หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

ต่อลมหายใจให้โลก !

เมื่อ "เขียวแท้" ครองโลก

เคยสงสัยบ้างไหมว่า ในเมื่อโลกร้อนฉ่า ลานิญาพาน้ำมาหา เอลนิโญพาความแห้งผากมาเยือน แล้วเรา ๆ จะใช้ชีวิตกันอย่างไร


ชีวิตที่ต้องเผชิญกับความจริงที่เราต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับธรรมชาติที่แปรเปลี่ยน

ใน เว็บไซต์ www.beauregarddailynews.net วิเคราะห์แนวโน้มผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ไว้อย่างน่าสนใจ 5 ประการ โดยเฉพาะการบริโภคเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่มาแรงมากขึ้นในปีนี้ ซึ่งแม้จะเป็นการวิเคราะห์ผ่านสังคมอเมริกัน แต่เชื่อว่าอีกไม่กี่อึดใจเราจะได้เห็นกันจะจะ

1.รู้จักฉลาดบริโภค (สินค้ากรีน)

ไว้เป็นการดี (Sawy green consumers) ...เดี๋ยวนี้มีบริษัทมากมายที่แปะป้ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทตนว่ามี "สีเขียว"

ไล่ มาตั้งแต่บริษัทจัดนัดเดตยันอาหารแมว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขียวจริงเขียวเล่น แต่อย่างไรก็ตามในยุคสมัยนี้ผู้บริโภคฉลาดพอที่จะเลือกพิจารณาดูว่าสินค้า จากบริษัทใดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริง ๆ แม้แต่ฝั่งรัฐก็เข้ามาช่วย อย่างหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาที่ชื่อ Federal Trade Commission ได้จัดทำคู่มือเพื่อที่จะสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนว่า บริษัทใดที่ผลิตสินค้า "ฟอกเขียว" ที่ไม่ได้เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมแต่บิดเบือนข้อมูลของสินค้าและกระบวนการ ผลิตสินค้าว่ามีความเขียว

สำหรับผู้บริโภคแล้ว แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อ แต่อย่างน้อยที่สุด การอ่านฉลากเพื่อดูส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์พร้อมกับพิจารณาว่า สินค้านั้นมีข้อความโฆษณาที่คลุมเครือมากแค่ไหน ก็พอจะช่วยได้บ้าง

2.ใช้ ผลิตภัณฑ์ดูแลระบบนิเวศที่เหนือกว่าแบบเดิม ๆ (Eco-superior)...เป็นแนวโน้มของการใส่ใจสภาพแวดล้อมเหนือชั้นขั้นเทพกว่า ที่เคย หมายถึงว่าเราจะสนใจแค่ว่า สินค้าชิ้นนั้นมีความ "เขียว" เพียงเท่านั้น

ไม่ได้ แต่เราต้องใส่ใจด้วยว่า สินค้าที่ว่าเขียว กระบวนการผลิตเขียวตามไปด้วยหรือไม่ (อย่างเช่น ผลิตในโรงงานที่ไม่ทำลาย

สิ่ง แวดล้อม หรือมีการจ่ายชดเชยในกรณีที่ทำให้สิ่งแวดล้อมรอบข้างเสื่อมโทรม) และเมื่อผลิตสินค้าออกมาแล้ว สินค้าที่ผลิตมีรูปทรงหรือฟังก์ชั่นการทำงานที่เป็นมิตรกับ

สิ่งแวด ล้อมหรือไม่ ? อย่างเช่น แม้ว่าเราจะซื้อเครื่องล้างจานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่กลับทำให้ต้องเปลืองน้ำจากการล้างจานโดยใช้เครื่องนี้ ก็ต้องเลือกที่จะไม่ใช้นะ

3.การทำฟาร์มในเมืองจะกลายเป็นเทรนด์กระแสหลัก...ถ้าพูดถึงเรื่องการกิน

สี เขียว ตอนนี้เขาเน้นการทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งมาก และอยู่ไม่ไกลจากท้องถิ่นของตัวเอง เพราะพวกอาหารบรรจุกระป๋องเสียพลังงานในการผลิตไปมาก ทำให้คนเลือกที่จะเลี้ยงสัตว์หรือปลูกผักที่สวนหลังบ้านกันไป


4.ศูนย์ เก็บข้อมูลสีเขียว...ทำเป็นเล่นไป ในตอนนี้อุตสาหกรรมไอทีมีส่วนในการปล่อยคาร์บอนทั่วโลกถึง 2% เทรนด์สีเขียวในปีหน้าที่สำคัญอีกเทรนด์หนึ่งจึงกลายเป็นเทรนด์การเก็บ ข้อมูลแบบประหยัดพลังงาน โดยการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ลงในอินเทอร์เน็ตหรือที่เขาเรียกว่า cloud computing ผ่านอีเมล์ หรือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ อย่างเช่น แทนที่จะเก็บรูปลงในคอมพิวเตอร์ของเราหรือศูนย์ข้อมูลที่ออฟฟิศ แต่เปลี่ยนเป็นอัพรูปลงในเฟซบุ๊ก หรือเว็บไซต์เก็บข้อมูลอย่างเช่น 4Shared จะใช้เมื่อไหร่ค่อยมาโหลด เพียงเท่านี้ก็สามารถประหยัดพลังงานได้มากมายแล้ว


5.ซื้อ ของที่มีคุณภาพที่สามารถจะอยู่ได้นาน ๆ...ก่อนหน้านี้ของราคาถูก ออกแบบมาให้ใช้แล้วทิ้ง กลายเป็นของที่ผู้คนนิยมใช้ แต่เทรนด์ในตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะว่าผู้บริโภคเริ่มหันมาใส่ใจกับมลพิษที่เกิดจากการผลิตของที่มีอายุ สั้น จึงเปลี่ยนมาใช้ของที่มีอายุการใช้งานนานกว่า แม้ว่าจะมีราคาแพงก็ตาม


สิ่งที่อาจต้องเจอในปีกระต่าย !

แน่ล่ะ เมื่อเรารู้ว่า เราควรใช้ชีวิต ควรบริโภคสิ่งต่าง ๆ เช่นไร แต่ที่พลาดไม่ได้คือ การรับรู้ว่า ในปี 2011 เราอาจต้องเผชิญกับธรรมชาติพิโรธในรูปแบบต่าง ๆ ที่เรา

มิอาจทัดทานได้ ดังเช่น 5 ภัยธรรมชาติที่พึงระวังในปีกระต่าย

1.น้ำท่วม...ปรากฏการณ์ลานิญาอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมได้ โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนกลางปีอาจจะเกิดน้ำท่วมเสียหายในหลายจังหวัด เหมือนกับปีที่ผ่านมา ต้องเก็บกักน้ำในเขื่อนให้ดี คำถามที่สำคัญก็คือ หากจะป้องกันน้ำท่วมที่กรุงเทพฯจะต้องเตรียมรับมืออย่างไร ไม่ให้จังหวัดข้างเคียงอย่างพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้รับความเดือดร้อนมากเหมือนปีที่แล้ว ?

2.ดินถล่ม...ในปัจจุบันมีจำนวนพื้นที่เสี่ยงมากถึง 2,700 แห่ง โดยเฉพาะที่ลาดเชิงเขามีโอกาสเสี่ยงมาก ฉะนั้นต้องให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมรับมืออย่างจริงจัง โดยเฉพาะทางแถบภาคเหนือ

3.เขื่อนแตก...ที่พม่ามีรอยเลื่อนสะแกงผ่า กลางประเทศทำให้เกิดแผ่นดินไหวประมาณปีละ 200 ครั้ง เฉลี่ย 5-6 ริกเตอร์ และทั้งนี้ยังคงต้องจับตารอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ หากศูนย์กลางแผ่นดินไหวใกล้กันกับเมืองไทยแถวจังหวัดกาญจนบุรี อาจสร้างความเสียหายมากมาย โดยเฉพาะเขื่อนใหญ่ ๆ อย่างเขื่อนศรีนครินทร์อาจจะเกิดปัญหา

เขื่อนแตก อีกทั้งที่แห่งนี้ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 300 ก.ม. อาจจะได้รับผลกระทบด้วย ควรมีการเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้

4.คลื่นยักษ์สึนามิ...แม้ว่าจะยังไม่สามารถคาดการณ์การเกิดคลื่นยักษ์สึนามิล่วง หน้าได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่พื้นที่เสี่ยงยังคงเป็นชายฝั่งอันดามันตั้งแต่ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง สตูล ที่ต้องทำระบบเตือนภัยสึนามิล่วงหน้าไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.พายุ... นับวันยิ่งรุนแรงและคาดเดาได้ยาก ในช่วงมรสุมได้แก่ช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายนของปีหน้า เป็นเดือนที่ต้องจับตาดูพายุที่เคลื่อนที่เข้าสู่เมืองไทยอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องของสภาพอากาศแปรปรวนยังเป็นเรื่องที่เราต้องรับความเป็นจริงที่ เราต้องเผชิญ

รู้หรือไม่ ?

TerraChoice บริษัทสำรวจ

ตลาด ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมสำรวจออกมาว่า ระหว่างปี 2009-2010 ตัวเลขของผู้บริโภคชาวอเมริกันที่บริโภคสินค้าที่แปะป้ายว่า "เขียว" เพิ่มขึ้นถึง 73 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่

น่าตกใจก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่แปะป้ายบอกว่าเขียวในตลาดกลับกลายเป็นเขียวปลอม หรือ "ฟอกเขียว" ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ !

วันที่ 03 มกราคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4276 หน้า 36
-------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านหัวข้อกับตบท้ายต่างกันลิบ น่าจะเป็นเขียวแท้ครองโลก(จริงเหรอ)!!!
 
ก็เจอฟอกเขียวถึง 95%  ... จ่ายแพงไปแล้วแต่ยังทำร้ายธรรมชาติเช่นเดิม อย่างนี้บริษัทผลิตสินค้าก็เข้าข่ายหลอกลวง ถ้าตรวจพบก็สมควรจะมีบทลงโทษตามมาด้วย 

 

ไม่มีความคิดเห็น: