให้นั่งแฮงก์เอาท์หลายแห่ง แต่มีอยู่แห่งหนึ่งที่เนื้อหอมมาก เก้าอี้ไม่เคยว่าง ชื่อร้าน Caf? Brasileira ร้านนี้ไม่ได้แค่มีกาแฟรสชาติดีหรือทาร์ตอร่อยๆ แต่มีอีกอย่างที่เหนี่ยวให้คนเข้าร้านได้ทั้งวัน นั่นคือกวีชื่อดังของชาวโปรตุเกสที่ชื่อเฟอร์นานโด เปสเซา เพราะที่นี่คือแหล่งนัดพบของพวกนักเขียน และศิลปินทุกแขนง

เดินจากย่านไบชา-ชิอาโดไปตามตรอกแคบๆ เพื่อที่จะไปแถวจัตุรัสรอสซิโอ ก็จะพบว่ามีร้านรวงดักสาวนักช็อปซ่อนอยู่ตลอดทาง แต่ที่จัตุรัสรอสซิโอเองก็คึกคักสมกับอยู่ใจกลางเมืองเก่ารอสซิโอเป็นแค่ ชื่อเล่น ที่จริงจัตุรัสนี้มีชื่อจริงๆ ว่าจัตุรัสดอม เพโดรตามชื่อของกษัตริย์

ตรงกันข้ามจัตุรัสเป็นโรงละครแห่งชาติ ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก สมัยก่อนที่นี่เคยใช้เป็นศูนย์บัญชาการสอบสวนผู้กระทำผิดทางศาสนา เดินเยื้องไปนิดเป็นสถานีรถไฟรอสซิโอที่สวยงามผิดสถานีรถไฟ ใกล้ๆ กันยังมีจัตุรัสฟิกูเกราซึ่งมีอนุสาวรีย์ของกษัตริย์จอห์นที่หนึ่ง นั่งบนหลังม้าในท่วงท่าอาจหาญ

กำลังจะเดินไปย่านอัลฟามา เห็นคนต่อคิวยาวเลยแวะเข้าไปดู ที่แท้เขารอคิวขึ้นลิฟต์ซานตา จัสตา เพื่อขึ้นไปชมวิวเมืองเก่าลิสบอนกัน จะว่าไปลิฟต์เหล็กนี้หน้าตาละม้ายคล้ายหอไอเฟล สืบเสาะไปมาก็พบว่าคนที่ออกแบบเนี่ยเขาเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของกุสตาฟ ไอเฟล คนออกแบบหอไอเฟลนั่นเอง

ก่อนจะถึงย่านอัลฟามา ผ่านถนนสายช็อปปิ้งอีกแห่งหนึ่งของเมืองเก่า กว่าจะถึงย่านอัลฟามาเลยเดินสำรวจแฟชั่นและอาหารการกินของเขาซะเพลินไปเลย แต่จนแล้วจนรอดก็มาถึงย่านอัลฟามาจนได้ เป็นย่านที่ไม่ได้มีแสงสี หรือมีคาเฟ่ที่คึกคักรอทุกคนอยู่ แต่ที่นี่มุมเงียบสงบและเก่าแก่ของลิสบอน ว่ากันว่าถ้าอยากเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลิสบอนแบบดั้งเดิม ให้มาเดินเตร็ดเตร่แถวนี้รับรองไม่ผิดหวัง

แต่ไม่ว่าจะซอกแซกไปตรงไหนของเมืองเก่าทาร์ตไข่ก็จะตามไปด้วยทุกที่ จำได้ว่าตอนที่ไปบราซิลเห็นทาร์ตไข่หน้าตาเหมือนที่เจอที่โปรตุเกสนี่แหละ แต่ไม่ได้ชิม มีโอกาสชิมก็ที่มาเก๊า แต่เขาบอกว่านอกจากที่บราซิล และมาเก๊า ถ้าไปแถวประเทศแองโกลาและโมซัมบิกก็มีทาร์ตหน้าตาแบบนี้ขายอยู่เหมือนกัน เพราะล้วนแต่เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวดองกับโปรตุเกสทั้งสิ้น

ไม่น่าเชื่อ ไปสืบประวัติทาร์ตไข่มา เขาบอกว่าทาร์ตไข่ตัดสายสะดือครั้งแรกบนโลกในวิหารเจอโรนิโม ตอนนั้นโปรตุเกสเพิ่งร้างราจากภาวะสงคราม ยังยากจนข้นแค้นอยู่ บรรดาแม่ชีก็เลยอบขนมทาร์ตไข่ขึ้นเพื่อหารายได้ จนต่อมามีพ่อค้านำสูตรไปทำและเปิดร้านอยู่แถวเบเลม จนทาร์ตไข่หน้าเกรียมๆ กลายเป็นของกินประจำโปรตุเกสที่มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก

เรื่องขนมนมเนยของโปรตุเกสเนี่ย เรียกว่าเป็นภาระให้ต้องตามรอยกันเลยล่ะ เพราะเป็นอันรู้กันว่าโปรตุเกสเป็นผู้เข้ามาถ่ายทอดวิทยายุทธ์การทำขนมหวาน ให้บ้านเรา เลยมีขนมไทยอย่างพวก ทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทองเอาไว้ให้เราได้บริโภคกันอย่างทุกวันนี้ แล้วความพยายามในการตามล่าหาฝอยทองบนแผ่นดินโปรตุเกสก็สิ้นสุดลงในห้างแถวไบ ชา-ชิอาโดนี่เอง

จากย่านเมืองเก่าอยากชมวิวลิสบอนในมุมสูง สตาฟฟ์ที่เรือนพักชี้แนะให้ไปที่ปราสาทเซนต์จอร์จ เลยเดินเลาะเลี้ยวแถวย่านเมืองเก่าไปเรื่อย โผล่มาอีกที อ้าวไม่ใช่ปราสาท แต่เป็นโบสถ์ประจำเมืองลิสบอนที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 โบสถ์ที่นี่เขาเรียกว่า เซ่ (Se) อาจจะไม่ใหญ่โตอลังการเหมือนโบสถ์แห่งอื่นๆ ในยุโรป แต่ก็ถือว่าเป็นศาสนสถานที่ชาวเมืองแวะเวียนกันมาแทบทุกวัน

จากโบสถ์ประจำเมืองเดินไต่ถนนแคบๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ถึงปราสาทเซนต์จอร์จจนได้ ที่จริงก่อนจะขึ้นมาถึงบนนี้ ต้องบอกว่า ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมืองก็จะมองเห็นปราสาทแห่งนี้ได้อย่างไม่ยาก เพราะตัวปราสาทสร้างอยู่บนเนินเขาสูง เป็นธรรมชาติของเมืองสมัยก่อน ต้องสร้างปราสาทราชวังไว้บนที่สูงเอาไว้ก่อน เวลาศัตรูบุกมาจะได้สังเกตเห็นได้ก่อน

สมอยาก ขึ้นมาบนนี้นอกจากจะเห็นบ้านเมืองของชาวลิสบอนได้อย่างทั่วถึงแล้ว ยังมีลมเย็นจากมหาสมุทรแอตแลนติกพัดโชยมาต้อนรับขับสู้ด้วย บนป้อมปราการแห่งนี้ช่างมากมายไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ผ่านศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งโรมัน มุสลิม และคริสเตียนพากันหมุนเวียนสับเปลี่ยนเข้ามาครอบครอง ปัจจุบันป้อมนี้อาจจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้ แต่มาถึงลิสบอนทั้งที ก็ขึ้นมาเถอะเพราะนี่คือหนึ่งในจุดชมวิวระดับห้าดาวของเมือง

จะซอกแซกไปตรงไหนของลิสบอนก็ช่าง แต่อย่าลืมหาทาร์ตไข่ลำเลียงลงกระเพาะละกัน ถ้าพลาด เดี๋ยวจะไม่ถึงลิสบอน







โดย : กาญจนา หงษ์ทอง
เที่ยวนี้ขอเล่า @คมชัดลึก

ไม่มีความคิดเห็น: